|
รู้ไหมครับว่าซอสยี่ห้อศรีราชา ที่ขายในไทย ถูกเวียดนามเอาชื่อไปทำขายในอเมริกา ขายดิบขายดีด้วยนะ น่าเสียดายโอกาส
|
|
|
|
|
|
|
|
นาเอ
|
เขามีมานานแล้ว รู้สึกว่าจะเอาไปดัดแปลงผสมสูตรเอง เพราะแถวแคลิฟอเนียมีชาวเวียดนามอพยพไปอยู่เยอะ ตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ส่วนซอสนี้ก็ทำขึ้นเพื่อใช้กับร้านอาหารเวียดนาม แต่ตอนหลังฝรั่งเกิดถูกใจรสชาติซอสมาก เลยขยายการขายเป็นวงกว้างไปลงตามซุปเปอร์ฝรั่งมากขึ้น
พอดีเคยไปอยู่มาก่อน และมีเพื่อนเป็นคนเวียดนาม
|
|
|
|
|
|
ติ๊ดตี่
|
มีมานานแล้วค่ะ เคยอ่านเจอว่าของไทยที่จดลิขสิทธิ์ไม่ได้เพราะชื่อเหมือน อ.ศรีราชา (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) เวียดนามเอาไปดัดแปลงแล้วจดเลยซะนี่ ที่น่าตกใจคืออีกหน่อยอาหารไทยก็จะถูกจดเป็นของฝรั่งหมดแล้ว ยิ่งจ้องๆกันอยู่ 
|
|
|
|
|
|
buffy
|
ของไทย คือ ซอส ศรีราชาพาณิช ชื่อเก่าขายให้ลิขสิทให้ชาวญี่ปุ่นหรือไร ไม่แน่ใจ ลองศึกษาดู คนไทยไม่เคยสนใจกันเอง แชมเปญ ถ้าไม่ได้มาจากเมืองนั้นก็ห้ามเรียก จิงๆน่าจะฟ้องได้
|
|
|
|
|
|
subway
|
เมื่อซัก 40 กว่าปีก่อน เป็นของไทยจริงๆ ขวดเท่าเหล้าแม่โขง ปะฉลากง่ายๆ และทำจากอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตอนออกมาขายใหม่ๆแม่ซื้อมาจิ้มอาหารทะเล ตอจากนั้นก็เห็นเค้าทำเป็นน้ำจิ้มหอยทอด แล้วกลายเป็นน้ำจิ้มของไข่เจียว แต่เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ได้ไปอยู่อเมริกา ไปเจอเป็นของเวียตนามไปแล้วจริงๆ ทำที่แคลิฟอเนีย ตอนนี้ติดอันดับที่ฝรั่งชอบและใส่ในอาหาร ใครมีอะไรเข้ามา share บ้างก็ดีค่ะ เพราะอยากรู้เรื่องจริงจากเจ้าของผลิตภัณฑ์จริงๆว่า ไปไง มาไง จึงเป็นของเวียตนามไปได้
|
|
|
|
|
|
งง
|
จะโกอินเตอร์ เรื่องแบบนี้ต้องระวัง ญี่ปุ่นเคยจะเอาผัดไท มวยไทย นวดแผนไทย ไปลิขสิทธิ์ รัฐบาลต้องดูแลเรื่องแบบนี้ให้ดีๆ
|
|
|
|
|
|
onemam
|
เจ้าของเป็นชาวเวียดนามไม่ใช่เหรอ
|
|
|
|
|
|
แตงโม อังกฤษ
|
เอ่อ ที่อังกฤษก็มีค่ะ มีขายทั่วโลกค่ะ ไม่ใช่เฉพาะที่อเมริกาอย่างเดียว
|
|
|
|
|
|
LvMom
|
ที่ออสก้อมี. อิอิ 
|
|
|
|
|
|
tiptip
|
มีขายในเทสโก้ (ประเทศอังกฤษ) ด้วยค่ะ แต่ดูสถานที่ผลิต ก็ผลิตในไทยนะคะ บริษัท Sea World Coldstorage Co., Ltd. Chonburi, Thailand แต่ บาร์โคด ไม่ได้ เป็น 885..... นะคะ
|
|
|
|
|
|
pls
|
ใช่ๆ ค่ะ มีขายทั่วโลกเลยนะคะที่มีคนเอเชียอาศัยอยู่ เห็นยี่ห้อนี้ก็เคยซื้อมาทำน้ำจิ้มสุกี้ทานแต่รู้สึกว่ามันเปรี้ยวมากๆ ค่ะ แต่เป็นยี่ห้อของไทยเราที่เคยรู้จักกันมาเนิ่นนาน แต่ทำไมรสชาติถึงได้เปลี่ยนไปจะออกไปทางเปรี้ยวมากๆ ทีเดียวค่ะ เราจะต้องเรียกคืนชื่อยี่ห้อและลิขสิทธิ์กลับมาดีกว่าไหมคะ เสียชื่อเสียงหมดเลยที่ฝ่ายเกี่ยวข้องไมเคยตรวจสอบและติดตามเลยว่าใครนำไปก๊อปปี้บ้าง อยากจะให้คงชื่อยี่ห้อของประเทศไทยของเราเอาไว้นะคะ ที่แคลิฟอร์เนีย เขาผลิตอาหารของไทยเราออกมาเยอะมากๆ ค่ะ อย่างลูกชิ้นเอ็นเนื้อ เนื้อ หมู ปลา เป็นต้น เขาผลิตที่นั่นทั้งนั้นค่ะ ไม่ได้นำเข้ามาจากเมืองไทยเลย แต่เขาใช้ชื่อภาษาไทยของเรานะคะก๊อปลงถุงใส่กับถุงพลาสติกที่ใส่ลูกชิ้นต่าๆ นั้นนะค่ะ ยังไงก็ขอเรียกร้องให้คนที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามตรวจสอบดูด้วยนะคะ มีสินค้าหลายชนิดมากๆ ค่ะที่เขาแอบอ้างชื่อประเทศไทยไปหากินค่ะ
|
|
|
|
|
|
tanja
|
ที่เดนมารคก็มีขายแต่อ่านแล้วผลิตทีชลบุรีน่ะค่ะ
|
|
|
|
|
|
Dolce
|
ที่อิตาลีก็มีขายค่ะ นึกว่าเป็นของไทยซะอีก เพราะเขียนภาษาไทย :(
|
|
|
|
|
|
|
คุณคนตั้งกระทู้นี่มันไม่ได้ ศึกษารายละเอียดอะไรเลยก่อนจะpost หรือไงกัน เรื่อง ชื่อซอสนี่มันเป็นเรื่องนาน มาแล้ว เท่าที่ทราบ กระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถ จดสิทธิบัตร ชื่อ ศรีราชา ได้ เพราะมันเป็น ชื่ออำเภอ เป็นชื่อเฉพาะ
แต่การจดในusa สามารถทำได้ จึงเกิดเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา และเหมือนกับ ชื่ออื่นๆ ที่คนไทยไม่สน ใจ อย่าง ข้าวหอมมะลิ ,รถตุ๊กตุก ,และมวยไทย ต่างก็โดน ต่างชาติ จดสิทธิบัตรชื่อไปหมดแล้ว
กฏหมายสิทธิบัตร มันยังเป็นอะไรที่ไม่ชัดเจนในเรื่องรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริง แต่ผลของกฏหมาย แรงจริงๆ
ทุกวันนี้ คุณคิดอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง ถึงแม้มันจะไม่ work หรือ ดู บ้าๆ บอๆ และไม่น่าจะใช้งาน ได้ คุณก็สามารถ จดสิทธิบัตรได้ ไทยเราไล่จับ คนขโมยสิทธิ หรือสินค้าหลอกเลียนแบบ แต่ไทยเราไม่จัดการกำหนดความยืดหยุ่นในการจดสิทธิเลย แม้แต่น้อย
|
|
|
|
|
|
555555555
|
ผมอยู่เมกามา 20 ครับ ซอสนี้มีมานานแล้ว อร่อยกว่าศรีราชาด้วย
|
|
|
|
|
|
qwe
|
บอกได้เลย พวกข้าราชการไทยที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น อาหารและยา หรือ การจดสิทธิบัตร พวกนี้หาแต่กฏระเบียบที่จะทำอะไรซักอย่างยากเย็นแสนเข็น ไม่รู้มันทำกันเพื่ออะไร ทำเอาชาวบ้านเดือดร้อน เรื่องแรก ตัวอย่างซอสศรีราชา ถามเหตุผลหน่อยว่าชื่อผลิตภัณฑ์เหมือนสถานที่แล้วไง ในอเมริกา ในยุโรป อาหารหรือน้ำหอมหรือไวน์ดังหลายแบรนด์ใช้ชื่อสถานที่ เรื่องที่สอง ตะไคร้หอมใครรู้บ้างว่า อย. จัดให้อยู่ในหมวดวัตถุอันตราย จะทำอุตสาหกรรมอะไรที่มีส่วนผสมตะไคร้หอมบอกเลยว่าโคตรยาก นี่แหล่ะราชการไทย ***ไม่เคยเดือดร้อน เช้าชาม เย็นชามไปวันๆ
|
|
|
|
|
|
ตัวเองเอาหมด
|
ซอส ไม่เห็นน่าตกใจ ก็เห็นทำกันหลายยี่ห้อ น้ำปลา กะปิ หรือไทย ทำได้ประเทศเดียว ก๋วยเตี๋ยว/แหนมเนือง พิชช่า โดนัส กาแฟ ไทยยังทำกันว่อน โลกเป็นใบเดียวกัน ใครอยากทำก็ทำได้ ในเชิงพานิช เรื่องอาหาร รสชาติ ส่วนผสม // ต้องแบบเดียวกัน 100 เปอเซน ทำได้หรอ
|
|
|
|
|
|
6666
|
Det finns ocks i Sverige 
|
|
|
|
|
|
|
กฎหมายลิขสิทธ์ในไทยทำอะไรไม่ได้หรอกครับ กฎหมายลิขสิทธ์ของไทยมีไว้เพื่อข่มขู่และรีดไถพ่อค้ารายย่อยกับประชาชนเท่านั้นไม่ส่มารถจัดการกับผู้ค้ารายใหญ่ได้หรอกครับ
|
|
|
|
|
|
ยืนยง
|
ตามตำนาน ไทยเราเอาของเวียดนามมาแปลงก่อน แล้วเวียดนามในอเมริกาเอาไปโกอินเตอร์
ซอสพริกศรีราชา
ช่วงนี้ย้ายสำมะโนมาอยู่ศรีราชาแล้วสังสรรค์กับญาติผู้ใหญ่บ่อย เลยได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบรรพบุรุษที่เขาเล่าต่อ ๆ กันมาให้ฟัง
เอาเรื่องซอสพริกศรีราชากันก่อนดีกว่า
แต่เริ่มเดิมทีเขาเรียกว่า น้ำพริกศรีราชา เป็นน้ำจิ้มอาหารต่าง ๆ รวมทั้งเอาไว้ใส่ในก๋วยเตี๋ยวผัด อย่างราดหน้า ผัดซีอิ๊ว
คนแรกที่ได้คิดทำน้ำพริกนี้ขึ้นมาชื่อ กิมซัว ทิมกระจ่าง เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่ตั้งรกรากอยู่ในศรีราชา ญาติเราที่ศักดิ์เป็นป้าเรียกว่า ก๋งกิมซัว แต่ตามลำดับแล้ว เขาเป็นเหล่าก๋งของป้า เพราะเป็น ก๋งของย่าเรา นายกิมซัวมีอาชีพค้าขาย ออกเดินเรือค้าขายอยู่ในภาคตะวันออก ตอนหนุ่ม ๆ เคยเดินทางไปค้าขายยังเขมร และได้เข้าไปทำการค้าในวังของเจ้าเขมรด้วย เห็นว่าเคยได้หม่อมในวังเจ้าเขมรองค์หนึ่งด้วย (ท่ีบ้านเขานินทาบรรพบุรุษกันอย่างนี้เลย)
สมัยนั้นทั้งเขมรและเวียดนามตกภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ในกัมพูชาจึงมีคนเวียดนามที่คนฝรั่งเศสอพยพมาอยู่เยอะ นายกิมซัวไปเห็นคนญวนเอาพริกหมักน้ำส้มสายชูมาบดละเอียดแล้วกลายเป็นน้ำพริกที่เนื้อเนียนเข้ากันดี เห็นแล้วติดใจเลยไปดูคนเวียดนามเขาทำน้ำพริกชนิดนี้ ตอนกลับมาศรีราชาก็นำกรรมวิธีการทำน้ำพริกมาดัดแปลงให้ถูกปากคนในครอบครัวที่เมืองไทย กลายเป็นอาหารประจำบ้านไป
นอกจากนี้ยังได้ดัดแปลงอาหารญวนที่น้ำเอาแผ่นแป้งก๋วยเตี๋ยวมาห่อผักชนิดต่าง ๆ แล้วมีน้ำจิ้มเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ราด กลายมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวบก อาหารประจำครอบครัว ที่ต่อมามีคนเอามาดัดแปลงแก้ไข ไปในรูปแบบต่าง ๆ แต่เนื่องจากศรีราชาเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ คนไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ คนส่วนใหญ่ก็จะติดใจกับน้ำพริกสูตรนายกิมซัว ทำให้มีคนมาขอไว้เพื่อเอาไปกินที่บ้าน หลังจากนั้นต่อมา ลูก ๆ หลาน ๆ ก็เห็นว่าน่าจะทำเป็นธุรกิจได้ จึงตั้งหลักทำน้ำพริกกันในเขตบริเวณบ้าน เริ่มมีการหมักน้ำพริกปริมาณมาก ๆ ในโอ่ง จากอาหารประจำบ้าน จึงกลายเป็นธุรกิจในครัวเรือน
ต่อมาก็เห็นลู่ทางการค้าขึ้นในบรรดาลูกหลาน ก็จะแบ่งเป็นสองสาย สายหนึ่งทำขายในชื่อว่า น้ำพริกศรีราชา ตราภูเขาทอง เพื่อเป็นเกียรติกับบรรพบุรุษคือ ก๋งกิมซัว (กิมซัว ภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่า ภูเขาสีทอง) และใช้ฉลากเป็นรูปภูเขาทองวัดสระเกศ ในสมัยก่อนยังไม่มีกฎหมายจดทะเบียนการค้า ทำให้เอาโบราณสถานมาเป็นตราการค้าได้ ส่วนอีกสายหนึ่ง มีญาติเราชื่อ ย่าถนอม ทิมกระจ่าง (ต้องไปสืบก่อนว่าญาติฝ่ายไหน) เอาไปทำเป็นการค้าภายใต้ชื่อ ศรีราชาพานิช
ขวดแบบใหม่ เดี๋ยวนี้หาซื้อขวดแบบเก่าที่เป็นทรงเหล้ากลมไม่ได้แล้ว
สำหรับซอสศรีราชาตราภูเขาทองนั้น ในยุคแรกที่วางขายนั้น จะบรรจุอยู่ในขวดขนาดเท่าเหล้าขวดกลม มีความเผ็ดสามระดับ และมีภาษาจีนกำกับ ต่อมา ก็ได้เริ่มเอาไปวางขายที่อเมริกา เริ่มแรกที่ซาน ฟรานซิสโกก่อน จนติดตลาดในร้านของชำและซุเปอร์มาร์เก็ตเอเชียในแคลิฟอร์เนีย จนกระทั่งมีบริษัทผลิตเครื่องปรุงเอเชียของอเมริกาได้พยายามผลิตซ้อสศรีราชาเพื่อแข่งกับสินค้านำเข้า จนปัจจุบันซ้อสยี่ห้อนั้นติดตลาด ในชื่อของ Sriracha Hot Sauce ที่มีตราไก่เป็นสัญลักษณ์
ส่วนซอสศรีราชาพานิช ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทไทยเทพรส ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เดิมคือซีอิ๊วกับซอสปรุงรสยี่ห้อภูเขาทองอยู่แล้ว แต่ชื่อก็ยังเรียกว่าศรีราชาพานิชอยู่ แต่ตราภูเขาทองของบริษัทนี้เป็นรูปภูเขาสีทอง ไม่ใช่ภูเขาทองวัดสระเกศ
ตอนนี้ซอสศรีราชาก็มีหลากหลายยี่ห้อมากขึ้น รสชาติเพี้ยนบ้าง ปะปนกันไป แต่สำหรับคนที่อยากรู้ว่ารสชาติดั้งเดิมเป็นยังไงให้ลองหาตราภูเขาทองมากิน แต่หาค่อนข้างยากหน่อย ส่วนศรีราชาพานิชที่ขายไปนั้น ญาติที่เขาทำตราภูเขาทองบอกว่ารสชาติเพี้ยนแล้ว ส่วนยี่ห้ออื่น เราไม่เคยกิน มีความพยายามที่จะทำซอสศรีราชาเป็นสินค้าโอท็อป แต่ก็ไม่รอด เพราะคนทำไม่รู้สูตร และซอสศรีราชาไม่เคยทำเป็นโรงงานในตัวอำเภอศรีราชาเลย ตัวโรงงานที่ทำเคยมีอยู่แถววงเวียนใหญ่ (เมื่อก่อนเราไปวิ่งเล่นบ่อย ๆ) แล้วก็ย้ายไปราชบุรี (เพราะผลิตโอ่งไว้หมักพริก – อันนี้เราคิดเอง)
สุดท้าย แล้วเรามาเกี่ยวกับน้ำพริกศรีราชาได้ยังไงเหรอ นายกิมซัวมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ นางเพิ่ม นายกิมซัวนั้นให้ไปแต่งงานกับขุนจักกะพากพานิชกิจ (ต้นตระกูลจักกะพาก) ซึ่งเป็นพ่อหม้าย เนื่องจากน้องสาวนายกิมซัวซึ่งเป็นภรรยาเสียชีวิต หลังจากนั้นนางเพิ่มก็มีบุตรสามคน คนสุดท้องคือย่าเรา ย่าราตรีเป็นลูกนอกพินัยกรรม คือพี่ ๆ ได้ส่วนแบ่งไปหมดแล้ว ย่าราตรีเลยได้ทรัพย์สินที่เพิ่งหาได้หลังจากแบ่งพินัยกรรม (ซึ่งออกมาเยอะกว่าเพื่อน)
สังเกตว่าตราภูเขาทองเป็นรูปภูเขาทองวัดสระเกศ ภาษาอังกฤษเรียก Grand Mountain ส่วนเรื่องทำน้ำพริกเป็นกิจกรรมในครัวเรือนของทางตระกูลทิมกระจ่าง แต่ย่าค่อนข้างสนิทกับแม่ (ทวดเพิ่ม) และก็ญาติฝ่ายแม่ เราก็เลยคุ้นเคยกับญาติฝั่งนู้นไปด้วย ปัจจุบันที่บ้านเราจะเรียกกันว่าน้ำพริกศรีราชา และจะบอกให้คนอื่นเรียกว่าน้ำพริกตามชื่อเดิม เราก็อนุรักษ์นิยมโดยการเรียกน้ำพริกไปด้วยเลย แต่หัวเรื่องเราเขียนว่าซอสพริกศรีราชา ซึ่งคนจะรู้จักในชื่อนี้มากกว่า จะได้ไม่งง
มันจะมีอีกหลายยี่ห้อ ซอสยี่ห้อโกศล ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ เราไม่ได้ถามญาติเลยว่าเป็นญาติกันหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเห็นพูดแค่สองยี่ห้อนี้เองอะ
http://paworn.wordpress.com/2012/01/23/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2/
|
|
|
|
|
|
|