เปิดใจเพื่อน น้องกาว สาวน้อยผู้โชคร้าย...

[เมื่อ:]

ข้อความที่เขียนขึ้นโดยนายอนนต์ ธราวรรณ เพื่อนร่วมชั้นเรียนและยังเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันกับน้องกาว ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต ระบุว่า

"เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.กาวก็บ่นในเฟซบุ๊คว่า ไม่สบาย ปวดหัว ปวดท้อง น้ำมูก ฯลฯ จากนั้นกาวก็ไปหาหมอ ซื้อยามากินปกติ ก็คิดว่าคงเป็นไข้หวัดเหมือนคนทั่วไปเขาเป็นกัน แล้วกาวก็อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ปวดหัวรุนแรงขึ้น ปวดจนร้องไห้ ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร ไม่มีแรงแม้แต่จะพูด

จนวันที่ 13 พ.ค. ตอนเช้าๆ(เวลาประเทศไทย) ครอบครัวและเพื่อนๆ ของกาว ได้ข่าวจากเพื่อนของกาวที่อเมริกาว่า กาวช็อค หมดสติ ถูกหามส่งรพ.แห่งหนึ่งที่รัฐ Texas (University of Texas Medical College)และตั้งแต่ที่รู้ข่าว ครอบครัว และเพื่อนๆ ของกาวก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้กาวหายป่วย พยายามติดตามข่าวจากทางเพื่อนกาวที่อเมริกาอยู่ตลอด ข่าวแรกที่รู้คือ "กาวนอนนิ่งอยู่ในห้องไอซียู เชื้อแบคทีเรียขึ้นสมอง โอกาสรอด 5%” ข่าวนี้ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก แล้วทุกคนก็หาทางช่วยกาว อยากให้กาวรอด อยากให้กาวได้เจอพ่อแม่ของกาว

....เราเชื่อว่ากาวได้รับรู้ถึงกำลังใจ แรงอธิษฐาน ที่ครอบครัวและเพื่อนๆส่งไปให้กาว ทุกคนเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง กาวจะต้องหาย และพ่อใกล้จะได้เจอหน้าลูก เพราะทุกคนที่รักกาวช่วยกันติดต่อเรื่องให้พ่อกาวไปหากาวที่อเมริกา จนพ่อกาวได้สัมภาษณ์วีซ่าในวันจันทร์นี้ พ่อของกาวบอกกับเพื่อนๆว่า จะเอากาวกับมาเจอกับเพื่อนๆให้ได้"

ในจดหมายนั้น อนนต์ ยังได้เขียนข้อความว่า "กาวเป็นลูกที่ดีมาก เขาบอกเพื่อนๆ เสมอว่า เขาอยากให้ป๊ากับม๊า เขาสบาย เขาอยากเป็นเสาหลักของบ้าน และกาวยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ เมื่อมีกิจกรรมของกลุ่มโต๊ะ กาวเป็นเหมือนเสาหลัก คือถ้าไม่มีกาว กิจกรรมทุกอย่างก็จะไม่สำเร็จ กาวเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ตั้งใจเรียนเพื่อป๊าม๊าของเขา แต่ด้านกิจกรรมกาวก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน กาวได้รับเลือกให้เป็นประธานค่ายจันทร์เจ้าขา (ค่ายสอนหนังสือเด็กที่ยากไร้ในต่างจังหวัด) ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในคณะพาณิชย์ฯ ด้วยความเก่งที่รอบด้านของเธอ กับความจริงใจที่เธอมอบให้กับทุกคน พอเธอเดือดร้อน ทุกคนที่รู้จักกับเธอ รักเธอ ก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของกาวและครอบครัว จึงอยากขอวิงวอนให้คนไทย ช่วยผู้หญิงคนนี้ด้วย ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อกาวหายดี กาวจะเป็นคนคุณภาพของสังคมแน่นอน"

ภายหลังทราบข่าวน้องกาวเสียชีวิต มติชนออนไลน์ จึงได้โทรศัพท์ไปถึง อนนต์ เพื่อถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว รวมถึงความช่วยเหลือ ซึ่ง อนนต์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงการติดต่อน้องกาว ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลงในระเยะเวลาอันรวดเร็วว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมานี่เอง ที่กาวได้โทรศัพท์ติอต่อมายังเพื่อนๆในคณะที่อยู่ที่มหาวิทยาลัย เรื่องนัดกันทำกิจกรรม จากนั้น กาวก็รีบวางโทรศัพท์บอกกับเพื่อนว่าไม่มีแรงจะคุยแล้ว ซึ่งพวกตนทราบว่า ก่อนหน้านี้ กาวบ่นปวดหัว ปวดท้องก็คิดว่าเป็นอาการปกติทั่วไป ในการไป เวิร์กแอนด์แทรเวลครั้งนี้ กาวไปกับเพื่อนสนิทรวม 3 คน แต่ก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานคนละรัฐ เท่าที่ทราบคือกาวไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ที่ร้าน Casey′s เจ้าของเดียวกับ Gaido′s ก่อนจะมาทราบข่าวการป่วยและเสียชีวิตของกาว ซึ่งทุกคนในคณะต่างช็อค เศร้าสลดกับการจากไปของกาวมาก เนื่องด้วยกาวเป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่ เป็นรุ่นน้องที่เป็นที่รักของทุกคน ด้วยความที่เป็นคนร่าเริง แจ่มใสตลอดเวลา เข้าได้กับทุกคน เป็นเด็กที่เรียนเก่ง กิจกรรมก็ครบ พอเกิดเรื่องทุกคนก็อยากหาทางช่วยเหลือเพื่อระดมทุนให้พากาวได้กลับมาอยู่บ้าน เราก็รอฟังข่าวกาวมาโดยตลอด ขณะที่ยอดเงินช่วยเหลือ ขณะนี้ก็ทราบมาว่า คนไทยที่ทราบข่าวได้บริจาคช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารมาได้ประมาณ 3-4 แสนบาทแล้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของกาวนั้น ตนไม่ทราบจริงๆ แต่คาดว่าน่าจะเป็นมาจากอาหารการกิน

สุดท้าย ตนอยากจะบอกกับกาว เพื่อนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับและเป็นที่รักของทุกๆ คน ว่า "ขอให้กาวไปดี ไปอยู่ในที่ดีๆ ไม่ต้องเป็นห่วง ทางนี้จะช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ทุกคนรักกาวนะ"

ที่มามติชนออนไลน์

[ตอบ #1 เมื่อ:]

ผมเป็นคนนึงที่ช่วยโดยการโอนเงินผ่านบัญชีเพื่อช่วยน้อง..แต่พอมาอ่านข่าวตอนเช้าว่าครอบครัวน้องไม่ยอมให้หมอชันสูตรศพ..ผมกลับรู้สึกเสียดายเงิน 2000 บาท ขึ้นมาทันใด ..ครอบครัวน้องจะรู้มั๊ยว่า คุณประดยชน์มันมากมายแค่ไหนถ้าทางครอบครัวยอมให้มีการชันสูตร...ผมผิดหวังกับครอบครัวนี้มาก สุดท้ายคุณก็แค่คนเห็นแก่ตัว..ไม่น่าออกมาเรียกร้องความสงสารจากคนอื่นด้วยซ้ำ..เพราะครอบครัวนี้ก็ไม่คิดจะช่วยเหลือใครเหมือนที่ไม่ยอมให้หมอชันสูตรเพื่อศึกษาว่าน้องติดเชื้อได้อย่างไร..เป็นการป้องกันไม่ให้เกิด..และเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยคนอื่นๆอีก..ผิดหวังครับ ..และเสียใจที่น้องต้องมาเสียชีวิต และอนาถใจกับครอบครัวนี้...น้องเขาเสียแล้วก็หยุดช่วยเหลือเถอะครับ ถ้าครอบครัวนี้เขาไม่คิดจะช่วยคนอื่นๆ ผมยอมควักเงิน 2000 บาท เพื่อช่วยเหลือน้องและคนอื่นๆอีกมากมายที่ช่วยเหลือน้อง แต่พ่อแม่น้อง กลับไม่คิดจะตอบแทนสังคม ทั้งๆที่เขาเองไม่ได้ควักเงินสักบาทเดียว...เสียใจครับ

[ตอบ #2 เมื่อ:]

คุณzipybeerคะ

เข้าใจว่าเงินของคุณ2000บาท ก็มากอยู่ ดิฉันขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ บุญกุศลที่คุณช่วยเหลือผู้อื่น เชื่อได้ว่าบุญนั้นจะส่งเสริมให้คุณและครอบครัวประสบแต่สื่งดีๆ ในกรณีนี้อยากให้คุณลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นเช่น พ่อและแม่ของน้องกาว วินาทีนี้นอกจากเสียใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ก็ไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเทียบได้อีก

