“กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์” หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด–19 โดยตรง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้พยายามปรับรูปแบบของโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดขององค์กรที่มีพนักงานกว่า 10,000 คน
ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แม้ว่าจะได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีใครสามารถตอบได้ชัดเจนว่าการเดินทางท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่ ถึงทั่วโลกจะมีวัคซีนเป็นความหวังสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตปกติในวิถีใหม่แต่ก็ยังรักษาพนักงานทั้งหมดไว้ จนเป็นที่ชื่นชมและเป็นกรณีศึกษาให้บริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ล่าสุดได้เปิดโมเดลธุรกิจใหม่อีกครั้งเพื่อกระตุ้นธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจท่องเที่ยว
เป็นกลยุทธ์เฉพาะกิจ King Power TeamPower ภายใต้แคมเปญ SV Team Challenge ให้พนักงานทุกคนของบริษัทร่วมมอบประสบการณ์เหนือระดับและสิทธิประโยชน์ด้วยส่วนลดที่คุ้มค่าสำหรับสินค้าและบริการผ่าน SV Code หรือโค้ดพนักงานให้ลูกค้าได้ใช้สิทธิพิเศษที่คุ้มค่า ในขณะที่พนักงานเองมีรายได้เสริมด้วย
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า จนถึงปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปกว่า 90% ที่ผ่านมาได้ปรับวิธีการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เริ่มด้วยโครงการ King Power Team Power เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนในบริษัทสามารถร่วมขายสินค้าในระบบออนไลน์ โดยมอบส่วนลดให้ลูกค้าผ่านรหัสพนักงานหรือที่เรียกว่า SV Code ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ส่งผลให้ระบบขายออนไลน์ในเว็บไซต์ Kingpower.com และคิงเพาเวอร์แอปพลิเคชันเป็นที่รู้จัก ฐานลูกค้าในระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด พนักงานมีรายได้เสริมจากการขายสินค้าเพื่อนำไปดูแลครอบครัว ในขณะที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำได้ในราคาประหยัด
มาวันนี้ได้ต่อยอดโมเดลธุรกิจกับแคมเปญ SV Team Challenge กับนโยบายเชิงรุกในปี 2021 เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถเดินต่อในวันที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยว
“เป็นโครงการพิเศษที่สะท้อนรูปแบบการบริหารจัดการธุรกิจอย่างนอกกรอบในวิกฤติของคิง เพาเวอร์ เป็นการบริหารภายใต้แนวคิด Life Beyond Boundaries เพื่อมอบประสบการณ์ระดับโลกอย่างไร้ขีดจำกัดแก่ลูกค้ากล่าวคือ ลูกค้าสามารถใช้รหัสพนักงาน หรือ SV Code เป็นส่วนลดเพิ่ม 5% ในการซื้อสินค้าดิวตี้ฟรี และไม่ใช่ดิวตี้ฟรี โดยลูกค้าที่มีและไม่มีไฟลท์บินสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ในช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com และแอปพลิเคชัน Kingpower”
ตลอดจนการใช้รหัสพนักงานเพิ่มสิทธิประโยชน์จากธุรกิจบริการอื่นๆ ในกลุ่ม อาทิ สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้บริการศูนย์อาหารสตรีทฟู้ด Thai Taste Hub ทั้ง 2 สาขา คือ สาขารางน้ำ และมหานครคิวบ์, ราคาพิเศษที่มหานคร สกายวอร์ก และห้องอาหารมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ตลอดจนการใช้บริการในฟังก์ชันต่างๆ ของโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในส่วนของห้องอาหารต่างๆรวมถึงสามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่ม Multiply By Eight (X8) ผู้ผลิต คิง เพาเวอร์ โรล, ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์การขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งการต่อยอดโมเดลธุรกิจในวิกฤติครั้งนี้ โจทย์สำคัญคือตอบโจทย์ลูกค้าให้เข้าถึงสินค้าและบริการมากขึ้น ในขณะเดียวกันองค์กรสามารถขับเคลื่อนได้ คู่ค้าสามารถขายสินค้า พนักงานมีรายได้เสริมดูแลครอบครัว เป็นแคมเปญที่ต้องผ่านกระบวนการสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอกด้วยแนวทางสร้างและบริหารจัดการศักยภาพบุคลากรในองค์กรท่ามกลางภาวะวิกฤติ มีองค์ความรู้ใหม่ให้พนักงานทุกคน ทุกระดับในองค์กรเรียนรู้ไปด้วยกัน สำหรับการก้าวผ่านวิกฤติและพร้อมสำหรับการท้าทายใหม่ในอนาคต”
นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้เปิดโมเดลธุรกิจใหม่ผ่านหลายแคมเปญเช่น Shop Save StaySafe พร้อมกับปรับรูปแบบแคมเปญให้ลูกค้าคนไทยเข้าถึงสินค้าที่จำหน่ายผ่านหน้าร้านของคิง เพาเวอร์ ด้วยแคมเปญ No Flight No Worries ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, มหานคร, พัทยา และภูเก็ต โดยไม่ต้องมีไฟลท์บินก็ซื้อสินค้าได้ในรูปแบบสินค้าโฮม ดีลิเวอรี โดยทางคิง เพาเวอร์ เป็นผู้ชำระภาษีให้ลูกค้า
ในขณะเดียวกัน บริษัทสร้างบรรทัดฐานใหม่ด้านสุขอนามัยสำหรับการให้บริการ ตามแนวทาง King Power Care Power ให้เกิดผลเพื่อการควบคุมโรคในปัจจุบัน และการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
ส่วนโมเดลใหม่ล่าสุดคาดว่าจะส่งผลให้สินค้าและบริการในกลุ่มบริษัท เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของห้องอาหาร ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า และเข้าถึงง่ายในปัจจุบัน
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/2035728