รีวิวลุยเดี่ยว...เที่ยววังเวียง ลาว และการเดินทางไปวังเวียงโดยรถโดยสาร

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน มารีวิวกันต่อครับ ขอเปิดกระทู้รีีวิว หน้าใหม่เลยครับ ขออ้่างอิงรีวิวอันเก่าก่อนนะครับ โดยเพื่อนคลิ๊กลิงค์ที่ http://webboard.travel.sanook.com/forum/?topic=3662632 หลังจากที่พาเพื่อนๆเที่ยวเมืองเวียงจันทร์แล้ว พอช่วงบ่าย ผมก็เตรียมตะลุยการเดินทางไปเที่ยวต่อที่ วังเวียง ลาว ครับ โดยต้องไปให้ทันก่อนมืดครับ เพราะจองที่พักไว้แล้วที่วังเวียงครับ กะไปชมบรรยากาศธรรมชาติสัก 1 คืน ก่อนเดินทางต่อไปหลวงพระบางครับ
...
หากเพื่อนๆท่านใด มีประสบการณ์เดินทางดีๆ หรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาแบ่งปันกันได้ทาง facebook https://www.facebook.com/khundenbackpacker

...เวลา 13.30 รถโดยสารออกจากขนส่งตลาดกลางเวียงจัีนทร์ เตรียมเดินทางมู่งหน้าสุ่วังเวียงประเทศลาว ซึ่งอยู่ทางเหนือของนครหลวงเวียงจันทร์ครับ

การเดินทางไปวัีงเวียงโดยรถโดยสาร ได้บรรยากาศธรรมชาติมากครับ เพราะ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สีเีขียวที่ยังคงเป็นธรรมชาติครับ

แต่ความเป็นธรรมชาติ 2 ข้างทาง กับถนนลูกรังสลับถนนลาดยางบ้าง ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ ดูลุยๆดีครับ ...การเดินทางไปวังเวียงครั้งแรกของผม เหมือนได้ย้อนตัวเองนั่งหวานเย็นตอนเด็กๆเลยครับ

การเดินทางไปวังเวียงด้วยถนนลูกรัง ก็ผจญกับฝุ่นที่ทำให้เส้นผมทั่งหัวของผมแดงไปหมดเลยครับ ด้วยสภาพถนนที่ยังไม่ราบเรียบเหมือนเมืองไทย เป็นอย่างทีี่เห็นครับ ฝุ่นตลบอบอวนทั้งคัน ถ้าเป็นหน้าฝนคงแชะน่าดูครับ

รองเท้าผ้าใบคู่ใจ ลุยๆจริง พร้อมเลอะอยู่แล้วครับ ใส่ตั้งแต่ปี 2554 ตามสภาพการเดินทางที่ต้องลุยๆครับ

รถโดยสารจากวังเวียงใช้เวลาตั้งแต่เวลา 13.30 น.จากตลาดขนส่งนครเวียงจันทร์ ถึง วังเวียงเวลา 18.10 น.ใช้เวลาเดินทางเกือบร่วม 5 ชั่วโมง กับระยะทาง 160 กิโลเมตร ที่ต้องฝ่ามรสุมถนนลูกรัง ขึ้นลงภูเขาตลอดครับ เพื่อนคนใหนชอบเที่ยวแบบผม ลองมานั่งดูนะครับ สุดๆจริงครับ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ชิวๆครับ
.... รถโดยสารมาจอดที่ถนนใหญ่ทางเข้าตลาดวังเวียงครับ วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆเองครับ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติจริงๆครับ

ผมลงจากรถโดยสารก็เดินเข้ามาในชุึมชมวังเวียงครับ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติจริงๆสวยงามมากครับ เรามารู้จักกับวังเวียงกันครับ ...วังเวียง เป็นเมืองท่องเที่ยวใน แขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ห่างจาก เวียงจันทน์ประมาณ 160 กิโลเมตร สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน ป่าไม้สมบูรณ์ ได้ฉายาว่า เมืองกุ้ยหลินแห่งเมืองลาว ซึ่งสวยงามน่าชมมาก
..... ผมเดินแบกเป้มาจากถนนใหญ่เข้ามาในชุมชนวังเวียง ใกล้แม่น้ำซอง ประมาณ 1 กิโลได้ครับ พร้อมถือแผนที่ โรงแรมทีพักที่ได้จองไว้ผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว

เดินถือแผนที่พร้อมแบกเป้ อันใหญ่มาเรื่อยก็ถึงแล้วครับ ที่พักของผมที่จองไว้ ครับ ดูเหมือนบ้านที่ต่างจังหวัดเลยครับ คล้ายโฮมเตย์นะครับ ดูธรรมชาติดีมากครับ

เริ่มมืดแล้ว พอเดินแบกเป้เข้าไปเตรียม Check in ที่พัก ก็ต้องตะลึงกับความงามของภูเขาหินปูนครับ พอเห็นแล้วหายเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวันเลยครับ

พอ check in เสร็จผมก็นำของไปเก็บไว้ในห้องก่อนครับ พอเข้าไปในห้องก็โชคดีมากๆครับ เพราะห้องที่จองไว้ห้อง เตียงเดี่ยวนอนคนเดียวเต็ม ทางเจ้าของที่พักเลย อัพเกรดให้ ห้องนอนเตียงใหญ่เลยครับ ห้องพักเป็นห้องน้ำรวมครับแต่บรรยากาศนี้สุดยอดครับ ราคาถูกและดีด้วย

เวลา 6 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว บรรยากาศตอนหัวค่ำ ณ ที่พักครับ

บรรยากาศแม่น้ำซองที่เมืองวังเวียงยามพลบค่ำ น้ำใสเย็นสดชื่นมากครับ ดูไม่วุ่นว่ายด้วยครับ ตอนผมไปโชคดีอย่าง เพราะทางของลาวประกาศห้ามมีการเปิดผับบาร์เสียงดัีง รบกวนชาวบ้าน ซึ่งมีผลกระทบมานานก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไมี่มีการเปิดเพลงเสียงดังๆให้ไ้ด้ยินแล้ว ทำให้บรรยากาศดูน่าอยู่มากครับ

บรรยากาศเมืองวังเวียงตอนหัวค่ำ ดูไม่วุ่นวาย มีร้านอาหารมากมายให้เลือกทานครับ แต่ผมขอเดินไปเรื่อยๆ เพราะ อยากทานอาหารของชาวลาวแบบดั้งเดิมจริงมากกว่าครับ

เดินมาเรื่อยๆ ไกลจากที่พักและในเมื่อง พอสมควร ก็มาเจอแ้ล้วครับ เป็นร้านค้าขายข้าวแกงคล้ายๆ คนไทยเราเลยครับ ขายอาหารชา่วลาวจริงๆครับ เลยขอจัดเต็ม เป็นยำผักของชาววังเวียง ทานกับข้าวเหนียวและ หมูแดดเดียวย่าง ดูในรูปไม่น่าทานนะครับ แต่ของจริงอร่อยมากๆ สำหรับค่ำคืนนั้น ก่อนจะเดินทางกลับที่พัก พร้อมอาบน้ำ อ่านหนังสือ แล้วก็พักผ่อนเตรียมเดินทางไปหลวงพระบางต่อวันที่ 21 ต.ค.55 ต่อไป

เช้ารุ่งขึ้น ของวันที่ 21 ต.ค.55 ผมรีบตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาสุดอากาศอันสดชื่่นของวังเวียง อากาศกำลังเย็นสบายมากครับช่วงเช้าที่วังเวียง มองเห็นภูเขาหินปูนและที่พักบังกะโลซึ่งข้ามเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ไปได้ครับ

โรงแรมที่ผมพักอยู่ครับ ถูกปกคลุมไปด้วยพันธ์ไม้เลื้อยคลุมทั้งบ้านเลยครับ ดูแล้วยิ่งสดชื่นครับ ก่อนจะเดินออกจากโรงแรมที่พักไป ชมบรรยากาศริมน้ำ และชาวบ้านวังเวียงครับ

เดินไม่ไกลจากที่พัก มีผักสดขายด้วยครับ คุณยายนั่งขายผักอยู่ครับ แต่ชอบตรงที่บางอย่างเค้าก็ไม่ได้เอาเงินมาซื้อ เพราะ บ้างคนก็นำข้าวสารมาแลกผักแลกปลาแทนครับ

ออกจากที่พักเดินมาอีกไม่ไกล ก็จะเป็นแม่น้ำซองยามเช้า สวยงามมากครับ บรรยากาศดูสดชื่นจริงๆครับ

พอเดินข้ามสะพานไปหน่อยจะเป็นทุ่งนาครับ รู้สึกตรงนั้นเป็นโรงแรมรีสอร์ทน่าจะหรูอยู่ครับ กำลังสร้างอยู่แต่ยังไม่เสร็จนะครับ มีทุ่งนาข้าวเหนียวสีเหลืองทองกำลังชูช่อแตกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวครับ

เดินชมทุ่งนาข้าวเหนียวสีเหลืองทองอร่ามเริ่มสุกงอม เห็นแล้วคิดถึงบ้านที่ชนบทบ้านเราเลยครับ

มีชาวบ้าน 2 คน กำลังเดินทางไปเี่กี่ยวข้าวครับ ดูเป็นวิถีชีวิตที่หาชมได้ตามชนบทจริงๆครับ พร้อมกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติจริงๆ

ต้นข้าวพริ้วลมเย็นๆ ที่วังเวียงลาว

ชาวนาวังเวียงเดินตามคันนากำัลังเดินทางไปทำงาน

บรรยากาศนาข้าวที่วังเวียง ประเทศลาว ทางเดินเป็นไม้บนนาข้าว

หลังจากมัวชื่นชมกับทุ่งนาข้าววังเวียง ผมก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่สะพานถ้ำจัง ไม่ไกลจากเมืองมากนัก เดินไปได้ครับ ตอนข้ามสะพานเห็นชาวบ้านกำลังปั่นจักรยานไปทำงาน ดูน่ารักและเป็นธรรมชาติดี

หลังจากเดินทางมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเก็บบรรยากาศและภาพธรรมชาติของวังเวียง ผมใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ได้เวลาประมาณ 9.30 ก็เดินมาถึงถ้ำจัง เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท เข้าไป แต่เสียดายผมไม่ได้ขึ้นไปถ้ำจัง เพราะต้องรีบเดินทางกลับที่พัก เพื่อไปให้ทันเที่ยวรถไปหลวงพระบางเวลา 11.00 โมง ก็เลยเก็บได้แต่ภาพ สะัพานสีส้มของถ้ำจังมาครับ ..........

สะพานถ้ำจัง ที่วังเวียง

ใครมาที่นี้ก็มาถ่ายรูปบนสะพานนี้ได้ครับ ผมเห็นคนถ่ายตลอดเลยครับ เดินข้ามสะพานไปเพื่อไปชมถ้ำหินงอกหินย้อยด้านใน

เวลา 10 โมงเช้าก็มาถึงที่พักแล้วครับ เพื่อรับประทานอาหารเช้า ซึ่งขยายเวลาอาหารเช้าให้ผม เพราะปกติอาหารเช้าถึงแค่ 10โมงเท่านั้น แต่โชคดีครับเจ้าของที่พักใจดีมาก ยังให้ผมได้ทานอาหารเช้ากับบรรยากาศวิวทิวทัศน์ดีดี

อาหารเช้าเป็นไข่เจียวแบบฝรั่งทานกับขนมปังบักเก็ตหรือที่ลาวเรียกข้าวจี้ครับ อร่อยมากครับ กินเอาแรงก่อนเดินทางอีกทังวันเพื่อไปหลวงพระบางครับ

ทานอาหารเช้าไปชมวิวไป ดูแล้วสดชื่นทานอาหารก็อร่อย ชิวๆสบายทั้งตา ทานอาหารก็อร่อยไปด้วยครับ ที่พักแนว Backpack ราคาถูกแบบนี้หาได้ยากครับ

มองภาพสุดท้ายก่อนลาจากวังเวียงไปต่อที่หลวงพระบางครับ

ทานอาหารเสร็จผมก็รีบไปเก็บของสัมภาระใส่กระเป๋าเป้ ให้เรียบร้อย ก่อนจะัอาบน้ำให้สดชื่นก่อนเดินทางไปที่สถานีขนส่งวังเวียง
...... ห้องอาบน้ำและระเบียงที่นั่งใกล้ห้องพักครับ

เวลาเกือบ 10.45 น.ของวันที่ 21 ต.ค.55 ผมแจ้งที่เจ้าหน้าที่โรงแรมให้เรียกรถแท๊กซี่ให้มารับที่พักให้ครับ เพราะเกรงจะไม่ทันรถเวลา 11.00 โมง ก็เลยได้นั่งรถมาลงที่ขนส่งวังเวีัยงให้ทันเวลาเพื่อมาซื้อตั๋วเดินทางไปหลวงพระบางต่่อครับ

..........ภาพกำัลังเดินทางไปขนส่งวังเวียง ลาก่อนวังเวียง มีโอกาสค่อยมาพบกันใหม่ ชอบบรรยากาศที่นี้มาก เงียบสงบ มีวิถีชีวิตที่เป็นธรรมชาติ และอาหารอร่อยมาก

ได้เวลาเตรียมตัวเดินทางไปต่อแล้วครับกับเมืองมรดกโลก หลวงพระบาง สถานที่สุดท้ายของการลุยเดี่ยวครั้งนี้ คลิ๊กที่ลิงค์รีวิว http://webboard.travel.sanook.com/forum/?topic=3663372.new#

ขอบพระคุณเพื่อนทุกคนที่เข้ามาชมรีวิวครั้งนี้ หากเพื่อนๆท่านใด มีประสบการณ์เดินทางดีๆ หรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาแบ่งปันกันได้ทาง facebook ของผมได้ที่ https://www.facebook.com/khundenbackpacker

เราชอบเที่ยวแบบนี้นะ สนุกดี q*062 q*062

q*062 เราเพิ่งไปเที่ยวแบบนี้มา ตแนแรกจะไปวังเวียงแต่ไม่มีพาสปอร์ตไปเสียดายมากๆ ได้ไปแค่เวียงจันทร์ แต่ก็คุ้มนะ บรรยากาศดีมาก

น่าไป ละทางโลก บ้างจัง q*078 q*078 q*078
แต่คงยังไม่ถึง ทางธรรม q*031 q*031 q*031

น่าไปเที่ยวนะคะ

q*062 เราก็ไปเที่ยวมาแต่ไปเมื่อปีใหม่54ไปเริ่มจากหลวงพระบางก่อนและมานอนพักที่วังเวียง1คืน อากาศดีจิงๆสวยมากๆ ลุยๆเหมือนกับนายเลยสะพายเป้กันไป2คนกับแฟน

เห็นรีวิวแล้วทำให้อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย ธรรมชาติสวยงาม บรรยากาศดี เคยไปเที่ยวเวียงจันทน์ เมืองปากเซ แขวงจำปาสักมาแล้ว แต่ยังไม่เคยไปเที่ยววังเวียง และหลวงพระบาง อยากไปมากๆๆๆ

เพิ่งกลับมาจากวังเวียงเมื่อวันที่ 1 มค. ที่ผ่านมา สวยมากจริงๆ อากาศก็ดี q*062 q*062

q*073 อยากไปเที่ยวบ้างจัง เขาพูดภาษาไทยได้มั่งป่าวอะค่ะ แล้วติดจังหวัดอะไรของประเทศไทยค่ะ

สวัสดีครับเริ่มจากกทมฺยังงัยดีครับ

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน