แพงมหาโหด ผลงานการแปรรูปของแม้วมันละ ขอบคุณมันซะด้วยนะครับที่ทำให้คนไทยได้ใช้น้ำมันแพง
ปตท.โวกำไร 1.05 แสนล้านสูงสุดในประวัติการณ์ เตรียมทุ่มงบลงทุน 7 แสนล้านขยายโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน หวังติดอันดับ FORTUNE 100 ภายในปี 2563 มีผลประกอบการอยู่ในระดับชั้นนำภายในปี 2563
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยผลประกอบการประจำปี 2554 ว่า ในปี 2554 กลุ่ม ปตท.มีรายได้อยู่ที่ 2,428,165 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 105,296 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรต่อหุ้นที่ 36.91 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิ 83,992 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นที่ 29.58 บาท
ทั้งนี้ ปี 2555 ปตท.ได้จัดสรรเงินสำหรับลงทุนมากกว่า 91,000 ล้านบาท และเตรียมงบลงทุน 5 ปี 720,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของ ปตท. 360,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน ได้แก่ โครงการท่อส่งก๊าซ เส้นที่ 4 โครงการขยายขีดความสามารถในการนำเข้าก๊าซหุงต้มและก๊าซ LNG เป็นต้น ส่วนการลงทุนของ ปตท.สผ.อีกประมาณ 360,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งก๊าซทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ปตท.ได้นำส่งเงินให้รับในปี 54 จำนวน 63,000 ล้านบาทแบ่งเป็นในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล 39,000 ล้านบาท และเงินปันผล 24,000 ล้านบาท
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ปตท.ตั้งเป้าติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ภายในปี 2556 นอกจากจะเป็นบริษัทที่ทำกำไรให้ดีแล้ว จะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดย ปตท.จะต้องเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมกับสร้างนวัตกรรม รวมถึงความเป็นเลิศในการสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าติดอันดับ FORTUNE 100 ภายในปี 2563 มีผลประกอบการอยู่ในระดับชั้นนำภายในปี 2563
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2554 ของ ปตท. แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยช่วงไตรมาสที่ 4/2554 และส่งผลกระทบอย่างมาก แต่เนื่องจาก ปตท.มีแผนการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ ได้แก่ แผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง, การจัดการสภาวะวิกฤติ, การกู้คืนระบบสารสนเทศ, การจัดเตรียมทรัพยากรบุคลากร, การจัดเตรียมสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง, และการกู้คืนอาคารและสถานที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและการให้บริการ อีกทั้งสามารถใช้ศักยภาพที่มีเข้าช่วยฟื้นฟูและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช PTT กล่าวว่า ปตท.จะจ่ายปันผลปี 2554 ที่ 13 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายครึ่งปีแรกไปแล้ว 6 บาท ดังนั้น ในครึ่งปีหลังต้องจ่ายอีก 7 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 35% ของกำไรสุทธิ และรวมเป็นเงินที่จ่ายทั้งสิ้น 41,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 17 ก.พ. ว่า ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,129.93 จุด เพิ่มขึ้น 9.68 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 39,771.87 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 380.12 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 636.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5909.03 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 4892.12 ล้านบาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน แต่ยังสามารถอยู่ในแดนบวกได้เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังกับกรณีแก้ไขหนี้ประเทศกรีซว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 20 ก.พ.นี้.
http://www.thaipost.net/news/180212/52743