เปิดอาณาจักรเจ้าสัวเจริญ

เปิดอาณาจักรเจ้าสัวเจริญ สยายปีกใหญ่ในตลาดหุ้นไทย ต่อยอดธุรกิจน็อน-แอลกอฮอล์

เปิดอาณาจักรเจ้าพ่อน้ำเมา "เจริญ สิริวัฒนภักดี" สยายปีกเข้าตลาดหุ้นไทยผ่านการเทกโอเวอร์ ทั้ง"โออิชิ" และ"เสริมสุข" หวังช่วยต่อยอดทั้งธุรกิจแอลกอฮอล์และน็อนแอลกอฮอล์ นักวิเคราะห์ระบุช่วง2-3ปีที่ผ่านมาเจ้าสัวเจริญสามารถเชื่อมโยงทุกบริษัทกันถึงได้หมด โดยเฉพาะระบบ"โลจิสติกส์"

ถึงวันนี้ ไม่มีใครสามารถสกัดกั้นความใหญ่ของ "เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี" หรือ "เจ้าพ่อน้ำเมา" ได้อีกแล้ว

เพราะวันนี้สยายปีกเข้ามาใหญ่ในวงการตลาดหุ้นอย่างแรงทีเดียว นับตั้งแต่ "เจ้าสัวเจริญ" เข้ามาเทกโอเวอร์ "โออิชิ" จนสร้างความฮือฮาแล้ว ทุกครั้งที่เกิดดีลใหญ่ ๆ ขึ้น "เจ้าสัวเจริญ" จะตกเป็นเป้า "นักซื้อ" บ่อยครั้ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เครื่องดื่ม แม้แต่โลจิสติกส์ที่แฝงอยู่ใน "บมจ.เสริมสุข" ภาพเจริญในวันนี้จึงเป็นการรุกทั้งธุรกิจแอลกอฮอล์และน็อนแอลกอฮอล์

"ไทยเบฟฯ" ในร่าง "โออิชิ"

ความจริง "เจ้าสัวเจริญ" เคยอยากเอา "บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ" เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยให้ได้ในช่วงปี 2549 แต่ถูก ต่อต้าน "ธุรกิจแอลกอฮอล์" เป็น "ธุรกิจสีเทา" หรือที่เรียกกันว่า "สินค้าบาป" จนต้องเปลี่ยนแผนย้ายไปจดทะเบียนใน "ตลาดหุ้นสิงคโปร์" แทน ด้วยทุนจดทะเบียน 25,110 ล้านหุ้น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ประมาณ 6,500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 155,400 ล้านบาท แต่หุ้นที่เทรดในตลาดหุ้นสิงคโปร์ไม่ค่อยมีสภาพคล่องเท่าที่ควร "เจ้าสัวเจริญ" จึงยังอยากนำหุ้น "ไทยเบฟเวอเรจ" เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งเมื่อปี 2551เป็นลักษณะจดทะเบียน 2 ตลาด (duo listing) แต่ก็ถูกกระแสคัดค้านจนต้องล่าถอยออกไป

แต่ "เจ้าสัวเจริญ" ไม่ได้จนหนทาง เพราะสามารถดัน "ไทยเบฟเวอเรจ" แทรกตัว เข้ามาในตลาดหุ้นไทย ด้วยการเข้าซื้อกิจการของ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เมื่อปลายปี 2548 มูลค่า 3,000 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นใหญ่ "ตัน ภาสกรนที" ในราคาหุ้นละ 32.50 บาท ซึ่งช่วงนั้นมาร์เก็ตแคปของ OISHI อยู่ที่ประมาณ 4,593.75 ล้านบาท โดยช่วงแรกที่ส่งเข้ามาซื้อกิจการ คือ บริษัท ยอดกิจธุรกิจ ถือหุ้นสัดส่วน 40.01% และต่อมาโอนให้ "ไทยเบฟเวอเรจ" เข้ามาถือหุ้นสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 89.93% ในปี 2553 ซึ่งปัจจุบัน (28 ธ.ค.) ราคาหุ้น OISHI อยู่ที่ 102 บาท เพิ่มขึ้นจากต้นทุนที่ "เจ้าสัวเจริญ" ซื้อมาถึง 221% มูลค่าราคาตลาดรวมของหุ้นนี้อยู่ที่ 19,125 ล้านบาท เรียกว่ากำไรถึง 16,000 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการของโออิชิ นับตั้งแต่ปี 2549-2552 มีอัตราการเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี โดยกำไรอยู่ที่ 189.11 ล้านบาท กระโดดขึ้นมาในปี 2552 อยู่ที่ 751.33 ล้านบาท และล่าสุดงวด 9 เดือน ปี 2553 กำไร 805 ล้านบาท

นอกจากนี้ "เจ้าสัวเจริญ" ยังซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลัง "แรงเยอร์" และ"คาราบาวแดง" ในปี 2549 เป็นขยายตัวเชิงรุกในธุรกิจ "น็อนแอลกอฮอล์" เต็มตัว ทำให้มีมาร์เก็ตแชร์ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 รองจากอันดับ 2 "กระทิงแดง" และอันดับ 1 "ลิโพ และเอ็ม-150"

"บ.เอสเอสฯ" นอมินีหรือตัวจริงซื้อ SSC

การขยายอาณาจักรในตลาดหุ้นของ "เจ้าสัวเจริญ" ไม่หยุดเท่านั้น เพราะล่าสุด ดีล "บมจ.เสริมสุข" (SSC) เกิดศึกแย่งชิงกิจการระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ฝ่าย คือ ฝั่ง Pepsi Co., Inc. และ Seven-Up International ซึ่งถือหุ้นรวมกัน 41.54% ทำคำเสนอซื้อคืน (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หุ้นที่ 29 บาท เมื่อกลางปี 2553 ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมินของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระคาดไว้ที่หุ้นละ 42 บาท และสุดท้ายฝั่งเป๊ปซี่ โค ก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไม่สำเร็จ เนื่องจากฝั่ง "บูลสุข" ขอซื้อหุ้นกับกลุ่ม "โอสถานุเคราะห์" โดยได้หุ้นไปถือรวมเป็นสัดส่วน 20.61%

และในเดือนตุลาคม 2553 เกิดดีลย้อนศรกลับ โดยบริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด เข้ามาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ราคา 42 บาท ซึ่งประสบผลสำเร็จดีลนี้ด้วยเงินลงทุนซื้อทั้งหมด 11,167 ล้านบาท ได้หุ้นไปถือสัดส่วน 32% โดยกลุ่ม "บูลสุข" ขายหุ้นที่ถืออยู่ออกหมดเกลี้ยงพอร์ตให้กับ"เอสเอสฯ"

ทำให้ "เอสเอสฯ" กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ทันที หากดูกลุ่มผู้ถือหุ้นของเอสเอสฯ เพิ่งมีการจัดตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาไม่นานเอง โดยผู้ถือหุ้นมีนายศราวุธ เทียนสุวรรณ กรรมการของบริษัท รัตนคิรี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทย คอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ หรือ TCIF (ลงทุนอาคารเนชั่น ทาวเวอร์ บางนา ของเจ้าสัวเจริญสิริวัฒนภักดี) จึงเป็นที่มาของ ดีลเป๊ปซี่ที่มีเงา "เจ้าสัวเจริญ" ทาบอยู่

จุดแข็งของ "เสริมสุข" คือ ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะสามารถต่อยอดให้กับธุรกิจเครื่องดื่ม "เจ้าสัวเจริญ" สร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมากมาย ไม่ว่า "ศักดิ์ชัย" จะเป็นตัวจริงหรือนอมินีก็ตาม

"อวยชัย ตันทโอภาส" กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ระบุความต้องการของกลุ่มไทยเบฟฯ ที่ต้องการขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ของโลก อย่าง"คิริน และซานมิเกล" ที่ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ในอาเซียนอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทางกลุ่มต้องมีการขยายธุรกิจไปน็อนแอลกอฮอล์

ในมุมมองของ "เล็ก สิขรวิทย" รองกรรมการผู้อำนวยการ งานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส เห็นว่า กิจการที่ "เจ้าสัวเจริญ" ซื้อเข้ามาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันหมด และยังสามารถลิงก์กับบริษัทที่ถืออยู่แล้วอย่าง บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ซึ่งผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด ซึ่งเอื้อให้กับ "ไทยเบฟเวอเรจ" และ "โออิชิ" และหากได้ "เสริมสุข" เข้ามาเสริมด้าน "ระบบโลจิสติกส์" นับเป็นการซื้อธุรกิจที่มีเป้าหมายชัดเจน คือ สร้าง "synergy" ให้อาณาจักรใหญ่และครบวงจร แม้ดีล BJC ไปซื้อ "คาร์ฟูร์ในไทย"ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อการสยายปีกของ "เจ้าสัวเจริญ" ในตลาดหุ้นแต่อย่างใด

วันนี้ "ฟอร์บส" จัดอันดับให้ "เจ้าสัวเจริญ" เป็นเศรษฐีไทยอันดับ 3 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 4,150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 แสนกว่าล้านบาท โดยหุ้น 2 ตัวที่บริษัทของ "เจ้าสัวเจริญ" ถือหุ้นใหญ่ มีมูลค่ารวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 37,613 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมดีล "เสริมสุข" ที่ไม่ปรากฏเป็นทางการว่า "เจ้าสัวเจริญ" ถือหุ้นจริง จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อในปีนี้

ความสำเร็จที่สามารถเอื้อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมได้ เป็นความสำเร็จที่หน้าชื่นชม

เด๋วก็มีคนอิจฉาออกมาด่าอีก q*013

เหรอครับ! ไทยเบฟก็ยังเป็นลองบริษัทโอสถอ่ะดิ วันหลังเอาข้อมูลของบริษัทโอสถมาด้วยนะ งึ q*003

รวยนัก...ช่วยทุนเด็กยากไร้ให้ได้เรียนสูง สูงหน่อยเถอะได้โปรด....

พวกมีการศึกษาสูงชอบแบบนี้และ...รวยโดยฆ่าคนไทยทางอ้อม..ไทยติดอันดับ 5 ของโลกมีกล่าวถึงบ้างมั้ย...

รวยขนาดนี้แล้ว..ลืมนึกไปหรือเปล่าว่า..ประชาชนคนไทย..เป็นทาสนำเมาไปกี่ล้านคนแล้ว...อย่าลืมประเทศไทยมีคนติดเหล้าอันดับ 5 ของโลก..

ขายหุ้น ชื้อหุ้น กันแบบนี้ แล้ว คอตอสอ ไม่ตรวจสอบบ้างหรือครับ เสียภาษี เหมือนทักษิณไหมครับ ทำอะไรไว้ขอให้ จงเป็คนคนดีตลอดนะครับ อย่าแกล้งทำเป็นคนดีแค่บางช่วงเลยครับ ถ้าไม่เสียภาษี ก็ยึดอายัดไว้ก่อนเลย อย่าให้มันสอง มอตอฐอ เลยนะครับ ไม่อย่ากแกล้งปลอมเป็นคนชั่ว เลยพับผ่าชิ

ท่าทาง คห.4 จะเป็นคนในโอสถ แน่ๆเลย อิอิ
นานาจิตตัง ใครสามารถทำให้รวยได้ก่อน ก็โกยกันไป
แล้วแต่วาสนา ความพร้อม และ ทัศนคติ

กรรมสนองกรรม ครับ
เงินทองกอบโกยจากการทำลายครอบครัวและสุขภาพเพื่อนร่วมชาติ
จักนำความวายวอดมาสู่วงศ์ตระกูลในไม่ช้า รับรองได้ว่า ไม่รุ่นนี้ ก็รุ่นลูก หรือรุ่นหลาน

คนมีคุณธรรม แม้ฟ้ายังคารวะ
คนไร้คุณธรรม แม้นรกยังสาปแช่ง

รวยแบบนี้ขอให้ทำบุญเยอะๆ นะคะ
ทำบุญขณะที่คนยังเป็นอยู่ เช่น คนพิการ คนยากจน ผู้ยากไร้ และผู้ที่ถูกทอดทิ้ง เมื่อเกิดมาแล้ว เขาลำบาก ช่วยเหลือเขาเถิดค่ะ สงสาร และเห็นใจเค้า ท่านจากไปแล้ว ท่านก้อไม่สามารถเอากลับไปได้ นะคะ

358 ศพ ช่วงปีใหม่ สาเหตุจากสุรา ของเจ้าสัว ไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือ?

อ้างจาก: คนลำปาง ที่ 7 ม.ค. 11, 16:30 น

เห็นด้วยที่สุดครับ

เราเป็นพนักงานในอีกกลุ่ม โครงสร้างของคำว่า tcc group ใหญ่มากไม่ได้เข้าข้างเจ้านายน่ะ แต่ขอบอกว่า ท่านประธานและครอบครัวดีมากๆ ได้ทำ csr ด้วยไม่ต้องห่วงเราตอบแทนกลับคืนสู่สังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม บางคนไม่รู้หรอก บางอย่างก็ปิดทองหลังพระ ท่านไม่ได้มาอวดว่ารวยอะไรเลย ทำด้วยความตั้งใจจริง ได้เปิดโรงงานต่างจังหวัดก็ทำให้ลูกหลานมีงานทำ เรียนจบ ก็กลับไปทำงานที่บ้านเิกิด กำแพงเพชร สุโขทัย ทั่วประเทศ

ไม่เข้าใจ ทำไมต้องว่ากันด้วย ถามว่าถ้าน้ำเมามันไม่ดีจริง ๆ พวกคุณๆ ยังซื้อกินกันอยู่ทำไม แล้วถ้าพวกคุณไม่ซื้อ บ.เค้าจะอยู่ได้ไหม เจ้าสัวและครอบครัวท่านเป็นคนดี ท่านก็บริจาคเงินตั้งเยอะ ช่วยแจกของ แจกผ้าห่ม นี่ก็เพิ่งสร้างโรงพยาบาลและซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ เคยรู้กันบ้างรึเปล่า เบื่อพวกมองคนในแง่ร้าย รู้ไหมว่าปีนึงท่านบริจาคไปกี่ล้านบาท กำไรก็คืนสังคม
อย่างเซ็ง

ขอให้กิจการของเจ้าสัวก้าวหน้าด้วยดี และอย่าลืมหันมาดูแลประชาชนตแอบแทนประเทศชาติแบบกระทิงแดงบ้างนะคะ อย่าทำแบบตระกูลเลวทักษิณนะ

สินค้าน้ำเมาเป็นสิ่งต้องห้ามในคำสอนของศาสนาพุทธ....

เนื่องจากทำให้คนไม่ฉลาด และใช้ชีวิตอย่างวประมาทขาดสติ....

แต่การปล่อยเงินกินดอกเบี้ยอย่างกดขี่ ข่มเหงนั้น นับว่าร้ายแรงไม่แพ้กัน...

ประเทศไทยต้องคลานต้วมเตี้ยมมานานนับ ก็เพราะคนไทยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยการเอารัดเอาเปรียบนั่นเอง...

การขูดรีด ด้วยดอกเบี้ยทั้งในระบบ นอกระบบ ตรึมไปหมด...

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ของสังคมไทยจึงมีแต่คนมีหนี้ท่วมหัวท่วมตัวเป็นส่วนใหญ่...

ดูจากกองทุนฟื้นฟูต่าง ๆ มีอยู่เต็มไปหมด...

แม้แต่ข้าราชการครู หรือข้าราชการต่าง ๆ ก็ต้องมีกองทุนฟื้นฟูพัฒนาอาชีพ( กู้เงินมาใช้หนี้)

ที่นี่ คือ ประเทศไทย....

มือใครยาวสาวได้สาวเอา เรื่องคุณธรรมเอาไว้ทีหลัง...!!!!!!!! q*009

อ้างจาก: คนไทยแท้ ที่ 8 ม.ค. 11, 05:03 น

กระทิงแดงทำอะไรเหรอ

ผมเคยทำงานร่วมกับบริษัทของคุณเจริญมาแล้ว ถูกเอาเปรียบมากมาก
ไม่รู้เพราะคนรอบๆแก หรือตัวแก ควรจะเห็นใจคนที่มีทุนทรัพย์น้อยบ้าง......หรือปลาใหญ่แดกปลาเล็ก

วิบากกรรม การดื่มน้ำเมา
http://video.dmc.tv/media/nona/480928.wmv.html
http://www.youtube.com/watch?v=evA5KrMWzTQ
ผู้ที่ผลิตนี้เค้าจะได้ทั้งบุญและบาป บุญคือ สงเคราะห์โลก แต่กรรมคือ มอมเมาให้เสพน้ำเมา ซึ่งจัดเป็นอบายมุขใน 6 อย่าง กรรมก็ส่วนกรรม บุญก็ส่วนบุญค่ะ
คนที่ดื่มนั้น บางคนยังคิดว่าไม่ได้ก่อโทษ ก่อบาป ก่อทุกข์อะไร เพราะว่าช่วงที่เค้ากินนั้น บางคน เป็นช่วงที่เสวยบุญอยู่ ทำให้ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะหลง (ที่พระพุทธจ้า เรียกว่า พญามาร ทำให้มนุษย์หลงผิดทำบาป) ว่าเป็นความสุข แก้เครียด ความเพลิดเพลิน แต่ถ้าช่วงวิบากกรรมเก่าส่งผล มันจะไปทบต้นและดอก เพราะปัจจุบันชาติ เราไม่มีบุญจากการรักษาศีลข้อนี้ คุ้มครองเราไว้ ถ้าเรามีบุญรักษาศึลข้อนี้ไว้ ช่วงกรรมเก่าส่งผล หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย
โทษของน้ำเมา ถ้าดื่มประจำ จะให้โทษทั้งทางโลก และหลังจากหมดอายุขัย

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน