การใช้ยางพาราผสมยางมะตอยฉาบผิวถนน เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
เรื่อง : วิชิต สุวรรณปรีชา
ประเทศไทยใช้ยางมะตอย หรือยางแอสฟัลต์ ใน
งานก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนน ทั่วประเทศ ประมาณปีละ 800,000 ตัน แบ่งเป็นการใช้ยางมะตอยน้ำ (Asphalt Emulsion) ประมาณปีละ 200,000 ตัน และยางมะตอยชนิดแอสฟัลต์ (Asphalt Cement : AC) ประมาณปีละ 600,000 ตัน ทำให้แต่ละปีต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก เป็นค่ายางมะตอย ในการก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนน
การเปลี่ยนรูปแบบ ก่อสร้างผิวถนน ในการก่อสร้างถนนใหม่ และฉาบผิวถนนเก่า ในการซ่อมบำรุงผิวจราจร จากที่เคยใช้ยางมะตอยล้วนๆ เพียงอย่างเดียว มาใช้ยางมะตอยผสมยางธรรมชาติ ร้อยละ 5.5 ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศ ได้ปีละ 44,000 ตัน เป็นไปตามมาตรการหนึ่ง ในการส่งเสริม และสนับสนุน การใช้ยางธรรมชาติ ในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น อันเป็นแนวทางแก้ไขปัญหายาง อย่างเป็นระบบได้ระดับหนึ่งในการ ช่วยให้ เกษตรกรชาวสวนยาง สามารถขายยางได้มีเสถียรภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกันประชาชนในประเทศ ก็ได้ใช้ถนนที่มีคุณภาพมากขึ้น ผิวจราจรมีความลื่นลดลง ช่วยลดอุบัติเหตุ และ การสูญเสียชีวิต จากการใช้ถนน ส่วนรัฐบาลได้ประโยชน์จากการ ประหยัดงบประมาณ ค่าใช้จ่าย ในการซ่อมบำรุงรักษาถนน ในระยะยาว เนื่องจากอายุการใช้งานถนนยาวขึ้น 1-2 เท่าจากเดิม ขณะที่ค่าซ่อมบำรุงผิวจราจรลดลงได้ถึง 4.5 เท่า ในระยะเวลา 10 ปี คิดเป็นเงินงบประมาณที่ประหยัดไปได้ประมาณ 66,000 ล้านบาท หรือ 220.30 บาทต่อตารางเมตร
มีการใช้ยางธรรมชาติผสมยางมะตอยราดถนนมานานกว่า 50 ปี
เนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศแรก ที่ทดลองใช้ยางธรรมชาติ ในรูปยางผงผสมลงในยางมะตอยราดถนน ในประเทศ เนเธอร์แลนด์ และอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2492 ผลการทดลองในครั้งนั้น ปรากฎว่าผิวถนน มีอายุการใช้งานนานขึ้น ผิวถนน ปราศจาก ฝุ่นและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถนน จึงขยายผล ไปใช้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในรัฐเวอร์จิเนีย โอไฮโอ มิเนโซต้า และเท็กซัส ทำให้พบข้อดีเพิ่มขึ้นจากการใช้งาน ตรงที่ผิวถนนไม่เปลี่ยนแปลง ไปตามอุณหภูมิของอากาศ ทั้งทนทาน ต่อการสึกกร่อน จากฝนอีกด้วย
For full story :
http://www.euroscan.co.th/th/main/content.php?page=products&category=37&id=130^
^
^
อิสานบ้านผมก็ปลูกยางกันเยอะ ผมโทรถามเพื่อนราคายางตกต่ำ สวนยางอิสานไม่ปิดถนนกันบ้างเหรอ เค้าบอกถึงจะต่ำแต่ก็ยังเป็นราคาที่ทำกำไร ทำรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเข้าใจสถานการณ์ ภาวะการณ์ตลาดโลก ว่าเป็นอย่างไร
ถ้าหากมาเลย์ฯ, อินโดฯ ขายได้ราคาสูง แต่ไทยขายได้ถูกดิจึงสำควรที่จะตำหนิรัฐบาล ไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้ ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา รู้ภาวะการณ์ตลาดโลกด้วย แถมยังบอกอีกว่านี่ถ้ามาร์คยังเป็นนายกฯ ราคายางพาราน่าจะตกต่ำยิ่งกว่านี้...ขอนิดหนึ่งนะ
ดาวเทียมไทยคมฯ นี่มีประโยชน์จริงๆ ทำให้คนไทยเราไม่ถูกปิดหู ปิดตา