ต่อครับ
ในตอนนั้น เมื่อเดินทางมาได้สักระยะ มิเตอร์บนรถขึ้นมาถึงประมาณ 115 บาท แล้ว ลุงเอามือมาปิดมิเตอร์เอาไว้ แล้วบอกผมว่า…….
“มิเตอร์มันจะขึ้นไปเท่าไหร่ก็ช่างมันนะครับ…. ผมคิดแค่ 100 ก็พอ”
OMG!!! อีกรอบ… ปกติ ผมใช้บริการ Taxi ผมเคยแต่ให้เงินเพิ่มเพราะอยากให้… นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นฝ่ายได้รับ ลุงลดให้ผมตั้งแต่ผมยังไม่ได้เอ่ยปากทำอะไรให้ลุงเลยด้วยซ้ำ
ลุงเล่าต่อว่าทำแบบนี้เป็นปกติ เมื่อตอนช่วงน้ำท่วม ลุงก็วิ่งรถช่วยเหลือคนด้วย บางคนมิเตอร์ขึ้น 100 ลุงก็คิดแค่ 50 ก็พอแล้ว ช่วยๆ กัน เวลาที่มีลูกค้าเหมาไปต่างจังหวัด (ตอนแรกผมคิดว่าลุงได้รายได้เยอะๆ เพราะว่ารับฝรั่งไปต่างจังหวัด และได้รับเงินจากฝรั่งเยอะ เพราะฝรั่งชอบ แต่เปล่าเลย ผมคิดผิด)
หากค่าเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นเหมาอยู่ที่ 1,500 บาท ลุงจะคิดราคาที่ถูกกว่านั้น ผมถามว่าทำไมล่ะครับ ในเมื่อก็เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ ไม่ได้ผิดอะไรนี่
ลุงบอกว่า ก็ถือว่าช่วยๆ กัน ลุงคำนวนเส้นทางมาก่อนแล้ว เส้นทางไหนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ลุงได้จดตารางคำนวณเส้นทาง ระยะทาง ความห่างของจุดเติมก๊าซ ปั้มน้ำมัน ฯลฯ เรียบร้อยแล้ว ทำให้ลุงสามารถคำนวณได้ว่า หากต้องเดินทางไป จังหวัดไหน อำเภอไหน จะมีค่าใช้จ่ายจริงๆ เท่าไหร่!!! แถมถ้าตีรถแบบ ไป – กลับ ลุงยังลดราคาให้อีก WOW WOW WOW
การที่ลุงทำการบ้านมาอย่างดี ทำให้ลุงสามารถพูดกับลูกค้าแบบตรงไป ตรงมาได้ และมั่นใจ ผมเชื่ออย่างยิ่งครับว่า นี่เป็น 1 ในสาเหตุสำคัญที่ช่วยมัดใจลูกค้าของลุงเอาไว้ได้
ลุงบอกว่า “บางคนเวลาลูกค้า จะเหมารถไปไกลๆ ก็มักจะคิดก่อนเลยว่า จะขาดทุน วิ่งไปแล้วถ้าไม่มีคนนั่งเที่ยวกลับก็ไม่คุ้ม ถ้าอย่างนั้นไม่รับดีกว่า แต่ลุงไม่ ลุงไป และไปในราคาที่ถูกกว่าด้วย เพราะคำนวณดูแล้ว เราอยู่ได้ อยู่อย่างพอเพียง เราก็สบายแล้ว เราไม่ได้ทำเพื่อให้เราได้มากๆ เราทำเพื่อให้เราอยู่ได้ และคนอื่นก็อยู่ได้”
ลุงแทบจะเฉือดผมให้ตายด้วยบทเรียนที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
ผมถึงที่หมายพร้อมมิเตอร์ที่ขึ้นมาที่ 151 บาท และแน่นอนครับ ตามที่ลุงได้บอกผมเอาไว้ ลุงคิดเงินผมแค่ 100 บาทจริงๆ! ผมจะให้เพิ่มลุงก็ไม่เอา!!! และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทิปจาก Taxi 50 บาท
คำคมอื่นๆ ของลุงที่ผมได้ฟัง….
“อยู่อย่างพอเพียง มีความสุข และรักงานที่ทำ”
“ทำงานมันก็มีได้มากบ้าง ได้น้อยบ้าง คุยกันให้เข้าใจตั้งแต่แรก จะได้ไม่มีปัญหา”
“เราทำอะไร อย่าทำเพื่อมุ่งจะเอาผลกำไรมากๆอย่างเดียว แต่ให้ทำเพื่อให้เราอยู่ได้ คนอื่นก็อยู่ได้”
“ถ้าแค่รอยยิ้ม ยังให้กันไม่ได้ คุณจะให้อะไรคนอื่นได้ และเมื่อคุณไม่รู้จักให้ใคร แล้วใครที่ไหนจะมาให้คุณ”
“อย่าอวดเก่ง เพราะยิ่งทำเป็นเก่ง ยิ่งหมดโอกาสเรียนรู้”
“พ่อแม่พี่น้อง คนรักกัน ยังทะเลาะกัน นับประสาอะไรกับคนทั้งประเทศ”
สรุปบทเรียนสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย
คนส่วนใหญ่ครับ มัวแต่เอาอาชีพของตัวเอง มาเป็นข้อจำกัดเรื่องรายได้ และความสุขของตัวเอง ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว ไม่ว่างานอะไรก็ตามมันก็มีคุณค่า และสามารถช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้ทั้งนั้น และจุดเริ่มต้นทั้งหมดมันเริ่มมาจากตัวของเราเอง
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับการลงมือทำสิ่งต่างๆ รู้จักจัดการ การบริหารชีวิต และมีวินัยในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร คุณก็จะสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้แน่นอน
หากคุณต้องการมีรายได้มากขึ้น การทำการบ้านมาก่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะยิ่งคุณทำการบ้านมาก่อนมากเท่าไหร่ คุณยิ่งมีความมั่นใจ และมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และนั่นนำมาซึ่งช่องทาง โอกาส และรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย
แต่เพียงแค่การหารายได้มากพอ ยังไม่ช่วยให้คุณมีความสุข และร่ำรวยได้ครับ คุณยังต้องมีการบริหารจัดการเงินที่ดีด้วย และวิธีการที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นคนมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็วที่สุดก็คือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง
คนที่รู้จักพอเพียง แม้เขาจะได้รับรายได้ที่คนส่วนใหญ่มองว่ามันน้อยเหลือเกิน ทำงานที่อาจดูไม่น่าทำสักเท่าไหร่เลย แต่สำหรับตัวของเขาเอง เขาก็ร่ำรวย และมีมากพอที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้จากใจแล้ว
ทิ้งท้าย….
ยังมีอีกมายมายครับที่ผมได้รับจากการนั่ง Taxi คันนี้ กับคนขับที่ชื่อว่า ลุงสมหมาย
ผมเก็บภาพ ทะเบียนรถลุงมาฝากด้วยนะครับ หากใครมีเพื่อนที่กำลังจะเดินทางมาจากต่างประเทศ และต้องการคนไปรับ-ไปส่งดีๆ สักคน ผมเชื่อว่าคุณไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เบอร์โทรของลุงสมหมาย มี 2 เบอร์ครับ 087-0522525 และ 087-5920230
บทความนี้ ขอเป็นพลังใจให้คนที่ตั้งใจทำดี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ อาชีพว่า….. “ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร คุณก็มีรายได้ที่ดี และมีความสุขไปพร้อมกันได้แน่นอนครับ”