นี่หรือ...คือธนาคารที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ

นี่คือเรื่องจริงจากประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับจากธนาคารกสิกรไทย
เรา ได้ทำการกู้เงินซื้อบ้านจากกสิกรสำนักงานสาขาพหลโยธินโดยทางธนาคารอนุมัติเรียบร้อยหลังจากนั้น ได้มีการคุยกับเซล ว่าต้องการกู้เพิ่มสามแสนเพื่อต่อเติมบ้าน วันที่ 30 กค ทางธนาคารส่ง SMS มาบอกว่าไม่อนุมัติ และทางเราก็ได้ทำการเช็คไปกับ call center ก่อนหน้านี้เพื่อความแน่ใจและก็ได้รับแจ้งว่าไม่อนุมัติ แต่วันที่ 11 สิงหามีการโอนเงินเข้ามาเกือบ 280000 บาท โดยทางเราไม่ได้รับแจ้งจากธนาคารล่วงหน้ามาก่อนว่าเงินอนุมัติ และตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเงินใคร มาจากไหน พยายามติดต่อธนาคารแต่ไม่มีใครตามเรื่องให้ว่าเงินมาได้อย่างไง เพราะในวันนั้นทางบริษัทของเราก็ได้โอนเงินค่าโอทีและค่าน้ำมันมาให้เช่นกัน จึงกดเอามาใช้ และคิดว่าจะยังไม่ยุ่งกับเงิน 280000 เพราะไม่แน่ใจว่าใครโอนมา และธนาคารเองก็ไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าเงินมาจากธนาคารหรือไม่ วันที่24 สิงหา ได้เข้าไปที่ธนาคารสาขา พหลโยธิน ไม่มีใครให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่าเงินอนุมัติเมื่อไหร่ แล้วทำไมโอนเงินมาโดยไม่แจ้ง ที่สำคัญคือให้ทางเราจ่ายคืนธนาคารเดือนละ 9850 บาทต่อเดือน โดยที่ไม่เคยแจ้งล่วงหน้าเช่นกัน เราไม่เคยยินยอมจะจ่ายเงินยอดนี้ มันมากเกินไป และทางเราคุยกับทางเซลแล้วว่าเราจ่ายเพิ่มได้อีกเพียง 6000 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ทางธนาคารให้เราเซ็นใบสมัครกู้เงินเพิ่ม โดยไม่เคยบอกว่ายอดที่ต้องจ่ายสูงถึง 9850 บาทต่อเดือน โดยที่ไม่เคยแจ้งอะไรกลับเลย นอกจาก ส่งข้อความแจ้งทางมือถือว่าไม่อนุมัติเมื่อวันที่ 30 กรกฎา เราไม่ยอมรับที่จะจ่ายเงินต่อเดือนมากกว่า 6000 บาทตามที่เคยคุยกับเซลตั้งแต่แรกแล้ว เราพยายามติดต่อเซล แต่ไม่รับสายเลย บางทีก็ติดต่อไม่ได้ เหมือนไม่รับผิดชอบอะไรอีกเลย คงได้เงินค่าคอมไปเยอะแล้ว ไม่ต้องสนใจเราอีก ติดต่อ call center ก็ไม่มีผล รับเรื่องๆ แต่ไม่เคยมีอะไร มันควรจะตกลงและได้รับความยินยอมจากเราก่อนว่าเราต้องจ่ายยอด 9850 บาท ไม่ใช่มัดมือชก ลองคิดดูว่าสิ่งที่ธนาคารทำถูกต้องหรือไม่
วันที่ 25 สิงหาทางเราได้เข้าไปที่ธนาคารกสิกรสาขาพหลโยธิน เพื่อตามเรื่องเอง เราได้เจอกับ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากให้เราขับรถไปตามเรื่องเองที่แจ้งวัฒนะ และเมื่อเราไปถึงแจ้งวัฒนะ เราได้คุยกับคุณนรินทรว่าเรามีแค่ 2 ทางเลือกคือ 1 คืนเงินไปทั้งหมดเพราะเราไม่เคยยินยอมที่จะจ่ายเงินคืนให้สูงถึง 9850 บาทต่อเดือน และ 2 ปรับอัตราการจ่ายคืนเงินไม่เกินหกพันบาทและยืดระยะเวลาส่งคืน และระหว่างนี้จะยังไม่มีการคิดดอกเบี้ยหรือหักเงินเดือนทั้งสิ้น ซึ่งทางคุณนรินทรก็รับปากจะช่วย และจะไม่มีการหักเงินหรือคิดดอกเบี้ยระหว่างที่กำลังรอเรื่อง (เราได้เงินเดือนผ่านธนาคารกสิกร)
จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ทางคุณนรินทรโทรมาเพื่อบอกว่ากำลังดำเนินการ และเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมคุณนรินทรได้โทรมาอีกเพื่อแจ้งว่าเราสามารถคืนเงินได้ เพราะคงไม่สามารถช่วยให้เราใช้เงินคืนแบงค์ได้ต่ำกว่า 9850 บาท แต่ต้องเก็บค่าดอกเบี้ยและค่าปรับ ทางเราไม่ยอม เพราะเราโดนมัดมือชกแต่แรกแล้ว จากนั้นวันที่ 5 คุณนรินทรโทรมาบอกว่าสามารถคืนเงินได้โดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม แต่เงินเดือนของเราโดนทางแบงค์กสิกรหักไป 9850 บาท ทั้งๆที่ทางคุณนรินทรบอกว่าจะยังไม่มีการหักเงินหรือคิดดอกเบี้ยใดๆ ทั้งสิ้น
วันที่ 6 ตุลาทางคุณนรินทรโทรมาแจ้งว่าให้คืนเงินได้แต่ไม่สามารถคืนเงินที่หักจากเงินเดือนยอด 9850 บาทให้ได้ ทางเราไม่ยินยอม และวันที่ 7 ตุลา คุณนรินทรโทรมายืนยันเหมือนเดิมและบอกว่าเราต้องทำหนังสือถึงผู้ใหญ่เองว่าจะยินยอมหรือไม่ เราเสียเวลามามากมายขนาดไหน ทางธนาคารให้เราทำเองอีกเหรอ? เราเครียดมากที่เราโดนโกง!!! อีกทั้งยังมาบอกเราว่าข้อความที่ส่งผ่านมือถือว่าไม่อนุมัติคือแจ้งไม่อนุมัติบัตรกดเงินสดที่เซลเคยแนะนำให้ทำและหลอกเราว่าจะทำบัตรกดเงินสดให้ยอด 300000 บาทดอกเบี้ย 16% แต่ต่อมาบัตรกดเงินสดได้รับการอนุมัติแล้วที่วงเงิน 50000 บาทแต่ดอกเบี้ย 22% นั่นแสดงว่าข้อความที่ส่งมาไม่เกี่ยวกับบัตรกดเงินสด แต่ธนาคารไม่มีความจริงใจที่จะพูดความจริงเพียงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง และเราได้ทำการยกเลิกบัตรกดเงินสดเช่นกัน เพราะข้อมูลที่ได้รับกับเงินที่ได้รับไม่ตรงกัน
คำถามถือ
กสิกรเห็นผลประโยชน์และเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงินมากกว่าความรู้สึกลูกค้า กสิกรไม่เคยขอโทษ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำงานพลาด ไม่เคยรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งยังปัดความรับผิดชอบมาให้ลูกค้า เพียงเพราะเห็นแก่ตัว
ลูกค้าทำอะไรผิด นี่คือคำถาม??? เราไม่เคยไปตกลงกับทางธนาคารที่จะจ่ายเงินคืนถึงเดือนละ 9850 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลาสามปี เพราะเราบอกเซลไปแล้วว่าเราจ่ายคืนได้เพียงเดือนละ 6000 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่ธนาคารก็โอนเงินมาโดยไม่โทรหรือติดต่อมาถามเราว่าถ้าต้องจ่ายคืน 9850 บาทต่อเดือน เรารับได้ไหม ทั้งๆที่ธนาคารก็รู้อยู่แล้วว่ามันเกินกำลังเรา
ขอร้อง ว่าให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ทางธนาคารจะเอาเปรียบคนอื่นและทำให้คนอื่นเดือดร้อน เสียเวลา เสียความรู้สึก เสียสุขภาพจิตเหมือนอย่างที่เป็นมาเกือบ 3 เดือน และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อกสิกรไทยอีก

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน