ตามกฎหมายแล้วการทำแท้งไม่ได้ผิดเสมอไป ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 (1) (2) และมาตรา 276, 277, 282, 283 และ 284 และข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ได้กำหนดให้แพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้ยุติการตั้งครรภ์แก่ผู้หญิงตั้งครรภ์ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
- การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพทางกายของผู้หญิง
- การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพทางใจของผู้หญิง
- ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรง
- การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืนกระทำชำเรา
- การตั้งครรภ์ในเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี
- การตั้งครรภ์มาจากเหตุล่อลวง บังคับ หรือข่มขู่ เพื่อทำอนาจาร สนองความใคร่
เราเห็นด้วยกับกฎหมายข้างต้นถึงแม้จะไม่รู้เรื่องกฎหมายหรือมีความเข้าใจมากนัก เราไม่รู้เรื่องยาที่แฟนคุณทานเข้าไป และเข้าใจว่าสาหร่ายืนยันว่าเด็กอาจพิการ เลยคิดว่าน่าจะเข้าข่ายทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรง (ถ้าเข้าใจผิดไปและท่านใดมีความรู้เรื่องกฎหมายกรุณาแย้งด้วย) กฎหมายคำนึงถึงความถูกต้องอยู่แล้ว จะไปบัญญัติแบบนี้ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
ถึงแม้การทำแท้งจะขัดกับหลักศีลธรรม แต่หากจำเป็นจริง ๆ ตามที่กฎหมายระบุไว้ก็อย่าคิดว่าตนเองผิดมากมายเลย กฎหมายมีความชอบธรรมและยึดหลักของศีลธรรมอยู่แล้ว ตัวบทกฎหมายบัญญัติขึ้นเพื่อให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีความสุข และหากไม่จำเป็นจริง ๆ คงไม่บัญญัติกรณียกเว้นออกมา
ที่ยกกฎหมายมาเพราะอยากให้คุณสบายใจขึ้น ไม่รู้สึกกดดันกับความรู้สึกผิดมากเกินไปนัก หากคุณเป็นชาวพุทธก็ชวนแฟนเข้าวัดทำบุญให้มาก จิตใจจะได้สงบ (เราเป็นคาทอลิก ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยแนะไม่ค่อยสะดวก หวังว่าคงเข้าใจนะ) ตั้งครรภ์ครั้งหน้าก็ระมัดระวังเรื่องหยูกยาให้มากขึ้น ตัวคุณก็ดูแลแฟนอย่างใกล้ชิดด้วย ไปพบแพทย์เป็นประจำ ประวัติศาสตร์จะได้ไม่ซ้ำรอย ทางที่ดีก่อนตั้งครรภ์ควรไปพบแพทย์เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์จะดีที่สุด