ดิฉันคาดว่าคุณยังไม่ได้อยู่ในสถานะพ่อ หรือ ถ้าคุณเป็นพ่ออยู่ อยากให้คุณเอาใจเขามาคิดดูนะคะ อย่าคิดเสียดายเงินสองพันนั้นเลยนะคะ คิดเสียว่าทำบุญไปแล้วไม่ได้หายไปไหน ทำบุญไม่มีวันขาดทุนแน่นอน คุณเป็นคนใจบุญมากนะคะ เป็นคนมีน้ำใจ ซึ่งหายากมากในสังคมปัจจุบัน

[ตอบ #3 เมื่อ:]

ผมกับบแฟนโอนเงินช่วยไป10000 บาท แต่ครอบครัวขอลน้องไม่ช่วยทางสังคมเลย เสียใจครับแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะสงสารน้อง หลับให้สบายน่ะครับน้องกาว

[ตอบ #4 เมื่อ:]

ผ่าค่ะเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปลูกก็ได้บุญด้วยที่สละร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เอากับมาก็เผาอย่างเดียว

[ตอบ #5 เมื่อ:]

ต่างคนต่างที่จะเข้าใจ พ่อแม่น้องกาว เขาคงมีเหตุผลของเขาเราเฃื่ออย่างงั้นนะเขาคงไม่อยากที่จะเห็นลูก เจ็บปวด ในภพหน้าเราเชื่อบุญกรรมนะการทำบุญเป็นสิ่งที่ดีทำไปเถอะคะ เราหวังว่าพ่อแม่น้องกาวคงเข้าใจเหตุผลต่อไป

[ตอบ #6 เมื่อ:]

คือเค้าขอบริจาคในเรื่องอะไร. แล้วคุณไปบอกว่าต้องอย่างนี้อย่างนั้น.
ผมว่าสำหรับครอบครัวเค้ามันเกินพอแล้วที่เสียลูกทั้งคน.
เงินคุณไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดสั่งให้เค้าทำตามที่คุณต้องการได้หรอกนะครับ

ไว้เกิดกับตัวเองก่อนค่อยมาให้คนอื่นเค้าวิจารณ์ว่าจะรู้สึกยังไง
ขอบคุณ


ปล. เวลาทำบุญอย่าไปหวังผล

[ตอบ #7 เมื่อ:]

ข่าวนำเสนอแต่เพียงว่าทางครอบครัวไม่อนุญาตให้แพทย์ชันสูตร....แต่ไม่ได้ให้เหตุผลไว้ ดังนั้นไม่ควรจะรีบด่วนตัดสินว่าถูกหรือผิด ทางครอบครัวน้องอาจมีเหตุผลก็ได้ เช่น ถ้าอนุญาตให้ชันสูตร อาจต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน ซึ่งอาจไม่สะดวกในหลายๆอย่างสำหรับเค้า อีกอย่างสภาพจิตใจของครอบครัวในขณะนั้น เชื่อว่าเป็นใครก็อยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด คงไม่มีจิตใจจะอยู่ที่นั่นต่อไปแล้ว หากท่านๆได้บริจาคเงินไปแล้ว ก็ถือว่าได้ทำบุญไปแล้วเถอะนะคะ อย่าคิดแทนเค้าให้จิตใจเศร้าหมองไปเลย

[ตอบ #8 เมื่อ:]

---------------- -----------------3,000,000

[ตอบ #9 เมื่อ:]

ไว้อาลัยให้ค่ะ

คุณพวกที่บอกโอนเงินไปให้แล้วมาบ่นเสียดายอ่ะ ถามจริงได้โอนไปจริงหรอ
คุณรู้มั้ยว่าออกมาพูดแบบนี้มันบาปนะ ครอบครัวเค้าก็เสียใจจะแย่แล้ว ถ้าคุณคิดจะช่วยคนอื่นโดยหวังผลตอบแทนคุณไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย

เราเข้าใจว่า พ่อแม่เค้าคงไม่อยากเอาศพลูกตัวเองมาผ่าอีกรอบสองรอบหรอกนะ แค่นี้น้องเค้าก็บอบช้ำจะแย่แล้ว คุณควรจะเห็นใจเค้ามากกว่า

[ตอบ #10 เมื่อ:]

ไม่แน่นะ ถ้าชันสูตร หมอคนไทย อาจจะช่วยได้ทั้งโลก
อาจจะใช้ชื่อวัคซ๊น เป็นชื่อน้องเลยก็ได้
แต่ก็อีกแง่ นะ ครอบครัวของเขา

[ตอบ #11 เมื่อ:]

ค่ะเสียใจแทนคุณพ่อและคุณแม่ ที่ต้องสูญเสียน้อง ตั้งใจว่าจะส่งเงินมาช่วยค่ารักษาพยาบาลแต่ยังไม่ได้ส่งทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

[ตอบ #12 เมื่อ:]

คือว่าโรคที่เป็นอ่ะค่ะ หนุก็เคยเปนค่ะแต่ในที่นี้เค้าส่งรพ.ช้าไปแล้ว แบคทีเรียได้กัดกินเยื่อหุ้มสมองหมดแล้วค่ะถ้าไปก่อนหน้านี้ต้องให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือค่ะ มีวัคซันที่ป้องกันโรคนี้ได้ค่ะแต่จะได้รับการฉีดตั้งแต่สมัยเด็กๆค่ะ โอกาสเปนมากที่สุดคือเด็กกับคนชรา อาการที่เด่นชัดคือปวดหัวมากและคอแข็ง(หันคอไม่ได้) รีบไปหาหมอค่ะเพราะอย่างหนูก็เกือบไปช้าเหมือนกัน ชีวิตใครใครก็รักอย่าว่าครอบครัวเค้าเลยค่ะ ขอให้หลับให้สบายนะค่ะ เปนกำลังใจให้ครอบครัวค่ะ

[ตอบ #13 เมื่อ:]

ครอบครัวน้องเค้าน่าจะให้ผ่าพิสูจน์ว่าสาเหตุมาจากอะไร เพราะจะได้ระัวัง ตอนนี้คนไทยในอเมริกาก็ต่างหวาดกลัว กับโรคต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะ 1.ค่ารักษาพยาบาลที่นี่จะแพงมาก แล้ว อีกอย่างอยู่ไกลบ้านก้ไม่มีใครอยากเจ็บ ไข้ เพราะเล่าให้คนอเมริกาฟัง เค้าถามว่า น้องเค้าเป็นก่อนที่จะมาที่อเมริกาหรือเปล่า เพราะว่า น้องเค้าเพิ่งจะมา่ที่อเมริกาได้ประมาณ เดือนนึง เอง ตอนนี้อยากรู้มากสาเหตุเกิดจากเพราะอะไร

[ตอบ #14 เมื่อ:]

ก่อนอื่น ดิฉันต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รักของทุกคนนะคะ จริง ๆ แล้ว ติดตามข่าวสารเรื่องน้องกาวมาโดยตลอด หากแต่ ดิฉันทำได้เพียงภาวนาและส่งกำลังใจไปช่วยเหลือนะคะ มิได้บริจาคเงินใด ๆ สำหรับในเรื่องการผ่าชันสูตรศพนั้น ซึ่งถ้ามองในแง่บุคคลโดยทั่วไป การให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยด้วยการผ่าพิสูจน์ ถือได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม แต่ในแง่ของปัจจเจกบุคคลแล้ว ดิฉันเข้าใจในความรู้สึกของผู้ปกครองเป็นอย่างดี สิ่งที่เราต้องคำนึงเป็นอันดับแรกก็คือ "ความรู้สึกของผู้ที่ยังอยู่" ถ้าเป็นสิ่งที่เกิดกับบุคคลใกล้ชิด ดิฉันเชื่อแน่ว่า หลาย ๆ คนคงจะต้องการเห็นบุคคลที่เรารักกลับมาในสภาพ (ดิฉันต้องขอโทษที่ต้องใช้คำนี้) ที่เปรียบเสมือนกับว่า..เค้ายังอยู่กับเรานะคะ (อันนี้ ดิฉันเข้าใจว่าอย่างนั้น) สำหรับผู้ที่ช่วยเหลือในด้านการบริจาค ดิฉันก็ต้องขอชื่นชมจากหัวใจด้วยว่า..คุณเป็นบุคคลที่น่านับถือแล้วหล่ะคะ โดยเฉพาะในสภาพสังคมปัจจุบันที่ต่างคนต่างดิ้นรนเอาตัวรอด ดิฉันก็ขออวยพรให้ทุก ๆ คนมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป..

[ตอบ #15 เมื่อ:]

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

สามีก็เคยเป็นโรคนี้เหมือนกัน รู้สึกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ลูกก็ยังไม่ถึงขวบเลย เมื่อหมอบอกว่ามีทางเลือกสองทาง ผ่ากับไม่ผ่า ผ่าอาจมีทางรอดกับรอความตาย แต่หมอผ่าช่วยชีวิตไว้ทัน อาการป่วยยังหาสาเหตุไม่ได้ เพราะทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียว
ไปดำนำ้ที่เกาะช้าง เลเซอร์ผิวหนังที่คลีนิคดังแถวสีลม ไปหาหมอฟันโรงพยาบาลดังแถวสุขุมวิท แล้วก็กลับไปที่ Houston Texas ประมาณ 1อาทิตย์ ก็เกิดอาการปวดหัวมาเรื่อยๆ แต่เขาทานยาต่อต้านแบททีเรียไว้ตลอด ทุกวันนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้เลย
แต่ถ้าเกิดบาดแผลจะรีบทานยาและทายาทันที

[ตอบ #16 เมื่อ:]

[/sizeหากเป็นลูกของผม ผมคิดว่าคงจะยอมให้เขาชันสูตรเพื่อไม่ให้เกิดกับลูกคนอื่น มันเป็นการยอมเสียสละเพื่อสังคมโดยรวม หากมันเป็นความบกพร่องทางกรรมพันธุ์ อย่างนี้อยเราก็ยังสามารถปกป้องญาติพี่น้องของเราได้ และคงไม่อยากสูญเสียคนในครอบครัวด้วยสาเหตุเดิมอีก

[ตอบ #17 เมื่อ:]

พวกที่โอนเงินให้ แล้วบอกว่าทำบุญ
แล้วมาต่อว่าครอบครัวเขา อย่างโน้นอย่างนี้
ไม่มีได้บุญหรอก มีแต่ได้บาป
คำว่าเสียดาย ก็คือ บาปที่กิเลสมันเกาะใจคุณอยู่
โอนเงินให้เขา แล้วหวังโน่นหวังนี่
ไม่ได้ดังหวัง ก็ต่อว่าเขา น่าเกลียดมาก
( ไม่ใช่แค่หวังช่วยชีวิตน้องเขาหรอกหรือ )

[ตอบ #18 เมื่อ:]

เราเคยติดเชื้อแบคทีเรียที่คอเหมือนกัน อาการเหมือนคนไอเวลาเป็นหวัด ตอนแรกนึกว่าหวัดแบบเชื้อไวรัส แต่ยาแก้ไอหรือยาอมไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เลยสักนิด นอนพักก็ไม่ทุเลา ไอเหมือนกำลังจะตาย เสมหะเป็นก้อนเขียว เลยไปหาหมอ เพาะเชื้อเสมหะพบว่าเป็นแบคทีเรีย ต้องกินยาฆ่าเชื้อเม็ดละ 100 บาท วันละ 3 มื้อ 7 วันก็หาย บางโรคที่เราคิดว่าธรรมดา อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิด ถ้าใช้ยาสามัญประจำบ้านแล้วไม่ทุเลาหรือดีขึ้น ควรรีบไปพบหมอนะคะ

[ตอบ #19 เมื่อ:]

เสียใจกับครอบครัวน้องกาว ด้วยน้ะครับ....ขอให้น้องกาวไปดีน้ะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ (แต่ถ้าผ่าได้ก็จะดีกับวงการแพทย์น้ะครับ..ถ้าเสียใจอยู่ก็ไม่เป็นไรครับ)

[ตอบ #20 เมื่อ:]

การที่บอกว่าทำบุญไม่ต้องหวังผลนั้น เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น ในใจลึกๆนั้นทุกคนก็หวังผล เช่น คุณส่งลูกคุณเรียนหนังสือคุณก็ยังหวังผลจากลูกว่าลูกจะได้งานที่ดีและเลี้ยงคุณตอนแก่ แต่พอลูกไม่เป็นอย่างคิดคุณก็เครียดและเสียใจ บางครั้งก็ดุด่าลูก ถามาว่าคุณหวังผลหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีนี้ การที่คุณประกาศให้สังคมช่วย โดยเขาก็เชื่อคุณ โดยโอนเงินให้ไม่มากก็น้อย แต่รวมกันทั้งประเทศไม่น่าจะน้อยเท่าไร แต่ถ้าคุณจะตอบแทนสังคมบ้างจะเป็นไรไป ไม่ต้องพูดว่าเงินแค่นี้แล้วจะให้เขาผ่าพิสูจน์เขาก็เสียใจมากแล้ว นั้นคือการแสดงการเห็นแก่ตัว นี่แหละนิสสัยคนไทย อิ่มแล้วลืมหยาก เหมือนกับดาราบางคนพอเจ็บป่วยก็ให้แฟนเพลงช่วยแต่ครอบครัวกลับนำเงินที่แฟนเพลงช่วยไปไถ่บ้านไปลงทุนการค้า แต่ถ้าคิดให้ดิีคนที่บริจาคช่วยเขาก็อาจเช่าบ้านอยู่ก็ได้ แต่จิตใจสาธารณเขามีอยู่สูงไงครับถึงช่วยเหลือ จริงไหม

[ตอบ #21 เมื่อ:]

คืออยากรู้สาเหตุของการเกิดโรคนี้จริงๆๆ เพราะลูกชายกำลังอยู่ในวัยซน กลัวมากเลย ขอร้องเถอะค่ะช่วยหาวิธีบอกสาเหตุ การป้องกันและการรักษาตัวให้ได้มั้ยค่ะ อยากรู้จริงๆ ค่ะ

[ตอบ #22 เมื่อ:]

สงสารน้องเค้ามากเลยเข้าใจเวลาที่ไม่สบายแล้วอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มันลำบากมาก เราก็เป็นคนนึงที่เคยไม่สบายตอนอยู่เมกาประกันสุขภาพก็ไม่มี ถ้าไม่ป่วยจนเจียนตายก็จะไม่ไปหาหมอ เพราะค่ารักษาแพงมากๆๆ แค่ปวดท้องนอนรพ. 10 วันหมดไป ล้านห้า แต่ก็จ่ายไปเท่าที่จ่ายได้แล้วก็มีองค์กรช่วยเข้ามาช่วยจ่ายบางส่วน อย่างของน้องรายนี้ค่าใช้จ่ายของสูงมาก คงอาจถึง10 ล้านบาท ต้องเข้าใจด้วยว่าทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายที่สูง แค่เงินบริจาคมันไม่พอหรอ ครอบครัวน้องก็สูญเสียมากพอแล้ว เห็นใจคนที่สูญเสียลูกดีกว่า

[ตอบ #23 เมื่อ:]

ก้อเข้าใจพ่อเเม่นะคะ เเต่ร่างกายยังไงก้อเอาไปไม่ได้ เก็บไว้ก็เน่าเปื่อย ถ้าอยากเก็บความรู้สึกดีๆ รูปเก่าๆของน้องก้อมี เก็บความทรงจำที่ดีๆมีค่ากว่าเยอะค่ะ น้องบำเพ็ญประโยชน์ไว้เยอะ เชื่อว่าเจตนารมณ์ของน้องน่าจะบำเพ็ญเพื่อส่วนรวม น้องจะยิ่งได้เจิญผลบุญมากยิ่งขึ้น เราอยู่ที่นี่ตอนทำใบขับขี่ เค๊าจะให้เลือกเลยว่าเราจะบริจาคร่างกายมั๊ย เราเลือกที่จะบริจาคทุกชิ้นส่วนของร่างกาย อย่างน้อยก้อเพื่อประโยชน์ครั้งสุดท้ายต่อส่วนรวม จริงๆเมืองไทยน่าจะมีบ้างนะคะ คนที่ตัดสินคือเจ้าตัว ไม่ใช่คนใกล้ตัวค่ะ

[ตอบ #24 เมื่อ:]

ที่ผมช่วยนั้นผมไม่ได้คิดหรอกครับว่าผมจะได้บุญุศลอะไร ผมเองก็เคยลำบาก และก็มีคนที่มีจิตใจอันเป็นกุศลหยิบยื่นมือมาช่วยเหลือ พอผมมีโอกาส ผมก็แค่อยากตอบแทนสังคมบ้าง น้องเขาเป็นคนเก่ง ถ้าน้องเขามีโอกาสรอดชีวิตคงจะมีคุณค่าต่อสังคมไม่น้อย ถ้าน้องเขาเป็นเด็กแว้นขับรถกวนเมืองสร้างความลำบากให้สังคม ผมก็คงไม่ช่วย...ที่ผมเสียดายเงิน 2000 บาท ไม่ใช่ว่าที่ค่าของตัวเงิน แต่เป็นเพราะ 2000 ของผมที่หวังว่าจะคืนสู่สังคม มันไม่ได้ตอบแทนสังคมอย่างที่ ผมคิด ตอนนี้น้องเสียแล้วผมก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่ที่ผมรู้สึกแย่คือทำไมถึงไม่ยอมให้ชันสูตรเพื่อเป็นกุศล หรือเพื่อสังคมต่อไป ...ก็เท่านั้นเอง การบริจาคของผมไม่ได้หวังว่าผมจะต้องได้บุญกุศลอะไรเลย ผมเพียงแค่ต้องการช่วยเหลือสังคมก็เท่านั้นเอง ..แต่มันศูนย์เปล่าก็เลยเสียดาย..ครับ

[ตอบ #25 เมื่อ:]

why u want to go abroad? see! not suit with you

[ตอบ #26 เมื่อ:]

อยากไห้ทุกคนทุกท่านเข้าใจในความรู้สึกพ่อแม่ที่สูญเสียนี้ด้วยนะครับ
ท่านคงมีเหตุผลของท่านท่านอาจต้องการนำลูกสาวกลับบ้านไห้เร็วที่สุด
ถ้าทุกคนเป็นท่านนาทีนี้คงไม่นึกถึงใครเหมือนกันยิ่งอยู่ต่างประเทศด้วยแล้วยิ่งหนัก สิ่งเดี๋ยวที่คิดได้คือนำลูกสาวกลับไทย และอยากบอกทุกท่านที่รวมบริจาค ท่านทำท่านได้บุญ การทำบุญคือการทำแล้วไม่หวังสิ่งตอบแทน ขอไห้ทุกท่านได้บญขอไห้น้องกาว สู่สวรรน์ครับ

[ตอบ #27 เมื่อ:]

ในที่สุดก็สรุปว่าทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว....

[ตอบ #28 เมื่อ:]

เคยมีเพื่อนเป็นโรคนี้ค่ะ มันไวมากเลย อาการแบบน้องกาวทุกอย่าง ตอนที่เค้าทรุดแล้วเพื่อนนำส่ง รพ.อยู่ได้อาทิตย์เดียวก้อเสียค่ะ หมอบอกว่าอาจมาจากยุง

[ตอบ #29 เมื่อ:]

คือเค้าขอบริจาคในเรื่องอะไร. แล้วคุณไปบอกว่าต้องอย่างนี้อย่างนั้น.
ผมว่าสำหรับครอบครัวเค้ามันเกินพอแล้วที่เสียลูกทั้งคน.
เงินคุณไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดสั่งให้เค้าทำตามที่คุณต้องการได้หรอกนะครับ

ไว้เกิดกับตัวเองก่อนค่อยมาให้คนอื่นเค้าวิจารณ์ว่าจะรู้สึกยังไง
ขอบคุณ


ปล. เวลาทำบุญอย่าไปหวังผล

ทำบุญแล้วหวังผล ยังดีกว่า
คนที่อยู่เฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไร นอกจาก วิจารณ์คนอื่น

[ตอบ #30 เมื่อ:]

ในที่สุดก็สรุปว่าทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว....

ต้องอยู่เฉยๆ แล้วพูดแบบคุณนี้สินะ ถึงจะดี

[ตอบ #31 เมื่อ:]

ขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ของน้องกาวด้วย ได้รับทราบประวัติของน้องว่าเป็นคนดีที่มีความกตัญญูมาก ถึงแม้น้องจะไม่ได้อยู่แล้วก็ยังมีความดีที่น้องได้ทำไว้ ให้คนเบื้องหลังได้ระลึกถึง ความดีที่ได้ทำไว้จะส่งผลให้ดวงวิญญาณของน้องกาวไปสู่สุขติ

[ตอบ #32 เมื่อ:]

คิดว่าในต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการชันสูตรศพคงสูงมากจนไม่ไหว
รึ่เปล่าคะ เพราะครอบคัวน้องก็ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอะไรมาก

แต่เสียดายเด็กไทยดีๆ มีคุณภาพแบบน้องเค้าค่ะ

[ตอบ #33 เมื่อ:]

ทำบุญแล้วหวังผล ยังดีกว่า
คนที่อยู่เฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไร นอกจาก วิจารณ์คนอื่น

[ตอบ #34 เมื่อ:]

พวกที่โอนเงินให้ แล้วบอกว่าทำบุญ
แล้วมาต่อว่าครอบครัวเขา อย่างโน้นอย่างนี้
ไม่มีได้บุญหรอก มีแต่ได้บาป
คำว่าเสียดาย ก็คือ บาปที่กิเลสมันเกาะใจคุณอยู่
โอนเงินให้เขา แล้วหวังโน่นหวังนี่
ไม่ได้ดังหวัง ก็ต่อว่าเขา น่าเกลียดมาก
( ไม่ใช่แค่หวังช่วยชีวิตน้องเขาหรอกหรือ )

คุณทำบุญกับเขาหรือเปล่า ผู้บริจาคท่านหนึ่งเพียงแต่คาดหวังว่า ทางครอบครัวน่าจะให้ร่างกายของน้องเขา เป็นกรณีศึกษาค้นคว้าทางการแพทย์ หาคำตอบเกี่ยวกับโรคเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วม และช่วยเหลือผู้อื่น
ใคร ๆ ก็มีสิทธิ์คาดหวังหากคนนั้นเป็นคนที่มองส่วนรวมเสมอ
เพียงแต่ว่า ครอบครัวก็มีเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง หรืออาจจะไม่เคยนึกถึงคำว่าเพื่อส่วนรวมเป็นนิจ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

กรณีของน้องกาว ถ้าอยู่ในเมืองไทย ก็คงจะช่วยเหลือทัน
แต่ถ้าประมาท คิดว่าแค่ไข้ขึ้นสูงไม่มีอะไรมากแล้วอยู่บ้านก็อาจไม่ทัน
จำไว้ว่า ไข้ขึ้นสูงแสดงว่า เชื้อโรคในร่างกายแรงมากขัั้นวิกฤตจนเม็ดเลือดขาวสู้ไม่ไหว การต่อสู้กันนี้ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูง ก็จะแสดงออกมาว่าไข้ขึ้น เพื่อหายาช่วยฆ่าเชื้อนี้ ถ้ายาแก้ไข้พาราเซตตามอลสองวันไข้ยังไม่ลดต้องรีบหาหมอโดยด่วน ช้าวินาทีเดียวก็ไม่ได้
สมุนไพรไทยที่ฆ่าเชื้อไวรัสจะเป็นพวก ฟ้าทะลาย โปรดระวังของปลอม
สมุนไพรไทยที่่ฆ่าเชื่อแบคทีเรียจะเป็นพวก ขมิ้นชัน โปรดระวังของปลอม
พกกินเพื่อป้องกันวันเว้นวันห้ามกินทุกวัน เป็นอันตรายต่อตับ
กรณีเดินทางไปในที่ ๆ มีอากาศหนาวเย็น คนเมืองร้อนอย่างคนไทย จะรับเชื้อพวกนี้ง่ายมากและไม่มีภูมิคุ้มกัน ผิดกับคนท้องถิ่นร่ายการจะสร้างภูมิมารับกับเชื้อพวกนี้ แต่เชื่อว่าคนของเขาก็ตายกันเยอะถ้าประมาท

[ตอบ #36 เมื่อ:]

เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อช่วงวันที่ 25-29 เมษายน 2553 อากาศหนาวมาก พอกลับมาวันรุ่งขึ้นเป็นไข้ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลรามคำแหง หมอบอกฉีดยาแล้วกลับบ้านไปดูอาการ ปรากฎว่าทรุดหนัก ต้องกลับไปใหม่
แล้วบอกว่าขอเปลี่ยนหมอ คนนี้ไม่เก่ง ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือดตรวจอย่างละเอียด ผลคือ ติดเชื้อแบคทีเรียในปอด (ปอดอักเสบ/ปอดบวม)
หมอคนใหม่บอกว่า เชื้อมาจากญี่ปุ่น เมืองไทยไม่มีเชื้อนี้ ยาที่ใช้ฆ่าต้องสั่งจากสิงคโปร์ ปกติปอดบวมอยู่โรงพยาบาลไม่เกินสี่วัน กรณีนี้นอนไปเจ็ดวัน
ก็อยากจะเตือนหลายคนที่ไปต่างประเทศที่หนาวเย็น ให้ระวังเชื้อแบคทีเรียประจำถิ่นด้วย ไม่ว่าจะติดต่อทางลมหายใจ หรือ อาหารการกิน
ถ้าใครทำประกัน เอไอเอ/ไทยประกัน เบิกได้ตามความคุ้มครอง แต่เอไอเองี่เง่าให้ระวัง นอกจากว่าใครมีบุญจะได้ตัวแทนดี เขาจะเรียกร้องให้

[ตอบ #37 เมื่อ:]

เสียใจด้วยค่ะ

[ตอบ #38 เมื่อ:]

เราเห็นด้วยกับความคิดของ zipybeer แต่ก้อขอแสดงความเสียกับครอบครัวของน้องค่ะ

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: