4 เดือน 4 บทบาท"ผู้นำวัย 44" วาทะนอกสคริปต์ของ"ยิ่งลักษณ์"วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:30:37 น.
สำหรับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" อาจไม่ใช่แค่ "หัวโขน" ที่มาพร้อมภาระ-หน้าที่-ความรับผิดชอบ แต่ยังพ่วงด้วยสารพัดความคาดหวัง จึงยากจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ทำให้คนช่างพูด คุยเก่ง หัวเราะง่าย และเรียกใครต่อใครว่า "พี่" เพื่อสร้างความสนิทสนม กลับต้องถูก "เซ็ตติ้ง" ทั้งท่าทาง อิริยาบถ เสื้อผ้าหน้าผม ไปจนกระทั่งคำพูด จาก "ทีมนักการตลาดมืออาชีพ" ทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ จนถูกแซวว่าราวกับเป็นเพียง
"ตุ๊กตาไบลธ์" หรือ "ตุ๊กตาบาร์บี้" !ในโอกาสไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวจึงได้โอกาสขอเวลานั่งพูดคุยกับเจ้าตัวอย่างสบายๆ เป็นครั้งแรกนับแต่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเกือบ 4 เดือนก่อน เธอตอบตกลงอย่างง่ายดาย วงสนทนาจึงถูกจัดขึ้นง่ายๆ ลากโต๊ะ-ลากเก้าอี้มาล้อมวงริมสระน้ำในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในเวลาราว 21.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม ปราศจากเทปอัดและไมโครโฟน ไม่มีกล้องและไฟส่องหน้า
เวลา 40 นาทีนับจากนั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้สัมผัสถึงชีวิต เลือดเนื้อ ความรู้สึก ความใฝ่ฝัน ของ "ยิ่งลักษณ์" ในวัย 44 ปี ที่จู่ๆ ความเปลี่ยนแปลงก็กระแทกเข้ามาในชีวิต
จากที่เคยถูกกันไม่ให้มายุ่งกับการเมือง กลับถูกลากสู่สมรภูมิการเมืองในฐานะตัวแทนคนสุดท้ายของ "ตระกูลชินวัตร"
แถมยังต้องแบกภาระหนักถึง 4 บทบาทในเวลาเดียวกัน
ในฐานะ "ผู้นำประเทศ" เธอยอมรับว่า ที่ผ่านมามีเวลาทำงานน้อยไป และยังมีวิกฤตน้ำท่วมแทรกเข้ามา ถึงทำเต็มที่ก็ได้แค่เสมอตัว หรือติดลบ ในฐานะ "น้องสาว" เธอบอกว่า จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่จะให้คณะกรรมการต่างๆ ที่ตั้งมาเป็นผู้เสนอ เพราะคนกว่า 15.7 ล้านคน คงไม่ยอมให้มัวแต่ทำอะไรเพื่อคนคนเดียว
ทว่า "ยิ่งลักษณ์" ถึงกับน้ำตาริน เมื่อถูกถามว่าคิดถึงพี่ชายหรือไม่ โดยบอกว่า "คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงอยู่แล้ว" แล้วเฉไฉไปคุยเรื่องอื่น
ในฐานะ "
แม่และภรรยา" ช่วงหนึ่ง "ลูกไปค์-ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร" มานั่งตัก "แม่ปู" ทำให้เธอโน้มตัวลงกอดลูกชายคนเดียวแนบอก ก่อนอธิบายการดูแลครอบครัวในช่วงที่ทุกเวลา-ทุกนาทีมีค่าดั่งทอง ด้วยน้ำเสียงเหงาๆ ว่า "ก็ต้องหัดให้อยู่ด้วยกันให้ได้ เสาร์-อาทิตย์ไปไหนจะพาไปด้วย แม่ไปช็อปปิ้ง ลูกก็ต้องรอ"
และสุดท้ายในฐานะ "ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง" เธอบอกว่า มีความรู้สึกเหมือนกันที่ถูกล้อเรื่องพูดผิด หรือมีคนเอาคำว่า "เอาอยู่" ไปเสียดสี แต่จะพยายามมองโลกในแง่ดี เช่นเดียวกับข้อหาโดนบงการ-ถูกชักใย ซึ่ง "ยิ่งลักษณ์" ชี้แจงด้วยน้ำเสียงเจออารมณ์ ซึ่งยากจะได้ยินในยามปกติ
"ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาเจอสื่อถาม ตอบกะทันหัน ใครจะช่วย การตัดสินใจใน ครม. ก็ใครจะช่วยล่ะคะ วันนี้ไม่มีใครเชื่อ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว
"ผู้นำมือใหม่" สารภาพตามตรงว่า สิ่งที่ยากที่สุดในฐานะนายกฯ คือการตอบคำถามสื่อ จึงต้องมีทริคในการ "เก็งข้อสอบ" ทุกๆ เช้า ด้วยการดูพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ร่วมกับมอนิเตอร์รายการเล่าข่าวยามเช้าของโทรทัศน์ช่องต่างๆ
"ถ้าวันไหนมาสาย แปลว่าวันนี้มีประเด็นร้อนเยอะ" เธอพูดพลางหัวเราะ
แม้ "วงเปลือยหัวใจคุย" ดังกล่าว จะมีบางช่วงบางตอนที่ดูเหมือน "นายกฯนารี" จะเผลอตอบคำถามแบบ "ตั้งการ์ด" ตอบแบบระมัดระวังคำตอบ คล้ายการให้สัมภาษณ์ประจำวันทั่วไป
แต่เชื่อได้ว่า ถ้าเกิดการพูดคุยลักษณะนี้บ่อยๆ น่าจะช่วยทำให้เห็นอีกแง่มุมในชีวิตของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ก็เป็น "คนธรรมดา" มีความคิด มีจิตใจ รู้สึกเจ็บปวด ดีใจ หัวเราะ ร้องไห้ ผิดหวัง เหนื่อย ท้อ ฯลฯ ได้เหมือนคนทั่วๆ ไป!!!ขอบคุณมติชนออนไลน์>>>
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324360036&grpid=01&catid=&subcatid=v
v
v
"ตุ๊กตาไบลธ์" หรือ "ตุ๊กตาบาร์บี้" ! บาร์บี้ คือตำนานเจ้าหญิง หรือนางฟ้าที่เด็กหญิงจำนวนมากใฝ่ฝันมีชีวิตเฉกเช่นเธอ ..นางฟ้าบาร์บี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ฟันฝ่าต่อสู้อุปสรรคนานานัปการ รวมทั้งแม่มดและนางฟ้าใจร้ายที่ขึ้อิจฉาริษยาเธอ..แ่ต่สุดท้ายเธอก็ต่อสู้ฟันฝ่าเอาชนะอุปสรรคได้ด้วยความดีและสติปัญญา นั่นคือบาร์บี้ในตำนาน ที่เด็กสาวจำนวนมากใฝ่ฝันอย่ากเป็น..
สำหรับนายกยิ่งลักษณ์ เป็นนายกหญิงคนแรกของประเทศไทย และมีอายุน้อยที่สุด ได้รับการเลือกตั้งท่ามกลางวิกฤติของชาติบ้านเมือง ผู้คนแตกแยกจนยากประสาน ในระยะเวลาสั้นๆที่เข้ามาสู่ถนนสายนี้ เธอทำได้แค่นี้ ก็ดีกว่าผู้ชายอกสามศอกอีกหลายคนที่ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งหัวดำหัวหงอก..ความจริงน่าจะใส่อย่างอื่นแทนกางเกงได้แล้ว...
ดงบาทา 



