หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: เอาตัวรอดจากไฟไหม้รถ  (อ่าน 1 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 26 เม.ย. 23, 13:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ในยุคที่น้ำมันมีราคาแพง อาจทำให้เจ้าของรถยนต์หันมาให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือกที่อาจเป็นทางออกแห่งอนาคต แต่ก็มีเจ้าของรถยนต์รุ่นเก่าหลายรายที่ยังคงให้ความนิยมนำรถยนต์ไปติดแก๊สทั้งแบบ NGV หรือ LPG เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จนทำให้หลายครั้ง เมื่อรถยนต์ที่ติดแก๊สเกิดอุบัติเหตุจนไฟลุกท่วมไหม้ตัวรถ อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับผู้คนได้มากมาย แล้วหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไฟกำลังไหม้ตัวรถ ผู้โดยสารหรือผู้ที่ติดอยู่ในตัวรถ จะต้องทำอย่างไรเพื่อเอาชีวิตรอด สินมั่นคง ประกันรถยนต์ รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้ที่นี่แล้วค่ะ
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้รถ
เหตุไฟไหม้รถมักเกิดขึ้นกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส LPG หรือ NGV ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมานาน รถที่ผ่านการปรับแต่งสภาพ รวมถึงขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แนะนำวิธีเอาตัวรอดพร้อมวิธีป้องกันจากไฟไหม้รถ ไว้ดังนี้

1. กรณีไฟไหม้รถเล็กน้อย

• หากเป็นรถที่ติดตั้งระบบแก๊ส ให้รีบปิดสวิตช์การทำงานของระบบแก๊สและดับเครื่องยนต์
• นำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิง
• หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถให้ปลดสลักฝากระโปรงออกแล้วฉีดพ่นผ่านช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้
• ห้ามเปิดฝากระโปรงทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น
• เมื่อไฟเริ่มสงบจึงค่อยๆ แง้มฝากระโปรงขึ้นโดยใช้ผ้ารอง หรือสวมถุงมือเพื่อป้องกันความร้อนจากบริเวณฝากระโปรง
• นำถังดับเพลิงมาฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่อง จนมั่นใจว่าไฟดับสนิทแล้ว
• รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเปลวไฟทะลุขึ้นมาอีก


2. กรณีไม่มีถังดับเพลิง

- ใช้ผ้าแห้ง ผ้าเปียก หรือทราย มาโปะบริเวณที่เกิดไฟไหม้รถ
- ใช้ขวดน้ำเจาะปากขวดเป็นรูเล็กๆ ฉีดบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้


3. กรณีที่ไฟไหม้รถลุกลามอย่างรวดเร็ว

- ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์ แล้วรีบออกจากรถ
- วิ่งออกไปให้ห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดการระเบิดได้
- รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 มาควบคุมเพลิงให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง

วิธีการใช้งานถังดับเพลิง 4 ขั้นตอน
1. ดึง - เอาถังดับเพลิงวางไว้ด้านที่ถนัด หันด้านฉลากเข้าหาลำตัว จากนั้น “ดึง” สลักนิรภัยออก และหิ้วถังดับเพลิงไปที่จุดเกิดไฟไหม้ โดยยืนห่างจากกองไฟ ประมาณ 3-4 เมตร และยืนเหนือทิศทางลม

2. ปลด - ปลดปลายสายออกจากตัวถัง จับปลายสายให้แน่นอย่าให้หลุดมือ เล็งไปยังบริเวณฐานของกองไฟ (ห้ามฉีดที่เปลวไฟ)

3. กด - กดคันบีบของถังดับเพลิงให้สุดคันบีบ ให้เคมีออกมาอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

4. ส่าย - ส่ายปลายสายถังดับเพลิงไปมา เพื่อให้ผงเคมีที่ฉีดออกมาครอบคลุมทั่วทั้งกองไฟ โดยระหว่างดับไฟให้ย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อหลบเปลวไฟและความร้อน ฉีดจากตำแหน่งใกล้ไปไกล เมื่อแน่ใจว่าไฟดับสนิทแล้วจึงถอยออกจากที่เกิดเหตุ

วิธีป้องกันไฟไหม้รถ
1. ก่อนขับรถ
- ตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานเสมอ เช่น เติมน้ำหม้อน้ำในระดับเท่าที่กำหนด ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและในท่อยาง
- เช็กสภาพท่อน้ำมันเชื้อเพลิงว่าไม่มีรอยรั่ว สายพานรถมีความตึงในค่าที่กำหนด
- เช็กกระโปรงหน้ารถว่ามีเขม่าดำเกาะหรือไม่ เพราะแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์
- ตรวจดูใต้ท้องรถว่ามีรอยน้ำมันหยดหรือไม่ หากมีควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน
- ควรเตรียมขวดบรรจุน้ำ ถังดับเพลิงเคมีไว้ที่ด้านข้างคนขับหรือบริเวณที่หยิบได้ง่าย เพื่อให้ใช้งานได้ทันทีหากไฟไหม้รถ


2. ขณะขับรถ
- ควรสังเกตสัญญาณเตือนอยู่เสมอ เช่น มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์ซึ่งอยู่บริเวณหน้าปัดรถยนต์ หากหม้อน้ำแห้ง พัดลมระบายความร้อนขัดข้อง จะทำให้รถยนต์ร้อนจัดจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ เพราะบริเวณกระโปรงหน้ารถเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์และสายไฟต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ
- รถยนต์ที่ใช้แก๊สต้องระวังบริเวณส่วนท้ายรถเพราะเป็นที่ตั้งของถังแก๊ส หากรถมีอาการกระตุกขณะขับขี่ควรนำไปตรวจสอบสภาพ เพราะเครื่องยนต์อาจขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่วทำให้อากาศเข้าไปจนการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดไฟไหม้รถได้


3. ก่อนสตาร์ตรถควรตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องยนต์ทุกครั้ง ว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้รถที่อาจเกิดขึ้นได้


4. ไม่ควรซื้อรถมือสองที่ไม่ทราบประวัติการขับขี่มาใช้งาน และเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยช่วยลดแรงปะทะจากอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้

แม้การใช้รถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส LPG หรือ NGV จะมีส่วนช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ให้บริการรถโดยสารที่มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเป็นปัจจัยหลัก แต่ก็ต้องนำมาซึ่งความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นทั้งต่อตัวรถโดยสารและผู้ใช้บริการ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ก็อาจนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงตามมาได้เช่นกัน
ประกันรถยนต์ตามเวลา ประกันชั้น 1-3+ เลือกได้ตามใจ ให้ความคุ้มครอง 3, 6, 12 เดือน จ่ายสบาย ช่วยแบ่งเบาภาระในยามวิกฤต เพิ่มความอุ่นใจเมื่อออกเดินทาง สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/productmotordetail/1024 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance
และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม