หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: จำนำข้าวนโยบายโรงสีหลอกฟันกำไร!!  (อ่าน 896 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 21:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
มติชนออนไลน์

"ดร.โกร่ง" วิพากษ์ใครได้ประโยชน์ ?โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร


มีนโยบายและมาตรการอันหนึ่งที่ น่าห่วงเพราะใช้เงินเป็นจำนวนมาก มีปัญหาทั้งทางทฤษฎีและการปฏิบัติ โครงการที่ว่าคือ โครงการรับจำนำ สินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด กุ้ง ฯลฯ


ฟังดูว่าจะใช้เงิน 4 แสนล้านบาท มาหมุนเวียนซื้อสินค้าเกษตรเหล่านี้ นโยบายรับจำนำสินค้าเกษตรนี้เป็นนโยบายที่ล้มเหลวที่สุดตั้งแต่ทำกันมา ตั้งแต่ปี 2529 สูญเสียเงินละลายน้ำไปมากมาย โดยผลประโยชน์ไม่ได้ตกถึงมือเกษตรกรอย่างที่คิด ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกอยู่กับโรงสี ผู้ส่งออกลานตากมัน รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พรรคพวกของนักการเมือง จึงไม่มีใครยอมเลิกโครงการนี้


เริ่มต้น ชื่อก็ผิดแล้ว การรับจำนำนี้ปกติผู้รับจำนำต้องรับจำนำใ นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด โดยคาดว่าผู้จำนำจะมาไถ่คืน

แต่การรับจำนำสูงกว่าราคาตลาดก็ไม่น่าจะเรียกว่าการรับจำนำ เพราะไม่มีใครมาไถ่คืนในราคาจำนำที่สูง แล้วเอาไปขายในราคาที่ต่ำในตลาด การตั้งชื่อว่าโครงการรับจำนำจึงเป็นการตั้งชื่อหลอกลวงประชาชนเท่านั้นเอง
ในทางทฤษฎี สินค้าเกษตรที่ส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศทุกตัว เรา เป็นส่วนหนึ่งของตลาดโลกของสินค้า นั้น ๆ ตลาดภายในของเรากับตลาดโลกเป็นตลาดเดียวกัน เชื่อมโยงถึงกันอย่างใกล้ชิด เพราะเราไม่มีโควตาการส่งออก ไม่มีภาษีขาออก



สินค้าเกษตรทุกตัวยกเว้นยางพารากับมันสำปะหลัง เช่น ข้าว จีนเป็น ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมา คือ อินเดีย และอินโดนีเซียตามลำดับ ในกรณีข้าวโพด อเมริกาเป็นผู้ผลิตมากที่สุด ข้าวที่ขายหมุนเวียนในตลาดโลกจึงมีสัดส่วนไม่มาก มันสำปะหลังก็เหมือนกัน ผู้ผลิตรายใหญ่คือ อินโดนีเซีย ในกรณียางพารา แม้ประเทศเราจะยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด แต่ก็ยังมีอินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา จีน และประเทศอื่น ๆ อีกมากมาผลิตด้วย


นอกจากนั้นสินค้าเกษตรทุกตัวยังมีของทดแทนกันได้เป็นคู่แข่ง เช่น ข้าว ก็มีข้าวสาลี ข้าวโพดและธัญพืชอื่น ๆ เป็นคู่แข่ง เพราะถ้าข้าวราคาแพงผู้บริโภคในจีน อินเดีย และที่อื่นก็หันไปบริโภค หม่านโถว จาปาตี บะหมี่ แทนข้าวได้ ยางพาราที่ใช้ผลิตยางรถยนต์ ก็มียางเทียมที่ผลิตจากน้ำมันปิโตรเลียมเป็นคู่แข่ง มันสำปะหลังก็มีพืชจำพวกแป้งอื่น ๆ เป็นคู่แข่ง


ด้วยเหตุนี้สินค้าเกษตรทุกตัวราคา จึงกำหนดโดยตลาดโลก รวมทั้งมันสำปะหลังซึ่งเราเป็นผู้ส่งออกสำคัญเพียงรายเดียวของโลก เราจึงเป็น "ผู้รับราคา" หรือ "price taker" ไม่ใช่ผู้กำหนดราคาหรือ "price maker"


นอกจากนั้นสินค้าเกษตรทุกตัวมีปริมาณออกสู่ตลาดโลกตลอดเวลา การกักตุนเพื่อเก็งกำไรไม่สามารถทำได้ หรือการกักตุนของเราก็ไม่ทำให้ราคาตลาดโลกเปลี่ยนแปลง เพราะจะมีผู้ผลิตรายอื่นเสนอขายในตลาดโลกแทนเรา และถ้าเราเก็บไว้นาน 3-4 เดือน ก็จะมีผลผลิตใหม่ออกมาแทนที่ พอเราจะขายราคาก็จะตกทันที การกักตุน จึงมีแต่ขาดทุน นอกจากมีไว้เพื่อค้าขายปกติ




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 21:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ด้วยเหตุนี้ โครงการมูลภัณฑ์กันชนระหว่างประเทศหรือ "International Buffer Stocks" ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมูลภัณฑ์กันชนดีบุก หรือแนวคิดเรื่อง มูลภัณฑ์กันชนสินค้าประเภทอาหาร โดยข้อเสนอขององค์การการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ UNTAD ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงประสบความล้มเหลว ใครเก็บกักข้าวไว้ก็เท่ากับช่วยให้คู่แข่งขายได้ก่อน ราคาอาจจะดีกว่าตอนที่เราขายทีหลัง เพราะถ้ามีใครกักเก็บ ผู้ซื้อผู้ขายก็รู้ว่ายังมีข้าวรอขายอยู่ก็จะไม่ยอมซื้อในราคาแพง


ฟังว่าจะใช้เงิน 4-5 แสนล้านบาทหมุนเวียนซื้อสินค้าเกษตรมากักตุน ก็เท่ากับคิดจะปั่นราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกหรือที่ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่าจะ "corner the market" ตลาดโลกข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด จึงเป็นไปไม่ได้ คนเคยทำแล้วล้มละลายก็มีมาก ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การที่ล้มก็สืบเนื่องมาจากการพยายามปั่นตลาด หรือจะ corner ตลาดใบยาสูบ ดังนั้น เมื่อผลิตได้เท่าไหร่ รีบส่งออกได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี แล้วก็ปลูกใหม่
ในทางปฏิบัติยิ่งมีปัญหา วิธีทำก็คือ การเลือกโรงสีเข้าร่วมโครงการ โรงสีไหนได้รับเลือกก็เหมือนถูกหวย


เมื่อรัฐบาลตั้งราคารับจำนำไว้สูงกว่าราคาตลาด สมมุติ 10 เปอร์เซ็นต์รงสีก็จะซื้อข้าวเปลือกในราคาตลาด หรือไม่ก็ไม่ซื้อเลย แล้วทำใบประทวน สินค้าปลอมว่าซื้อข้าวใส่โกดังแล้วให้ชาวนาหรือลูกจ้างของตนมาลงชื่อว่าเอาข้าวมาจำนำเท่านั้นเท่านี้เกวียน เอาค่า ลงชื่อไป 50 บาท 100 บาท อาจจะซื้อข้าวชาวนาอิทธิพลบางรายในราคาที่รัฐบาลประกาศบ้าง เวลาทางการมาตรวจเช็กก็จะให้เอาชาวนา 5-6 คนนี้มายืนยัน


เวลาทางการมาตรวจสต๊อก ก็เอา สต๊อกข้าวของตนเองมาแสดงพอเป็นพิธี ชาวนาโดยทั่วไปเมื่อขายข้าวให้โรงสีก็ขายในราคาตลาดนั่นเอง นี่คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงในรอบแรก

ต่อมาเมื่อข้าวเปลือกที่นำมาจำนำเป็นของรัฐบาล อาจจะมีข้าวจริงบ้าง ข้าวลมบ้าง กระทรวงพาณิชย์ก็เอาไปขายเป็นข้าวรัฐบาล โดยจะมีบริษัท ส่งออกที่รู้กันกับรัฐมนตรี ไปเร่ขายใน ตลาดต่างประเทศ และกล้ารับคำสั่งซื้อเพราะรู้กันกับรัฐมนตรีว่าจะสามารถซื้อข้าวจากรัฐบาลได้ในราคาเท่าใด รายอื่นไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะขายให้หรือไม่ในราคาเท่าใด ผู้ส่งออกรายอื่น ๆ จึงไม่อาจจะรู้ต้นทุนของตน ยกเว้นรายที่ทำมาหากินกับรัฐมนตรีพาณิชย์หรือนายกรัฐมนตรี ประเทศเราส่งออกปีละ 9-10 ล้านตัน บางปีข้าวรับจำนำของรัฐบาลมีปริมาณถึง 3.5 ล้านตัน


โครงการนี้จึงเป็นโครงการทำลายโครงสร้างตลาดข้าวในประเทศ โรงสีที่ไม่มีเส้นสายเข้าร่วมโครงการก็ล้มละลายไป เพราะไม่มีข้าวส่งออก ทำให้โรงสีมี น้อยลง โรงสีที่เคยมีการแข่งขันก็กลายเป็นการผูกขาดโดยโรงสีที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เท่านั้น


เป็นการเพาะศัตรูให้กับพรรครัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา เพราะโรงสีที่ไม่ได้ร่วมโครงการ หรือผู้ส่งออกที่ไม่ใช่พวกรัฐมนตรี มีมากกว่าที่เป็นพวกรัฐมนตรี (แสดงว่ามีนักการเมืองเป็นเจ้าของโรงสีเยอะ)


ในกรณีรับจำนำมันสำปะหลังก็ดี ยางพาราก็ดีหรือแม้แต่ลำไยก็มีลักษณะเดียวกัน กล่าวคือ โรงมัน โรงเก็บยางแผ่น ซื้อมัน ซื้อน้ำยาง ยางแผ่นในราคาตลาด ให้ชาวไร่ชาวสวนยางลงชื่อเพื่อรับเงินค่าลงชื่อ แล้วก็เอามาจำนำกับรัฐบาลในราคาสูงกว่าราคาตลาด เมื่อรัฐบาลจะขายก็ขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาดให้กับผู้ส่งออกที่หาเงินให้รัฐมนตรีไป ขายในตลาดโลกตัดราคาผู้ส่งออกรายอื่น เอาคำสั่งซื้อไป เพราะตนรู้อยู่คนเดียวว่าจะสามารถซื้อจากรัฐบาลได้ในราคาเท่าใด


เมื่อรัฐบาลจะขายข้าว ขายมัน ขายยาง โดยรับคำสั่งซื้อแล้วก็จะไม่ส่งออกเอง แต่มอบให้พ่อค้าผู้ส่งออกประมูลไป การประมูลก็ทำหลอก ๆ เพราะมีการกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติให้ตรงกับผู้ส่งออกที่รัฐมนตรีกำหนดตัวไว้แล้ว แบ่งกำไรกินกัน


นี่คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือคอร์รัปชั่นจากโครงการจำนำสินค้าเกษตรรอบสอง รัฐบาลเสียเงินขาดทุนมากมายส่วนเกษตรกรไม่ได้อะไรเลย ขายของได้ในราคาตลาดเท่านั้นเองที่ ประชาธิปัตย์ทำไว้โดยการประกันรายได้นั้นดีแล้ว จ่ายส่วนต่างระหว่างราคาตลาดกับราคาประกันตรงให้ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนเลย ถ้าชาวนา ผู้ใหญ่บ้าน กำนันจะโกง ก็ยังดีกว่าโรงสีผู้ส่งออก รัฐมนตรีโกง

ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่เคยได้ประโยชน์จากโครงการชดเชยส่วนต่างของราคาตลาดกับราคาประกันซึ่งมีจำนวนมากกว่าก็จะโวยวาย ถ้าหันกลับไปใช้โครงการรับจำนำอีก แต่ถ้าไม่ทำโรงสี โรงมัน ผู้ส่งออกก็คงจะจัดคนมาเดินขบวน

คงต้องปวดหัวและจะหาบันไดลงกันอย่างไร ต้องคอยดู


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1313217952&grpid=&catid=02&subcatid=0200



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 21:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
นี่ก็ไปฟัีงพวกสมองหมามาอีกหล่ะ อย่าลืมตลาดตะวันออกกลางที่ทักษิณสนิทสนมสิ และยังมีโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับสินค้าอุตสาหกรรม เช่นก่อนที่ทักษิณจะโดนยึดอำนาจ ได้เจรจากับอเมริกาแลกเปลี่ยนไก่แช่แข็งกับเครื่องบิน F18 มาแล้ว แต่ยังไม่ทันเป็นผลสำเร็จก็โดนเสียก่อน และครานี้เราอาจจะได้เห็นรถถังรัสเซียแลกกับข้าวไทยหรือสินค้าตัวอื่น หรือเครื่องบินอเมริกาอีกชุดใหญ่ ก็เป็นได้

และตลาดตะวันออกกลางเมืองน้ำมันต่างๆ อนาคตจะเริ่มขาดแคลนสิ่งอุปโภคบริโภค เช่นซาอุฯ คาดว่าอีกไม่เกิน 50 ปีต้องผลิตน้ำมันได้น้อยลงหรือหมดไปเลย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะต้องอาศัยใบบุญเก่าที่ขายน้ำมันได้ ไปซื้อสิ่งอุปโภคบริโภคจากประเทศอื่น ดังนั้นผู้มีอำนาจในรัฐบาลซาอุฯ ได้มองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ปัจจุบัน ต้องการเป็นเอเจนท์ส่งขายสินค้าเกษตรสู่ตะวันออกกลางด้วยตัวเอง และสายสัมพันธ์กับทักษิณมีส่วนที่จะทำให้การป้อนสินค้าเกษตรสู่ตะวันออกกลางเป็นไปได้ยิ่งขึ้น โดยที่สายสัมพันธ์กับนานาประเทศกับซาอุฯ หรือประเทศตะวันออกกลาง ตอนนี้ยังไม่เห็นประเทศไหนดีกว่าทักษิณเลยครับ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 21:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
นี่ก็ไปฟัีงพวกสมองหมามาอีกหล่ะ อย่าลืมตลาดตะวันออกกลางที่ทักษิณสนิทสนมสิ และยังมีโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับสินค้าอุตสาหกรรม เช่นก่อนที่ทักษิณจะโดนยึดอำนาจ ได้เจรจากับอเมริกาแลกเปลี่ยนไก่แช่แข็งกับเครื่องบิน F18 มาแล้ว แต่ยังไม่ทันเป็นผลสำเร็จก็โดนเสียก่อน และครานี้เราอาจจะได้เห็นรถถังรัสเซียแลกกับข้าวไทยหรือสินค้าตัวอื่น หรือเครื่องบินอเมริกาอีกชุดใหญ่ ก็เป็นได้

และตลาดตะวันออกกลางเมืองน้ำมันต่างๆ อนาคตจะเริ่มขาดแคลนสิ่งอุปโภคบริโภค เช่นซาอุฯ คาดว่าอีกไม่เกิน 50 ปีต้องผลิตน้ำมันได้น้อยลงหรือหมดไปเลย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะต้องอาศัยใบบุญเก่าที่ขายน้ำมันได้ ไปซื้อสิ่งอุปโภคบริโภคจากประเทศอื่น ดังนั้นผู้มีอำนาจในรัฐบาลซาอุฯ ได้มองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ปัจจุบัน ต้องการเป็นเอเจนท์ส่งขายสินค้าเกษตรสู่ตะวันออกกลางด้วยตัวเอง และสายสัมพันธ์กับทักษิณมีส่วนที่จะทำให้การป้อนสินค้าเกษตรสู่ตะวันออกกลางเป็นไปได้ยิ่งขึ้น โดยที่สายสัมพันธ์กับนานาประเทศกับซาอุฯ หรือประเทศตะวันออกกลาง ตอนนี้ยังไม่เห็นประเทศไหนดีกว่าทักษิณเลยครับ

ทองมากนี่ก็สมองเหมียวจริงๆ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มีตลาดหรือไม่??

ประเด็นมันอยู่ที่ โรงสีได้จะได้ประโยชชน์มากกว่า แต่เกษตรกรอาจได้ไม่คุ้มที่รัฐบาลอุตส่าห์เอางบมากมายไปจำนำ

กลับไปอ่านให้แตกก่อนไป๊ๆ ชิ่วๆ ทองมากเอ๋ย ไม่ได้อ่านก็มั่วมาเลยนะ

q*020
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 22:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
บัญเอิญผมไม่ได้สนใจกระทู้ข้อความของคุณมากมายหรอก และ ดร.โก่งนี่ ไม่ต้องเอ่ยถึงผมก็จะเอียนแล้วครับ เลยขอข้ามไป แต่ประเด็นของผมคือ มาถ่ายทอดสิ่งที่เป็นไปได้ในนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาลเพื่อไทย ที่จะทำให้การเกษตรรุดหน้า สินค้าได้ราคาในตลาดโลก ซึี่งจะทำให้คำว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นจริงขึ้นมา และเกียวพันกับการขึ้นราคาค่าแรง 300 บาท เพราะอีกไม่นานต่อไปคนไทยไม่ต้องท้ิงไร่นา ไปทำงานในเมืองใหญ่ๆ เพื่อให้ได้ค่าแรงสูง แค่ทำเกษตรกับบ้านกับเรือน ทำไร่ทำนา หรือรับจ้างภาคการเกษตร ก็พอมีทางลืมตาอ้าปากได้ ไหนจะราคาประกันสินค้าเกษตรดี หรือ ค่าจ้างแรงงานก็ดี ส่งผลให้เกิดการพัฒนาชุมชนขึ้นมาอีกเพราะผู้ปกครองมีอัตตราการส่งเสียลูกหลานได้เรียนสูงๆ มากขึ้น เด็กเรียนจบก็ทำงานในชุมชนได้ และช่วยนำความรู้สู่บ้านเกิดได้อย่างทั่วถึงในสาขา อาชีพที่เล่าเรียนมา
q*073q*073q*073q*073q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 22:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จิ้งจอก หรือ กระรอกเจ้าเล่ห์

หากมีผู้ชี้โพรง อันตรายนัก

การป้องกัน คือปิดโพรงนั้นเสีย

---------------------



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 23:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คาดว่าทาง รบ.ก็คงรับรู้เรื่องนี้เพราะที่เห็นสัมภาษออกอากาศเขาก็บอกแล้ว

ว่าเมื่อก่อนมันมีช่องโหว่มาก ก็ต้องรอดูว่าจะทำกันแบบไหน แต่ยังไงถ้าไม่ดี

กว่าประกันราคาก็ถือว่าใช้ไม่ได้แต่ถ้าดีกว่าก็สอบผ่าน ส่วนถ้ามีปัญหาก็ต้อง

รับฟังแล้วดำเนินการแก้ไข

ปล.ขอของคุณ ดร.โกร่งด้วยจริงๆที่ออกมาให้ข้อสังเกตแต่พวกโรงสีคงแช่ง

ชักหักกระดูกแ่น่ๆเลยงานนี้ดันไปบอกช่องทางทำมากหากินของพวกเขา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 14 ส.ค. 11, 23:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
จิ้งจอก หรือ กระรอกเจ้าเล่ห์

หากมีผู้ชี้โพรง อันตรายนัก

การป้องกัน คือปิดโพรงนั้นเสีย

---------------------





อยากจะทำแบบนั้นอยู่ครับน้องคิม แต่คนประเภทนี้ต้องให้รับรู้ความจริงถึงจะเจ็บปวด ที่ตัวเองนั้นต่อต้านซึ่งหมายถึง ความคิดตัวเองนั้นผิดต่อสังคม เป็นอันตรายต่อสังคม และเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ ดังนั้นหากเขาจะเปลี่ยนมาเป็นส่วนหนึ่งของคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นยังไม่สายเกินไปครับ คือร่วมกันสนับสนุนสิ่งดีกับนโยบายเพื่อไทย ในขณะเดียวกันก็ร่วมกันตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตรงไหนผิดเพี้ยนมากไปก็ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน จะได้ระงับการก่อเหตุซ้ำร้ายกับประชาชนได้ครับ และเชื่อว่ารัฐบาลเพื่อไทยมีบทเรียนมากพอกับคำว่า ประชาธิปไตยจากเสียงของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ถ้าปราศจากเสียแล้วซึ่งคนเหล่านี้ก็จะต้องสูญเสียความเป็นรัฐบาลของประชาชนตลอดกาลแน่นอน
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 00:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
จิ้งจอก หรือ กระรอกเจ้าเล่ห์

หากมีผู้ชี้โพรง อันตรายนัก

การป้องกัน คือปิดโพรงนั้นเสีย

---------------------






ที่แม่นางกล่าวมานั้นถูกต้องแล้ว

หากไม่ห่วงประเทศ มุ่งหวังแต่เอาชนะ เขาก็ไม่ออกมาชี้ข้อเสียให้รัฐบาลได้เห็นหรอก

สู้เงียบๆแล้วปล่อยให้รัฐบาลพังไม่ดีกว่าดอกหรือ??

แต่เพราะเรื่องของชาติไม่ใช่เรื่องที่จะมาเอาแพ้เอาชนะ เพราะถ้ารัฐบาลทำสำเร็จก็เป็นประโยชน์ต่อทุกคนในชาติ

การที่ชี้โพรงให้รัฐบาล ก็คือบอกให้รัฐบาลอุดโพรงนั้นเสีย

แต่คุณทองมากปัญญาช่างน้อยกว่าแม่นางคิมคาร์ดิเชี่ยนผู้แสนฉลาดยิ่งนัก 5555!!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
................
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 01:12 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไก่แช่แข็งแลกF18 ใครได้ผลประโยชน์ q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 01:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
"แค่ชื่อโครงการ ก็หลอกตัวเองอยู่ทนโท่"

ไม่รู่ว่าผ่านการอนุมัติในสภามาได้ยังไง

ถ้าจะเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ไพเราะเพราะพริ้งกว่าเก่า

ผมว่าใช้ชื่อ

V
V
V
V
V
V
V
V
V
V
V
V
V
V


:::::::::::::::::::::::: รัฐยอมซื้อข้าวแพงมาขายถูกเพื่อชาวนา :::::::::::::::::::::::

ยังจะดูดีกว่านะครับท่านว่าที่รัฐมนโท

cocococococo

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 01:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณลำตะคอง ผมกำลังดูรายการซีอีโอซี๊ปึก

เขาฟันธงเลยว่า นโยบายจำนำ จะทำให้ข้าวไทยแย่แน่ๆ

เพราะชาวนาจะไม่สนคุณภาพข้าว เร่งแต่ผลิตจำนวนมากๆเพื่อเอาราคาจำนำ

และการจำนำข้าวของไทยเท่ากับไปทำให้ราคาข้าวทั่วโลกสูงตาม เวียตนามขายข้าวได้แพงขึ้นกำไรมากขึ้น แต่ข้าวไทยจะขายได้น้อยลง เพราะข้าวไทยจะแพงกว่าเวียตนามอยู่ดี

การจำนำปกติต้องต่ำกว่าราคาตลาด แต่กลายเป็นสูงกว่าราคาตลาด ก็เท่ากับทำข้าวไทยให้แพงกว่าราคาตลาดโลก แล้วมันจะขายได้มั้ย??

นอกจากรัฐยอมขาดทุนเอง เพื่อให้ข้าวไทยขายได้


การประกันราคาข้าว คือ การที่รัฐจ่ายส่วนต่างของราคาข้าวที่ประกันกับราคาตลาดโลก ทำให้รัฐไม่ต้องใช้งบมาก เกษตรกรจะคำนึงถึงคุณภาพข้าว

และจะไม่มีข้าวจากชายแดนมาสวมสิทธิ!!





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 02:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*032มีรัฐมนโทด้วยรึ q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 06:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ไก่แช่แข็งแลกF18 ใครได้ผลประโยชน์ q*031

เกษตรกรสิครับได้ประโยชน์ เป็นการระบายสินค้าสู่ตลาดอย่างแยบยล เมื่อสินค้าไทยนั้นเสียดุลย์การค้าต่างประเทศเสมอ การนำไปแลกกับสินค้าอุตสาหกรรมที่เราผลิตเองไม่ได้ ก็เป็นแนวคิดที่ดีครับ ส่วนตลาดปุจจุบันเป็นอาหารประจำของคนทั่วโลก ฝรั่งหันมาบริโภคข้าวมากขึ้น แม้มีตลาดของเวียดนามเป็นคู่แข่งที่สำคัญ แต่ไทยก็ยังไม่ด้อยกว่าแน่นอน ถ้ามีคนเจรจาตลาดเก่งๆ และมีสายสัมพันธ์ที่ดี อยู่ที่ความเข้มแข็งของรัฐบาลเราครับ ส่วนผู้เสียประโยชน์คือทหารที่ต้องการใช้งบประมาณไปดูงานการจัดซื้อยุทธโธปกรณ์กองทัพ หรือนายหน้าค้าอาวุธสงครามทั้่งหลายไงครับ เมื่อไม่มีงบจัดซื้อกลายเป็นไก่เย็นๆ ใครจะเอาไก่แช่แข็งไปฝากธนาคารหล่ะครับ


ที่แม่นางกล่าวมานั้นถูกต้องแล้ว

หากไม่ห่วงประเทศ มุ่งหวังแต่เอาชนะ เขาก็ไม่ออกมาชี้ข้อเสียให้รัฐบาลได้เห็นหรอก

สู้เงียบๆแล้วปล่อยให้รัฐบาลพังไม่ดีกว่าดอกหรือ??

แต่เพราะเรื่องของชาติไม่ใช่เรื่องที่จะมาเอาแพ้เอาชนะ เพราะถ้ารัฐบาลทำสำเร็จก็เป็นประโยชน์ต่อทุกคนในชาติ

การที่ชี้โพรงให้รัฐบาล ก็คือบอกให้รัฐบาลอุดโพรงนั้นเสีย

แต่คุณทองมากปัญญาช่างน้อยกว่าแม่นางคิมคาร์ดิเชี่ยนผู้แสนฉลาดยิ่งนัก 5555!!!



ทีมงานของพรรคเพื่อไทยทำงานกันมานานแล้วกับการประกาศนโยบายนี้ จึงได้ประกาศออกมา ไม่ใช่แค่ประชานิยมแต่เป็นผลได้จริงตามที่ทีมเศรษฐกิจได้คิดสรรค์ออกมา ดังนั้น สิ่งที่คนอื่นพูดรัฐบาลแน่นอนว่ารับฟัง แต่แนวทางที่ได้วางไว้ยังต้องดำเนินต่อไปและจะประกาศนโยบายรัฐบาลในวันที่ 23 นี้ครับ

อนึ่งแนวทางของรัฐบาลผมอยากให้กลับไปคิดนโยบายให้ตะวันออกกลางมาเช่าพื้นที่ทำการเกษตรในไทย เพราะประโยชน์ที่ได้มากมายแทบไม่มีผลเสีย เช่นสมัยท่านนายกฯสมชาย ได้มีการนำคณะนายทุนตะวันออกกลางมาดูพื้นที่และความเป็นไปได้ที่จะลงทุน ทำการเกษตรในไทยทางภาคอีสาน โดยรัฐจะดำเนินนโยบายเช่าพื้นที่ทำการเกษตรจากประชาชน และปล่อยให้นายทุนเช่า โดยนายทุนตะวันออกกลางจะมาลงทุนทั้งด้านเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ และอุปกรณ์เครื่องจักรการเกษตร และจะเป็นเอเจนท์ผ่อนถ่ายสินค้าตรงสู่ตลาดตะวันออกกลางเอง ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่พื้นที่การเกษตรต้องมีการจ้างคนงาน และคนงานก็คือชาวบ้านในพื้้นที่ โดยจ้างตามอัตตราอย่างน้อยตามแรงงานขึ้นต่ำในประเทศไทย และเรายังได้เทคโนโลยี Innovation จากการลุงทุนของเขามาพัฒนาพื้นที่การเกษตรทั่วไปของไทย และเมื่อเขาหมดสัญญาการเช่าพื้นที่การเกษตรแล้ว พื้นที่เหล่านั้นก็กลับมาเป็นของเจ้าของตามเดิม และทำมาหากินได้ต่อไป โดยตะวันออกกลางก็จะยังเป็นตลาดและเอเจนท์ส่งขายตรงให้กับเราเช่นเดิม


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 10:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่ผ่านมาโรงสีกับพ่อค้าคนกลางได้ประโยช์นมากมายก่ายกองมาเป็นเวลาช้านานแล้ว เด็กประถมก็รู้ครับ แล้วคุณว่าระดับผู้บริหารประเทศจะไม่รู้เชี่ยวหรือ คงไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนที่ผ่านมาหรอกครับ ถ้าจะเริ่มพัฒนา นโยบายใหม่.

และเห็นด้วยกับ ดร.โกรง ที่ Remind ให้อีกครั้งเรื่องการกินนอกกินในของโรงสีกับพ่อค้าคนกลาง แต่อย่าลืมเรื่องการชั่งตวงและความชื้นในข้าวด้วยที่พวกนี้เอามาอ้างโดยที่ชาวนาไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเพราะไม่ได้ วัดกันต่อหน้าหรือทำเครื่องมือวัดให้เพี๊ยนเหมื่อนตอนที่โดนจับได้แล้วเรื่องก็เงียบไป.



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 15:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ไก่แช่แข็งแลกF18 ใครได้ผลประโยชน์ q*031

ในยุโรปและอเมริกา เขารับซื้อแต่ไก่ที่เลี้ยงในระบบปิด ไก่ที่เลี้ยงอย่างถูกต้องและมีใบรับรองมาตรฐานที่ยุโรปและอเมริการับรองให้เท่านั้น

ฉะนั้นคำถามที่ถามว่า ใครได้ผลประโยชน์ถ้าไก่แช่แข็งแลกf18??

คำตอบที่ถูกต้องที่ไม่ใช่คำตอบแบบไร้ความรู้เหมือนคน ออสซี่ปลอม ๆตอบก็คือ

บริษัททีเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ที่ส่งออกไก่แช่แข็งต่างหากที่ได้ประโยชน์เต็มๆ
อย่างซีพี เป็นต้น

เกษตรกรไทยไม่ได้อะไรเลยครับ จะบอกให้ เพราะเกษตรกรไทยเลี้ยงไก่ไว้ขายในประเทศเท่านั้น เพราะโรงเลี้ยงส่วนใหญ่ยุโรปอเมริกาไม่ได้ให้การรับรองครับ


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 16:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

- ไก่แช่แข็งแลกF18 ใครได้ผลประโยชน์ q*031

- บริษัททีเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ที่ส่งออกไก่แช่แข็งต่างหากที่ได้ประโยชน์

เต็มๆอย่างซีพี เป็นต้น

หากมองแบบเป็นSystemคำตอบของคุณเอก ถือว่าถูก

ถามว่า f18เพื่อซีพีหรือ?

---------------------------------------------------

สำหรับเกษตรกรไทยเลี้ยงไก่ทั่วไป ซึ่งเป็นอาชีพอิสระ

หรืออาจเป็นอาชีพเสริมของคนขยัน รัฐบาลก็ควรดูแล

ให้ความสำคัญ ควรลงไปสำรวจ ว่าปัญหาของเกษตรกร

ที่พบ มีปัจจัยไหนบ้าง และจะได้ช่วยแก้ไขให้ถูกจุด

ที่คืออีกหนึ่งความรับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐบาล q*029


จะกลับมาอ่าน q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 17:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณk ช่างเยาว์นัก

ซีพีคุมตลาดไก่ในประเทศ ตั้งแต่ลูกเจี๊ยบ อาหารไก่ อุปกรณ์ระบบการเลี้ยงไก่แบบปิด

ซึ่งช่วงหวัดนกที่ผ่านมา ซีพีรณรงค์ให้รัฐบาลกำหนดการเลี้ยงไก่ที่ต้องอยู่ในระบบปิดเท่านั้น ซึ่งมองเผินๆก็ว่าดี เพราะไก่สะอาดขึ้น แต่คือการทำลายการเลี้ยงไก่แบบวิถีชาวบ้านลงไป ทำใหต้นทุนไก่แพง ต้นทุนไข่แพงขึ้น

ซึ่งชาวบ้านที่เคยเลี้ยงไก่ด้วยโรงเรือนแบบบ้านๆ ไม่มีงบจะทำโรงเรือนแบบปิด เลิกกิจการไปมากมาย ทำให้การเลี้ยงไก่ของเกษตรกรเหลือน้อยลงกว่าในอดีตเมื่อ10ปีที่แล้วมากกว่าครึ่ง เท่ากับบีบให้เกษตรกรรายเล็กตาย

ทำให้ซีพี และผู้ผลิตไก่รายใหญ่คุมราคาตลาด และฮั้วราคาตลาดกันง่ายขึ้น

ไปอ่านคนรู้จริงวิเคราะห์เรื่องไก่ได้ที่

http://pirun.ku.ac.th/~agrspi/%C3%D0%BA%BA%BB%D4%B4%CB%C3%D7%CD%E0%C5%E9%D2%BB%D4%B42.htm



และข่าวรัฐบาลเอื้อนายทุนเลี้ยงไก่

http://www.biothai.net/news/7100


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ความจริงในตอนนั้น
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 20:00 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

10กว่าปีก่อน ชาวบ้านที่เชียงใหม่เกือบทุกครัวเรือนจะเลี้ยงหมู
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดหมูในตลากราคาไม่แพง
คนขายหมูในตลาดจะหาซื้อหมูตามบ้านมาฆ่าขาย
แต่พอหมูเริ่มจะแพงขึ้น ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นราคากิโลละ50นี่ล่ะ เพราะอาหารเรื่มแพง
แต่รู้ไหมซีพีเอาหมูออกมาตีตลาดขาย 3กิโล100 เขายอมขาดทุนในตอนนั้น
ชาวบ้านที่เลี้ยงหมูขายตายสนิท ขาดทุนเทเล้าไม่เลี้ยงกันอีกเลย
พ่อค้าในตลาดต้องไปซื้อหมูตามฟารม์มาขาย
แล้วใครล่ะที่คุมราคา..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 20:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณมาก q*062

เห็นด้วยกับการเลี้ยงไก่แบบระบบปิด

แต่ก็มาคิดหนักแทนรัฐบาล และเห็นใจเกษตรกรรายย่อย ที่อาจจะต้องหางบมาลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยของต้นทุน

- นี่เป็นอีกหนึ่งโจทย์ ที่รัฐบาลคุณปู ต้องสอบให้ผ่านสินะ

และอีกโจทย์ที่ต้องผ่านให้ได้ และเอาใจช่วย

-ทำอย่างไร กับการที่กำหนดให้ไข่ไก่เป็นสินค้าควบคุม แล้วจะไม่ส่งผลกระทบหรือ ไปทำลายวงจรของเกษตรกรรายย่อย จนต้องสูญพันธุ์ไป

ใจเย็นๆควรให้โอกาสและไว้วางใจรัฐบาลที่มีนายกฯผู้มากประสบการณ์ด้านธุระกิจ

ว่าท่านจะแปรค่าจากประสบการณ์ที่มี นำมาบริหารประเทศเพื่อประชาชนได้หรือไม่ อย่างไร


..-..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 20:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณk ครับ คุณมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว

เขาพวกเดียวกันกับcpน่ะ สามีนายกฯก็ลูกหม้อซีพีครับ

คุณkคิดว่า ตอนหวัดนกเขาไม่รู้เหรอครับว่า รายย่อยเสียเปรียบรายใหญ่

เขารู้ครับ แต่เขามีข้ออ้างที่เกษตรกรต้องยอมเจ๊งแบบไม่มีปากเสียงครับ

ผมบอกแล้วไง นายทุนหลอกใช้คนจน!!

จาก377ที่นั่ง เหลือ265ที่นั่ง เพราะคนไทยฉลาดขึ้นครับ แต่ยังต้องเผยแพร่ความรู้กันต่อไป

ตัวอย่างเช่น

การที่นายทุนกักตุนที่ิดินไว้เพื่อเก็งกำไร ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทำให้คนจนขาดแคลนที่ดิน

แล้วนายทุนก็จะไม่ออกกฏหมายทำให้ตัวเองจนลงหรอกครับ

ภาษีที่ดิน และภาษีมรดก สามารถลดช่องว่างความแตกต่างทางฐานะลงได้ แต่รับรองรัฐบาลนี้ก็ไม่กล้าแตะเรื่องนี้

และคุณkก็ไม่ได้ไปอ่านตามลิงค์ที่ผมให้ว่า การเลี้ยงระบบปิดไม่ได้รับประกันว่า ไก่จะปลอดจากหวัดนก เพราะที่ยุโรป เอเซียหลายประเทศก็ระบบปิด แต่ก็เป็นหวัดนกครับ

q*027

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 20:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไมไม่ตั้งโงสีข้าวของรัฐไปเลยจะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับคนกลางที่จ้องจะกิน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 21:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*034
อ่านหมดแล้ว ออกความเห็นว่า เห็นด้วยกับการเลี้ยงระบบปิด

ซึ่งเห็นว่า(ในความคิดคิมเอง)ระบบนี้น่าจะดีกว่าทั้งหมด

ไม่ได้ออกมาพูดว่า ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นี่นา



ก็ลองดู และวัดใจดูว่า รัฐบาลยังอยากได้ประชาชนคนซื่อที่ชื่อคิม

และอีกค่อนประเทศเป็นผู้หยิบยื่นโอกาสให้ต่อไปอีกหรือไม่

แต่เชื่อว่า พลังที่คุณปูและคณะได้ไป มันเป็นพลังของประชาชน

ดังนั้นเธอคงไม่คิดสั้นฆ่าตัวเองหรอกนะ(หรือไร)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 21:12 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ทำไมไม่ตั้งโงสีข้าวของรัฐไปเลยจะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับคนกลางที่จ้องจะกิน

รัฐธรรมนูญในมาตรา84 (ถ้าผมจำไม่ผิด) ห้ามรัฐทำธุรกิจแข่งขันกับเอกชนครับ ยกเว้นในเรื่องความมั่นคง


ต้องแก้กฏหมายตัวนี้ก่อน แต่ความจริงไม่แก้ก็ได้ รัฐออกทุนให้เกษตรกรรวมตัวเป็นระบบสหกรณ์โรงสีชุมชนก็ได้ แต่รัฐที่ผ่านๆมาไม่ทำ

นั่นเพราะสส.มากมายเป็นเจ้าของโรงสีครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 21:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
q*034
อ่านหมดแล้ว ออกความเห็นว่า เห็นด้วยกับการเลี้ยงระบบปิด

ซึ่งเห็นว่า(ในความคิดคิมเอง)ระบบนี้น่าจะดีกว่าทั้งหมด

ไม่ได้ออกมาพูดว่า ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นี่นา



ก็ลองดู และวัดใจดูว่า รัฐบาลยังอยากได้ประชาชนคนซื่อที่ชื่อคิม

และอีกค่อนประเทศเป็นผู้หยิบยื่นโอกาสให้ต่อไปอีกหรือไม่

แต่เชื่อว่า พลังที่คุณปูและคณะได้ไป มันเป็นพลังของประชาชน

ดังนั้นเธอคงไม่คิดสั้นฆ่าตัวเองหรอกนะ(หรือไร)

ถ้าคุณคิมซื่อจริงๆ คุณคิมปลีกตัวออกมานานแล้ว

เมื่อกี้ผมตั้งกระทู้โดนลบไปกระทู้นึง ผมลอกข่าวมา

ไปอ่านเอาที่นี่แล้วกัน http://astv.mobi/AscgsxK

เพราะป้าแกจับไต๋ได้แล้วว่า อาจโดนหลอก
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
.................
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 15 ส.ค. 11, 23:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คิดเหมือนคุณเอกคับ q*021

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 16 ส.ค. 11, 01:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เรื่องคุณป้าธิดา ขอรับฟัง

แต่เรื่องซื่อแล้วต้องปลีกตัวออกมา เพียงเพราะเชื่อคนอื่น ฟังคนอื่น

โดยไม่ได้ไตร่ตรองด้วยตัวเองเสียก่อน นั่นไม่ใช่คิม q*077

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 16 ส.ค. 11, 11:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
10กว่าปีก่อน ชาวบ้านที่เชียงใหม่เกือบทุกครัวเรือนจะเลี้ยงหมู
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดหมูในตลากราคาไม่แพง
คนขายหมูในตลาดจะหาซื้อหมูตามบ้านมาฆ่าขาย
แต่พอหมูเริ่มจะแพงขึ้น ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นราคากิโลละ50นี่ล่ะ เพราะอาหารเรื่มแพง
แต่รู้ไหมซีพีเอาหมูออกมาตีตลาดขาย 3กิโล100 เขายอมขาดทุนในตอนนั้น
ชาวบ้านที่เลี้ยงหมูขายตายสนิท ขาดทุนเทเล้าไม่เลี้ยงกันอีกเลย
พ่อค้าในตลาดต้องไปซื้อหมูตามฟารม์มาขาย
แล้วใครล่ะที่คุมราคา..

คุณเอก คุณk อย่ามองข้าม คคห. นี้ครับ พูดลอย ๆ เหมือนจะไม่มีสาระ แต่นี้คือ สาระจริง ๆ

สิ่งที่คุณกำลัง ถกเถียงกันอยู่ คือ ระบบทุนนิยม

การรับจำนำข้าว หรือ รับจำนำอื่น ๆ เค้าทำมาเพื่อ สนับสนุน กับ นโยบาย 300 บาท ต่อไปเราจะไม่มี เจ้าเล็ก ๆ ครับ เพราะเจ้าเล็ก ๆ จะตายหมด เจ้าเล็ก ๆ ก็จะหันไปรับเป็นแรงงาน หรือ เป็น partner กับ เจ้าของทุน(ในที่นี้คือ CP) ถามว่ามัน win win ทั้งสองฝ่ายหรือไม่ เรื่องผลประโยชน์ ระยะสั้น มองดูแล้วก็ win win ทั้งสองฝ่าย แต่ในระยะยาว ก็เป็นดังที่ คคห.ที่ผมอ้างอิง คือ ต่อไปจะมีแต่เจ้าใหญ่ ๆ เป็นทุนนิยม เจ้าเล็ก ๆ หรือ คนที่คิดจะแข่ง จะไม่สามารถมีกำลังทุนสู้ได้

เหมือนดัง การจำนำลำใย ที่โครงการล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ผลประโยชน์ตกไปอยู่กับพวกนายทุน แต่ ข่าวปิดเงียบสนิท หากไม่ใช่คนวงใน หรือ คนที่ทำธุรกิจ จะไม่ทราบข่าวคราวเลย
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 02:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณเอก คุณk อย่ามองข้าม คคห. นี้ครับ พูดลอย ๆ เหมือนจะไม่มีสาระ แต่นี้คือ สาระจริง ๆ

สิ่งที่คุณกำลัง ถกเถียงกันอยู่ คือ ระบบทุนนิยม

การรับจำนำข้าว หรือ รับจำนำอื่น ๆ เค้าทำมาเพื่อ สนับสนุน กับ นโยบาย 300 บาท ต่อไปเราจะไม่มี เจ้าเล็ก ๆ ครับ เพราะเจ้าเล็ก ๆ จะตายหมด เจ้าเล็ก ๆ ก็จะหันไปรับเป็นแรงงาน หรือ เป็น partner กับ เจ้าของทุน(ในที่นี้คือ CP) ถามว่ามัน win win ทั้งสองฝ่ายหรือไม่ เรื่องผลประโยชน์ ระยะสั้น มองดูแล้วก็ win win ทั้งสองฝ่าย แต่ในระยะยาว ก็เป็นดังที่ คคห.ที่ผมอ้างอิง คือ ต่อไปจะมีแต่เจ้าใหญ่ ๆ เป็นทุนนิยม เจ้าเล็ก ๆ หรือ คนที่คิดจะแข่ง จะไม่สามารถมีกำลังทุนสู้ได้

เหมือนดัง การจำนำลำใย ที่โครงการล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ผลประโยชน์ตกไปอยู่กับพวกนายทุน แต่ ข่าวปิดเงียบสนิท หากไม่ใช่คนวงใน หรือ คนที่ทำธุรกิจ จะไม่ทราบข่าวคราวเลย

ครับคุณปิงปอง ผมลืมขอบคุณเจ้าของความเห็นนั้น แต่ก็ได้อ่านครับ

คุณความจริงในตอนนั้น เขียนได้เห็นภาพชัดเจนเลยครับ q*062

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 03:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*029ไม่ได้มองข้าม แต่เดินสดุดหัวทิ่มเลยแหล่ะ

คิมเห็นว่า จัดอยู่ในเรื่องเดียวกัน ต่างแค่ไก่กับหมูเท่านั้น

ขอบคุณคุณpingpongjang q*039

ร่วมด้วยช่วยกัน ประเทศจะได้เจริญ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 10:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
q*029ไม่ได้มองข้าม แต่เดินสดุดหัวทิ่มเลยแหล่ะ

คิมเห็นว่า จัดอยู่ในเรื่องเดียวกัน ต่างแค่ไก่กับหมูเท่านั้น

ขอบคุณคุณpingpongjang q*039

ร่วมด้วยช่วยกัน ประเทศจะได้เจริญ

ว่าแต่คุณคิม ดูออก ถึง ความนัยที่ผมซ่อนอยู่ไหมครับ ว่าผมต้องการสื่อถึงอะไรครับ

แค่อยากคุยด้วย เพราะเห็นว่า คุณคิม เป็นคนที่ใช้เหตุผลอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกับ......... ไม่ขอเทียบดีกว่า 55555
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 15:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นโยบายของเพื่อไทยจะดีหรือไม่ดีต่อประเทศไทยแน่...ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ชาวไร่ที่ปลูกมันสำปะหลังกำลังจะแย่ ..เพราะมันเขมร ราคาถูกเข้ามาตีตลาด ลานมันก็กดราคามันสำปะหลังของคนไทยลง..เผลอๆรถเล็กเอามันไปขายต้องติดคิวนาน เพราะจะให้คิวมันเขมรก่อน... ไม่เชื่อไปดูได้ที่ลานมันแถวโคราช ...มีแต่มันเขมรทั้งนั้น ... รู้แล้วว่าทำไมฮุนเซนถึงดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล.....? q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 18:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่รู้สิเรื่องนี้นะคุณเอก มีทั้งข้อดีข้อเสีย ดูเค้าทำเต็มที่ปิดช่องโหว่ก่อนดีมะถ้าว่าดีจริงและจริงใจ เราว่าไม่obvious มากนัก ก็มีฝ่ายค้านที่ดีอยู่ มีหลายคนที่วางใจเลือกเค้าแต่พร้อมตรวจสอบพร้อมเอาจริงกับพวกเค้าก็เยอะเท่าที่รู้ ระวังกลุ่มคนชั้นกลางที่เลือกเค้าไป กลุ่มคนพวกนี้เห็นอะไรเร็ว
เหนื่อยแทนจัง แต่เรื่องอื่นก็ว่ากันไป ศึกนอกศึกใน back fire
ไม่พักผ่อนหย่อนใจก่อน ดูข่าวเย็นค่ะ ตุ๊กกี่....OUT!!!!

วันนี้สอน EBM นศพ หน้า เจื่อนมาก เลยหมดแรง ขนาดระดับ นศพ สอนหา evidence base ยังดูเหมือนเข็นครกเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 17 ส.ค. 11, 23:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สวัสดีคุณpingpongjang


ใหญ่อยู่แล้ว ก็จะใหญ่ยิ่งขึ้นจนเป็นเจ้ายุทธจักร มีไม่กี่สำนัก หรือไร?

เพิ่มตัวเลขผู้ใช้แรงงานในโลกอนาคตสินะ??

ใช่ปริศนาที่ซ่อนหรือไม่ โปรดเฉลย q*031

ขอบคุณ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 18 ส.ค. 11, 11:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สวัสดีคุณpingpongjang


ใหญ่อยู่แล้ว ก็จะใหญ่ยิ่งขึ้นจนเป็นเจ้ายุทธจักร มีไม่กี่สำนัก หรือไร?

เพิ่มตัวเลขผู้ใช้แรงงานในโลกอนาคตสินะ??

ใช่ปริศนาที่ซ่อนหรือไม่ โปรดเฉลย q*031

ขอบคุณ



เป็นเช่นนั้นแล

หากแต่ สำนักพวกนั้น รวมตัวกัน เพื่อ ปกครองยุทธจักร อะไรจะเกิดขึ้น แล้วถ้าหากไปร่วมมือกับ คนนอกยุทธจักรอีกล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น

สำนักเล็ก ๆ ก็อยู่ไม่ได้ คนที่คิดจะเปิดสำนัก ก็เปิดไม่ได้ เพราะสำนักต้องใช้อำนาจ และ เงินทุนสูง เพื่อแข่งกับ สำนักใหญ่ได้

หากผู้คุ้มกฏ ยังคง ทำกฏเช่นนี้มาเรื่อย ๆ ผู้ใช้แรงงานย่อมเพิ่มขึ้น แรงงานที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เจ้าของสำนักเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ได้ จนต้องมาเป็นแรงงานเสียเอง นั้นแหละ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เจด้า
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 18 ส.ค. 11, 19:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
บัญเอิญผมไม่ได้สนใจกระทู้ข้อความของคุณมากมายหรอก และ ดร.โก่งนี่ ไม่ต้องเอ่ยถึงผมก็จะเอียนแล้วครับ เลยขอข้ามไป แต่ประเด็นของผมคือ มาถ่ายทอดสิ่งที่เป็นไปได้ในนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาลเพื่อไทย ที่จะทำให้การเกษตรรุดหน้า สินค้าได้ราคาในตลาดโลก ซึี่งจะทำให้คำว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นจริงขึ้นมา และเกียวพันกับการขึ้นราคาค่าแรง 300 บาท เพราะอีกไม่นานต่อไปคนไทยไม่ต้องท้ิงไร่นา ไปทำงานในเมืองใหญ่ๆ เพื่อให้ได้ค่าแรงสูง แค่ทำเกษตรกับบ้านกับเรือน ทำไร่ทำนา หรือรับจ้างภาคการเกษตร ก็พอมีทางลืมตาอ้าปากได้ ไหนจะราคาประกันสินค้าเกษตรดี หรือ ค่าจ้างแรงงานก็ดี ส่งผลให้เกิดการพัฒนาชุมชนขึ้นมาอีกเพราะผู้ปกครองมีอัตตราการส่งเสียลูกหลานได้เรียนสูงๆ มากขึ้น เด็กเรียนจบก็ทำงานในชุมชนได้ และช่วยนำความรู้สู่บ้านเกิดได้อย่างทั่วถึงในสาขา อาชีพที่เล่าเรียนมา
q*073q*073q*073q*073q*073



กลับไปคนต่างจังหวัดซิว่ามีกี่รายจะจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 300
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม