ทำไมบางบริษัทไม่รับเด็กราชภัฎเข้าทำงาน

[เมื่อ:]

เคยได้ยินมาบ่อยๆว่าบริษัทใหญ่ๆ เวลารับคนเข้าทำงาน จะรับแต่คนจบมหาวิยาลัยดังๆ เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ ม.เกษตร ส่วนเด็กที่จบจากราชภัฎไม่รับพิจารณา หรือถ้ารับสมัคร ก็จะคัดออก ตอนสัมภาษณ์ เคยคุยกับเด็กรุ่นน้องคนนึง เค้าเรียนราชภัฎ เรียนดีนะ เกรดเฉลี่ย 3.93 แต่รู้มั๊ยน้องเค้ากลัวตกงาน น้องเล่าให้ฟังว่า มีรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ไปสมัครงานกับ บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทันได้กรอกใบสมัครค่ะ โดน รปภ. หน้าตึกไล่ พร้อมตะโกนว่า "ไม่รู้รึไง ที่นี่ไม่รับคนจบจากราชภัฎ" น่าเสียดายนะคะ ปริญญาตรีเหมือนกัน แต่คุณค่าต่างกัน

[ตอบ #1 เมื่อ:]

ถ้าพวกเค้าดูถูกราชภัฎ เท่ากับว่าดูถูกคุณครูที่เคยสั่งสอนให้เราอ่านออกเขียนได้

[ตอบ #2 เมื่อ:]

อย่าไปฟังคำพูดหรือคำล่ำลือที่ทำให้เสียกำลังใจจะดีกว่า

[ตอบ #3 เมื่อ:]

จริงๆแล้วเด็กที่จบปริญญาตรีจากที่ไหนก็แล้วแต่คุณต้องมีความสามารถมากกว่าวุฒิที่คุณได้มาร่วมถึงบุคคลิกที่น่าสนใจคุณถึงจะได้งานทำ อย่าไปโทษหรือว่าสถาบันเขาเลย ต้องดูที่ตัวเองแล้วแก้ไขปรับปรุงเป็นตัวอย่างสำหรับเด็กรุ่นหลังว่าคุณเรียนระดับปริญญาคุณต้องรู้จริงและเรียนจริงคุณก็จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณเรียนเพื่อให้ผ่านไปวันๆ เพื่อรอจบรับปริญญาคุณก็ได้แค่มานอนกอดอย่างเดียว ความสามารถไม่มีแล้วใครเขาจะรับคุณ

[ตอบ #4 เมื่อ:]

[size=large]หน่วยงานของรัฐที่ดิฉันทำงานได้รับเด็กฝึกงาน จากราชภัฎฯ แห่งหนึ้ง และจากราชมงคง (จากเดิมเทคนิคพื้นฐาน) มาฝึกงาน ปรากฎว่า เด็กจากราชภัฎฯ ทำงานไม่เป็น หนังสือราชการไม่รู้เรื่อง แต่เด็กราชมงคลฯ มีพื้นฐานดีมาก เข้าใจงาน รู้เรื่องงนสำนักงานดีกว่า แก้ปัญหาเป็น [/size ]

[ตอบ #5 เมื่อ:]

จะบอกทุกคนให้นะครับว่าคนที่เรียน ไม่ว่าจะที่ไหนก็มีทั้งเด็กเก่งและไม่เก่งเหมือนกัน ไม่ว่าจะมหาวิทยาลัยรัฐ เอกชน ราชภัฏ ราชมงคล
ไม่มีมหาลัยไหนหรอกครับที่เด็กจบมาสมบูรณ์ 100% เด็กบางคนถ้าขยันศึกษาหาความรู้ ศึกษาเพิ่มเติมบางทีก็รู้ดีกว่าเด็กในมหาลัยมีชื่อบางแห่งนะครับ และการที่เรียนราชภัฏบ้างทีก็ไม่ใช้ว่าเด็กคนนั้นไม่เก่งนะครับ อย่างผมติด ม.รัฐบาล แต่เป็นคณะที่ชอบน้อย ก็ไปเรียนคณะที่ชอบมากกว่าที่ราชภัฏ พอใกล้จบไปฝึกงานที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง (ด้านบันเทิง)ฝึกงานเสร็จเค้าก็รับให้ทำงานต่อ ซึ่งบริษัทที่ผมไปฝึกก็มีเด็กจาก ม.รัฐบาลดังๆตั้งมากมาย (รุ่นที่ผมฝึกเค้ารับผมแค่คนเดียวทำต่อ ไม่ได้มีเส้นมีสายนะครับไม่รู้จักใครมาก่อนเลย)ตอนนี้ที่ผมทำงานอยู่เงินเดือนและตำแหน่งผมเมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันจากมหาลัยอื่น ผมเชื่อเลยครับว่าของผมค่อนข้างสูง ซึ่งที่ผมพูดมาผมแค่อยากให้เป็นตัวอย่างแก่คนที่เรียนราชภัฎนะครับ เพราะสมัยที่ผมเรียนอยู่ผมก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก็เคยกลัวอยู่เหมือนกัน

[ตอบ #6 เมื่อ:]

โหทำไมต้องว่าราชภัฏด้วยค่ะ หนูก็เรียนอ่ะ ตอนนี้อยู่ปี 5 ละ หนูก็สอบติดมหาลัยนะค่ะ แต่ไม่เรียน

[ตอบ #7 เมื่อ:]

ไม่เสมอไปหรอกคะ...ทุกที่มีทั้งเก่งและไม่เก่งคะ อย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นคะ เพราะตัวพี่เองก็เป็นศิษย์เก่าราชภัฏคะ

พี่ว่ามันขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลคะ ว่าเราแสดงความสามารถ ตั้งใจ ใส่ใจ แก้ไขปัญหา ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมากขนาดไหน ต่างหากคะ ที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าเรามีประสิทธิภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหนคะ ถ้าเราหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม(รอบตัว)แบบรู้จริงนะคะ ไม่ไกลเกินฝันที่จะได้งานคะ

จากประสบการณ์ที่พี่เรียน ฝึกงาน สมัครงาน และทำงานในต่างแดน เขาไม่ดูจากสถาบันนะคะ เกรดเฉลี่ยก็ไม่ดูคะ แต่เขาดูจากความสามารถจริงคะ
ไม่มีเส้นสาย ความสามารถล้วนๆคะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นคะ

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ปตท.ระยอง ไม่เอา แต่ chevron offshore oil&gas เอา สะใจโครตๆๆ
อย่าเพิ่งท้อน่ะยังมีบริษัทใหญ่ๆที่ต้องการคนเก่งๆอีกเยอะ

[ตอบ #9 เมื่อ:]

เจ้าของกระทู้กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐาน เชื่อถือไม่ได้ว่าเป็นความจริง เป็นการกล่าวลอยๆ ทำให้เกิดประเด็นว่ามีการดูแคลนคนจบราชภัฏ คยที่ออกความเห็นควรพิจารณาข้อเท็จจริงด้วย ใช้ปัญญาและอย่าหลงไปกับสิ่งที่ไร้หลักฐานอ้างอิง

[ตอบ #10 เมื่อ:]

ทุกคนที่ทำงานแล้ว รู้ดี คำว่า Top five คืออะไร
แต่

ความสามารถ และประสบการณ์ ก็เป็นอีกอย่างที่
ใช้พิจารณา

นโยบายบริษัทใหญ่ ๆ เรื่องสี เรื่อง top five

เป็นเรื่อง ปกติ แต่ ถ้ามั่นใจว่าทำได้และทำได้ดี

เรื่องอื่นก็เป็นเรื่องรองนะ

เรื่องนี้ อ่อนไหวแต่เป็นเรื่องจริงของสังคมไทย

สิงห์แดง สิงห์ดำ สิงห์ทอง ถ้าจะพูดถึง มีมากมาย

ตั้งใจเรียน และตั้งใจทำงาน ทำงานอย่างสุจริต และเต็มที่กับงานที่เราทำจะ
ดีกว่า

[ตอบ #11 เมื่อ:]

ไม่จริง

สิงห์แดง สิงห์ดำ สิงห์ทอง

สี ต่าง ๆ

Top five

เป็นเรื่องจริง ในสังคมไทย

แต่หางานมา เปลี่ยนหลายที่

ระบบนี้ มี แค่ไม่กี่ที่ อย่าสนใจเลย

[ตอบ #12 เมื่อ:]

สำหรับที่ว่าทำไม บางบริษัทไม่รับนศ.ที่จบจากราชภัฏนั้น
ในมุมมองของทางศูนย์ข่าวการศึกษาไทย คิดว่านั่นเป็นเพราะว่า เขาอาจจะเคยได้ประสบกับการทำงานของเด็กที่จบจากราชภัฏที่เคยรับเข้ามาทำงานก่อนหน้านั้น ซึ่งทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ หรือทำงานไม่เก่งอย่างที่บริษัทต้องการ ผลเลยตกอยู่ที่รุ่นน้องๆ ถัดมาจึงกลายเป็นว่าบริษัทบางแห่งเกิดการแอนตี้ หรือไม่ต้องการที่จะรับผู้ที่จบการศึกษาจากราชภัฏก็เป็นได้

ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เป็นได้กับทุกมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงเพียงใดก็ตาม หากมีรุ่นพี่ที่เรียนจบเข้าไปทำงานแล้วสร้างภาพลบ จนทำให้สถาบันเสียชื่อเสียง

ดังนั้นสิ่งที่ทางศูนย์ข่าวการศึกษาไทยอยากให้น้องๆ คิดก็คือ เราต้องแสดงความสามารถและศักยภาพของตนเองให้เขาเห็นว่าสถาบันของเราก็ยังมีคนที่เก่ง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรแล้วขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน ได้งานไวๆ

[ตอบ #13 เมื่อ:]

อันนี้ยอมรับเลยครับว่าเด็กส่วนใหญ่จากราชภัฏ พื้นฐานวิชาต่าง ๆ ไม่ค่อยแน่น เรื่องทฤษฎีนี่สู้เด็กจากพวกราชมงคล,เด็กพระจอมฯ ไม่ได้

แต่เรื่องปฏิบัตินี่ยอมรับเลยมันอึดจริง ๆ ให้งานอะไรทำมันก็ทำไม่ค่อยเลือก กลับบ้านดึกดื่น เข้าโอ เข้ากะ เสาร์-อาทิตย์ มันมาทำหมด ไม่ค่อยเหมือนพวกคุณหนู คุณชายทั้งหลาย เข้า 8 ออก 5 เป๊ะ ๆ ทุกวัน ไม่ขาด ไม่เกิน เสมอต้นเสมอปลายดี

คุณภาพงานยอมรับครับว่าพวกเด็กราชภัฏนี่ สู้พวกคุณหนู คุณชายทั้งหลายไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าถึงกับแย่นัก (ถ้าให้เป็นเกรดก็คง C ถึง B-อ่ะนะ)

แต่ปริมาณงานที่ได้นี่ต่างกันค่อนข้างมาก เด็กราชภัฎนี่ไม่เน้นทฤษฎี คิดนิดหน่อยพอรู้เรื่อง แล้วก็ทำ ทำออกมาดีบ้าง เสียบ้าง (ในเกณฑ์ยอมรับได้) ก็ยังดี ยังมีผลออกมา ต่างจากคุณหนู คุณชายทั้งหลาย เจ้าทฤษฎีร้อยแปดโปรเจ็ค แต่งานไม่มีออกมาสักชิ้น เพราะมัวแต่คิด คิด คิด แต่ไม่ค่อยทำ

ไม่รู้นะแล้วแต่คนชอบ แต่บริษัทผม "นักคิดเยอะแล้ว ขาดแต่นักปฏิบัติ" "เก่งไม่กลัว แต่กลัวช้า" หน่ะครับ

ไม่ได้ว่าใครนะครับ พูดจากประสบการณ์ที่เจอมาครับ ^ ^

[ตอบ #14 เมื่อ:]

จบจากราชภัฎ เหมือนกันค่ะ จบไฟฟ้าอุตสาหกรรมค่ ตอนเรียนก้อเคยได้ยินมาเหมือนกัน จบมาก้อเครียดค่ะ กลัวว่าจะไม่มีงานทำ แต่ไม่ใช่ค่ะ จบมา 5 เดือนได้มาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งค่ะ ได้ค่าตอบแทนที่สูงมากค่ะ ไม่เคยคิดว่าจบราชภัฎมาจะได้เงินเดือนสูง แต่ตำแหน่งการงานที่ดี ในบาง บริษัท อาจจะเปนแบบนั้น ไม่ต้องอ่าน Resume เห็นแค่เอกสาร ว่าจบจากราชภัฎก้อโยนทิ้งแล้ว แต่อยากฝากบอกพี่ น้อง เพื่อน ทุกคนนะค่ะ ถ้ามีโอกาสได้ไปสัมภาษ หรือ แสดง ศักยภาพของเรา (นักศึกษาราชภัฎ) ทำให้เขาได้เห็นว่าเขามีความรู้ ความสามารถไม่ได้แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงดังๆ เพราะสมัยนี้ บริษัทส่วนใหญ่ต้องการคนมีความรู้ และ ความสามารถ ไม่ได้ต้องการคนที่จบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังค่ะ

[ตอบ #15 เมื่อ:]

จากประสบการณ์ของผมที่ทำงานกับเด็กราชภัฏนะครับ ผมเคยรับนักศึกษาฝึกงานที่คาดว่าจะได้เกียรตินิยมอันดับสองจากราชภัฏแห่งหนึ่ง กับนักศึกษาฝึกงานที่มาจากมหาวิทยาลัยของรัฐที่ได้เกรดเฉลี่ยแค่ 2.5 ปรากฏว่าเด็กราชภักความรู้พื้นฐานไม่ค่อยแน่นครับ เรื่องบางอย่างที่ควรทราบเกี่ยวกับวิชาชีพก็ไม่ทราบ แต่น้องที่มาจากมหาลัยของรัฐกลับตอบได้ถือว่าดี เข้าใจในขั้นตอนของงานได้ดี เมื่อเทียบกับเด้กราชภัฏที่เมือถามมักจะบอกว่าไม่เคยเรียนทั้งๆที่คุณต้องใช้ในการทำงาน โดยส่วนตัวผมคิดว่าความเข้มข้นของหลักสูตรต่างกันครับ นี่เป็นประสบการณ์ที่ผมเจอนะ คนอื่นจะว่ายังไงก็แล้วแต่ครับ และก็ต้องขอเรียนเจ้าของกระทู้ให้ทราบนะครับว่า เกรดเฉลี่ยไม่ได้บอกถึงความสามารถในการทำงานครับ บางอย่างในตำราก็ไม่ได้บอก อย่าว่าแต่ 3.93 เลยครับต่อให้ 4.00 เค้าอาจจะไม่รับครับเพราะอาจจะอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ทำงานเป็นทีมไม่ได้ วันๆเอาแต่เรียนอย่างเดียว ขอฝากให้รองไปคิดครับ บางที่ที่เค้าไม่รับก้อย่าไปว่าเค้าครับมันเป็นเรืองของธุรกิจถ้าเสียหายขึ้นมาคุณแค่โดนไล่ออก แต่เจ้าของต้องรับผิดชอบมากกว่านั้นครับ ไล่ตัวเองออกก้ไม่ได้

ใช่ครับ ผมจบ ราชภัฎครับ เห็นแจ้งเลยว่า ฐานวิชาชีพผมไม่แน่น ออกมาแล้ว งง ๆ แต่สิ่งที่เด็กราชภัฎ (รุ่นผม แบบว่าจบมา 9 ปีละ) มีคือ ความอดทน ความพยายาม ความตั้งใจ อันนี้ อาจจะเอาไปสู้กับเด็ก ม ดัง ๆ ได้ นา ๆ จิตตัง

[ตอบ #16 เมื่อ:]

หนึ่งราชภัฏ หนึ่งจังหวัด อีกหน่อยก็ 1 ตำบล หนึ่งราชภัฏ เคยรับนักศึกษามาฝึกงาน 10คนมีพอใช้ได้ 1-2 คนครับ ทำใจครับ ถ้าเราเป็นครูพี่เลี้ยงที่ดีต้องพยายามป้อนความรู้ให้เข้าไปมากๆๆครับ

[ตอบ #17 เมื่อ:]

ฉันคนหนึ่งที่จบ ป.ตรีจากมหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงหน่วยกิตก็ไม่ถึง 3 จุดด้วยซ้ำและจบ ป.โท จากราชภัฏแห่งหนึ่ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการสมัครงานเลย ฉันคิดว่าอยู่ที่ความสามารถ บุคคลิกภาพ การวางตัว และปฏิสัมพันธ์ที่คุณมีต่อหน่วยงานมากกว่านะคะ ทุกสถาบันให้ความรู้ตามหลักสูตรก็จริง แต่ตัวคุณก็ต้องแสวงหาความรู้และประสบการณ์จริงในการทำงานเพิ่มเติมด้วยนะ

[ตอบ #18 เมื่อ:]

อย่าท้อถอยครับมันแค่เป้นการเริ่มต้นของการสู้ชีวิตครับ ผมอิจฉาหลายคนมากสมัยตอนผมยังเด็กไม่มีโอกาสเรียนแบบพวกคุณ จบแค่ม.3เองไม่มีปัญญาเรียนต่อ เพื่อนเพื่อนเรียนสูงกันหมดโคตรน้อยใจเลย แต่มาต่อสู้ชีวิตด้วยการมาเป็นเด็กประจำบาร์ตามโรงแรมเงินเดือนแค่2700เองแต่อาศัยการเรียนรู้และจดจำและอดทนหาความรู้ใหม่ติดตัวเสมอปัจจุบันผมมีรายได้กว่าแสนบาทในการเป็นแค่ลูกจ้างตำแหน่งเล็กเล็กแต่อยู่เรือต่างประเทศครับนี่แหละครับต้องสู้มองไปข้างหน้าอย่าฟังเสียงที่ทำให้เราท้อถอยและจะได้ปริญญาชีวิตแน่นอน ขอเป็นกำลังใจครับ

[ตอบ #19 เมื่อ:]

[size=large]หน่วยงานของรัฐที่ดิฉันทำงานได้รับเด็กฝึกงาน จากราชภัฎฯ แห่งหนึ้ง และจากราชมงคง (จากเดิมเทคนิคพื้นฐาน) มาฝึกงาน ปรากฎว่า เด็กจากราชภัฎฯ ทำงานไม่เป็น หนังสือราชการไม่รู้เรื่อง แต่เด็กราชมงคลฯ มีพื้นฐานดีมาก เข้าใจงาน รู้เรื่องงนสำนักงานดีกว่า แก้ปัญหาเป็น [/size ]

[ตอบ #20 เมื่อ:]

คุณ "จากประสบการณ์นะครับ" ความคิดเห็นที่ 3
ทำเป็นติคนอื่นที่จบราชภัฏ ดูตัวเองเสียก่อน พิมพ์ผิดๆถูกๆ เก่งแล้วหรือไง

[ตอบ #21 เมื่อ:]

มันมีึความแตกต่างจริงๆ เด็กราชภัฎ มันเรียนที่ไหนก็ได้มันไม่ต้องแข่งเลย
รับหมด พอมาทำงาน มันแยกออกชัดเจน เรื่องจริง เห็อยู่ ความแตกต่าง
ถ้าบางคนโชคดีถึงจบราชภัฏ ได้ทำงานบริษับใหญ่โตก็บุญ ไปอยู่เพราะอายุงาน แต่ความสามารถเท่าเดิมไม่ไหว เป็นเจ้าของก็เซง แต่ไม่อยากพูด สงสารตาดำๆ

[ตอบ #22 เมื่อ:]

อย่าท้อค่ะ น้องๆ ตั้งใจให้เต็มที่ ศักดิ์ศรีเราไม่น้อยหน้าใคร พี่เรียนจบราชภัฎมาเกือบ 10 ปีแล้ว เริ่มงานจากพนักงานตำแหน่งนักวิทย์ฯบริษัทระดับกลางๆ ไม่ถึงปีได้เป็นหัวหน้าแผนก ตอนนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายและกำลังจะได้โปรโมทเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เคยสมัครงานบริษัทใหญ่ๆไว้ที่หนึ่ง เป็นบริษัทเกี่ยวกับโภคภัณฑ์ เขาก็โทรมาตามให้ไปคุยกับผู้บริหารหลายครั้งแล้วค่ะ แต่คิดว่าไม่ดีกว่ามีความสุขกับที่นี่มากมายแล้ว อย่าท้อค่ะ แต่ต้องตั้งใจ กล้าคิด กล้าทำ อย่าหยุดเรียนรู้

[ตอบ #23 เมื่อ:]

มันก้อจิงนะ บริษัทบางบริษัทเค้ารับพิจารณา ม.ราชภัฎไว้เปนอันดับสุดท้ายจิงๆๆ เคยถามเพ่ที่ฝ่ายบุคคลเค้าบอกมา

แต่เรียนที่ไหนก้อเหมือนกันแระ มันอยู่ที่ตัวคนมากกว่า

[ตอบ #24 เมื่อ:]

อย่าน้อยใจเลยค่ะ คุณรู้ไหมว่า ปัจจุบันคนจบราชภัฎ รับราชการดี ๆ มีถมไป โดยเฉพาะรับราชการครู ส่วนใหญ่เป็นคนที่จบจากราชภัฏทั้งนั้นเลยค่ะ ดิฉันเองก็จบจากราชภัฎ ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า วิทยาลัยครู ก็สอนเด็กนักเรียนมาไม่รู้จักกี่รุ่นแล้ว นักเรียนแต่ละคนก็ได้ดี ทำงานดี ๆ รับราชการตำรวจ ทหาร ครู ฯลฯ ทั้งนั้น อย่าน้อยใจเลยค่ะ พยายามต่อไปน่ะค่ะ

[ตอบ #25 เมื่อ:]

ใช่ ว่าแต่ราชภัฎ ลองมาแข่งกันไหมระหว่างทฤษฎี กับการปฎิบิติอันไหนจะไปได้ดีกว่ากัน เด็กที่ไม่ใช่ราชภัฎมีแต่ทฤษฎี ลองทำจริงแล้วจะทำได้ไหม ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่จบราชภัฎไม่เห็นมีปัญหาเลยทำงานได้ดีด้วยกว่าลูกคุณหนูทั้งหลาย

[ตอบ #26 เมื่อ:]

เราต้องยอมรับว่าคนไทยก็เป็นแบบนี้แหล่ะชอบแบ่งแยก แต่เด็กราชภัฎทุกคนอย่าท้อ ลองแข่งกับเขาซักตั้งเราเจ๋งจิงมีความสามารถจริงไม่เห็นต้องกลัวเลย พี่ก็จบราชภัฏ จบมาก็มีงานทำเลยเงินเดือนก็สูงทำงานมา 3 ปีแล้ว เงินเดือนจะสามหมื่นแล้ว จงภูมิใจในสถาบันเรา เขาให้ความรู้เราเพื่อต่อยอดที่เหลือมันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

[ตอบ #27 เมื่อ:]

ไม่เห็นยากมีงานให้ทำอีกเยอะอย่าสนใจ

[ตอบ #28 เมื่อ:]

ทุกอย่างเป็นระบบ ของการแข่งขัน ที่เราเกิดมาก็ต้องแข่งขันแล้วครับ

เริ่มตั้งแต่เรียน ในแต่ละขั้น เพื่อพัฒนา สมองของคนให้สอดคล้องกับความ

เป็นจริง และ กลุ่มคน ที่จะเข้าไปอยู่ ไม่งั้นจะมีโรงเรียน มหาลัยเก่ง ๆ

ที่คนแย่งเข้ากันทำไหม บริษัทดัง ก็เช่นกัน ถ้ารับเด็กจบใหม่ เลือกได้

ก็ต้องตั้ง Spec สูงไว้ก่อน อยู่แล้ว แต่ ถ้าหาไม่ได้ก้ต้องรองลงไป

เด็กราชฎัค ถ้าคุณแน่จริงไม่ต้องกล้วครับ เราสามารถเริ่มต้นที่ไหนก้ได้

พิสูจน์ฝีมือเราก่อน เมื่อมีประสบการณ์ค่อยขยับ ต่อไปเรื่อย ๆ

เพื่อเป็นบันได ต่อไป ตอนนั้นเขาไม่ดูสถาบันหรอก เขาดู ประสบการณ์

และ ผลงาน คุณรู้ไหม เจ้าของบริษัทดัง ๆ ไม่จบมหาลัยที่ไหน ด้วยซ้ำ

สามารถจ้าง ป.โท ป.ป.ตรี จาก นอก มาทำงานให้ด้วยซ้ำไป อย่างนั้นคุณยังอยาก เป้นลูกจ้าง หรือเจ้าของ ลองนึกดู

[ตอบ #29 เมื่อ:]

ปวช.ปวส. แย่งงานเด็กป.ตรีหมดแล้วหล่ะคุณ อย่าห่วงเรื่องสถาบันเลย ห่วงเรื่องวุฒิดีกว่า

[ตอบ #30 เมื่อ:]

เราว่าอยู่ที่คนมากกว่า เพื่อนเรายังเขา ปตท. ได้เลยเบียดเด็กจุฬา ธรรมศาสตร์ จบมาจากที่เดียวกัน แต่อีกคนลอกจนได้เกรด 2.7 ยังไม่มีงานทำเลย ส่วนเรา 2 นิดๆ ก็ยังมีงานดีๆ ทำเลย ถ้าที่ไหนเขาเรียก ก็แสดงศักยภาพให้เขาเห็นเขาก็รับแล้ว ใบปริญญาเป็นแค่ใบเบิกทาง นอกนั้นอยู่ที่ความสามารถของตัวเราเองล้วนๆ ส่วนบริษัทที่เขี่ยใบสมัครทิ้ง โดยที่ไม่ได้เรียกคุย หรือว่าทดสอบความสามารถ ก็ปล่อยไปเถอะ องค์กรแบบนี้ถึงเราเขาไปได้ก็คงไม่มีความสุขหลอก คิดบวกเข้าไว้ สู้ๆ

[ตอบ #31 เมื่อ:]

หลายคน หลายบริษัท มองว่า จบราชภัฏ ไร้คุณภาพ แต่ว่า ถ้าหากเราเก่งจริง แนะนำให้ ไปสมัครกับบริษัท ที่ไม่มีใครมาชนเช่น จบสาขาวิชา บริหารไปสมัครบริษัทแห่งหนึ่ง เจอ ธรรมศาสตร์ จุฬา ศิลปกร เกษตร ราชภัฏ แค่นี้ ก็รู้ผลแล้วว่าตกงานแน่ในบริษัทนั้น แต่ต้องยอมรับด้วยว่า ม.เหล่านั้น เขามีความสามารถมากกว่า และฐานความรู้กับสังคมเขาดีกว่า เขาจึงถูกยอมรับมากกว่าราชภัฏ แต่ถ้าหากจบราชภัฏ แล้วมีความสามารถ รับรอง มีงานที่ดีทำแน่ มันอยู่ที่ ความสามารถของแต่ละบุคคล จำไว้ จบอะไรมา มันก็เป็นคนเหมือนกัน มีหน้ามีตา มีสองมือ สองเท้าเหมือนกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใครหรอก

[ตอบ #32 เมื่อ:]

ใครว่าราชภัฏไม่ดี ผมก็จบมามีงานที่ดีทำ

[ตอบ #33 เมื่อ:]

จะจบจากสถาบันใหนก็ไม่่่่่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ตัวเรามากกว่า พยายามสะสมประสบการณ์ในการทำงาน ขยันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่นานเราก็เก่ง และที่สำคัญขอให้เป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว

[ตอบ #34 เมื่อ:]

อย่าไปคิดมากอยู่ที่ตัวเรา ผมจบ ปวส เทคนิค เงินเดือน 50,000
และยังมีโอกาสจะมากกว่านั้นอีก

[ตอบ #35 เมื่อ:]

เราไม่ได้จบราชภัฏ แต่เราก็ได้ยินเรื่องนี้บ่อยๆ
บริษัทใหญ่ๆไม่รับ ไม่ต้องไปง้อมัน เราเป็นฟรีแลนซ์ขายของ
รายได้ดีกว่าเป็นลูกจ้างตั้งเยอะ (ตอนเป็นลูกจ้างเงินเดือน 15000
ขายของรายเดือนได้ 40000-90000 ทุกเดือน)
เป็นกำลังใจให้ราชภัฎทุกคนค่ะ

[ตอบ #36 เมื่อ:]

เคยเจอมาด้วยตัวเองเช่นกัน!!!
แต่อยากจะบอกว่า แล้วแต่บุคคลด้วยนะ เคยเจอแบบว่าทำงานตำแหน่งเดียวกันค่ะ อีกคนราชภัฎ อีกคน ม.หอการค้า ทราบรึไม่คะว่า
ผลออกมาคือ เด็ก ม.หอการค้า ทำงานไม่เป็น เช่น ทำตารางเอกเซลไม่ได้
ใช้สูตรบวกเลข ธรรมดาไม่ได้ ฝากพิจารณาความเหมาะสมตามวิจารณญาณค่ะ

[ตอบ #37 เมื่อ:]

จบจากราชภัฏค่ะ ทำงานมาก็หลายปีแล้ว
มีโอกาสได้ร่วมงานกับเด็กจบจากมหาลัยดังๆ
มาก็หลายคน ผลที่ออกมาคือ เด็กที่จบจาก
มหาลัยดังๆเหล่านั้น ไม่สามารถทำงานร่วมกับ
ทีมงานได้ เนื่องจากไม่ใส่ใจในงาน
ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
หรือบางคนยอมฟังผู้อื่น แต่แค่ฟังอย่างเดียวนะคะ
ไม่ปฏิบัติตาม ผลงานที่ออกมาก็คือ ถูกเจ้านายตำหนิ
กันไปทั้งทีมค่ะ แต่ที่เอามาแชร์ให้อ่านกันนี่
เฉพาะที่ดิฉันได้สัมผัสมาเท่านั้นนะคะ
ไม่ได้หมายความว่า เด็กที่จบจากมหาลัยดังๆ
ทุกคนจะต้องเป็นแบบนี้

[ตอบ #38 เมื่อ:]

อย่าไปกลัวเลยค่ะ จากประสบการณ์จริงตั้งแต่ฝึกงาน บางที่ไม่รับม.เอกชนก็มี ส่วนตัวหลังจากจบราชภัฎ แล้วคิดว่าปริญญาไม่ใช่เรื่องสำคัญ รุ่นที่จบอยู่เมืองนอก 6 คน ทำงานบริษัทใหญ่ๆเป็นผู้จัดการ ก็หลายคน คนไม่จบแต่เป็นผู้จัดการในโรงแรม 5 ดาวก็มี มีเพื่อนที่จบมาด้วยกันแล้วมาฝึกงานให้เด็กมหาลัยรัฐ อยู่ที่การทำงาน และการเรียนรู้ในขณะทำงานแล้ว เมื่อมีช่องทางก็เรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อสะสมประสบการณ์ ขอบอกว่า ณ ตอนนี้ ทำงานมีรายได้มากกว่า คนที่จบโทซะอีก

[ตอบ #39 เมื่อ:]

ผมก็เรียนราชภัฏนะครับ จากที่ประสบการณ์ตั้งเเต่ผมจบมา ก็มีหลายที่นะเลือกราชภัฎ ผมคิดว่า มันน่าจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า ไม่ใช่เกี่ยวกับคำว่า ราชภัฎทั้งหมดหรอก.. ผมยอมรับนะครับว่า หลักสูตร การเรียนการสอน ราชภัฎที่ผมเรียนยังน้อยกว่าที่อื่น ที่จริงต้องบอกว่า ขาดสื่อการเรียนการสอนมากกว่า เพราะราชภัฎ มีนักศึกษาเยอะ เเต่งบประมาณการเรียนการสอนน้อย จึงทำให้เกิดการเรียนไม่ทั่วถึง ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เเต่ถ้าถามว่า เด็กราชภัฎทำเหมือนที่อื่นได้มั้ย ก็ทำได้นะครับ มันติดตรงนิสัยคนไทย ชอบคอร์รัปชั่น มีทุกที่ งบประมาณเลยไม่มาถึงนักศึกษา โกงกินกันเข้าไปมันเลยเป็นเเบบนี้ครับ ใครบ้างที่ไม่อยากมีความรู้ อยากมีเงินทองเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว อยากมีหน้ามีตาในสังคม

[ตอบ #40 เมื่อ:]

เรียนแพทย์สิค่ะมีงานทำแน่นอนแพทย์ทางเลือกก็น่าเรียนค่ะเช่นแพทย์จีนกำลังเป็นที่นิยมสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองมี 3ที่ค่ะ 1.หัวเฉียว 2. จันเกษม 3.วิทยาลัยนครราชมาค่ะ

[ตอบ #41 เมื่อ:]

จริง ๆ แล้วมันมีมานานแล้ว เรื่องจบราชภัฏกับการเข้าทำงาน

อาจเป็นความคิดของคนที่อยู่กับ ค่า เดิม ๆ ไม่เปิดใจ รับ

จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะจบจากที่ใหน ในที่เรียนก็แค่แนวทางที่สอนให้เรารู้และนำไปใช้ ในการดำเนินชีวิต ...ซึ่งจะดีหรือไม่ ใช่จะขึ้นอยู่ที่สถาบันเพียงอย่างเดียว .... ขออย่าเอามาเหมารวม

มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลต่างหาก .... คนจะเก่ง จะดี มันอยู่ที่คน ๆ นั้น

ต่อให้เก่ง แต่ขาดความรับผิดชอบต่องาน ก็เท่านั้นหละ


..... สถาบันการศึกษาไม่ได้ใช้วัดคุณภาพของคนหรอก ......

..... อย่ามองหรือวัดค่า กันแค่เปลือกนอก ....

[ตอบ #42 เมื่อ:]

มันก็เป็นแค่ใบเบิกทางนะคะ เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด ความสามารถล้วน ๆ ค่ะ บางคนเก่งทฤษฎีแต่ปฎิบัติไม่ได้เรื่องก็มีเยอะแยะไป
ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของแต่ละคนนะคะ ที่สำคัญต้องให้โอกาสค่ะ สู้สู้ เด็กราชภัฎ

[ตอบ #43 เมื่อ:]

เรียนจบ ม. 3 เอง อายุ 45 ปี มีบ้านเดี่ยว 1 หลัง Civic 1 คัน ผ่อนหมดแล้ว มีเงินสด 5 ล้าน ทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ไม่สำคัญว่าเราจะหาเงินได้เท่าไหร่ สำคัญว่า เราเก็บเงินได้เท่าไหร่ต่างหาก ถ้าหาได้เดือนละ 50,000-100,000 บาท แล้วใช้หมดทุกเดือน ก็สู้คนที่หาได้เดือนละ 20,000 บาท แล้วเก็บได้เดือนละ 2,000 บาท หรือ 10% ของรายได้แต่ละเดือนไม่ได้หรอก อย่าเถียงกันเลยนะคุ น้องๆ (สาวโสด)

[ตอบ #44 เมื่อ:]

จบราชภัฏคะ ภูมิใจในสถาบันคะ ไม่มีความคิดว่าด้อยกว่าสถาบันไหนเลย มันอยู่ที่ตัวคุณต่างหากคะ

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: