ในที่สุด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็มีการเปิดตัว iPhone 6 ในงานแถลงข่าวที่มีผู้เข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก Tim Cook เปิดตัว iPhone 6 เป็นครั้งแรก กล่าวว่า iPhone 6 มีหน้าจอที่ใหญ่กว่า มีระบบกระเป๋าเงินดิจิตอล กล้องที่ดีกว่า และอื่น ๆ สำหรับ Apple Watch จะมีการเปิดตัวในปีหน้าแน่นอน และ iPhone 6 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนนี้
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
iPhone 6 มีขนาดกว้าง 4.7 นิ้ว ตามเส้นทแยงมุม และหนา 6.9 มม ขณะที่ iPhone 6 Plus กว้าง 5.5 นิ้ว หนา 7.1 ม.ม. มีพิกเซลที่ดีเพียงพอที่จะทำให้สามารถแสดงผลได้ละเอียดถึง 720p HD และ iPhone 6 Plus แสดงภาพได้ถึง 1080p ในระบบHD ซึ่งมากกว่าจอแสดงผลสำหรับเกมรุ่นใหม่ ทั้ง 2 รุ่นมีดีไซน์ที่ขอบโค้งให้สัมผัสเรียบที่ไม่สะดุด
Apple Pay ระบบการชำระเงินแบบพกพาสำหรับ iPhone ที่จะมาแทนที่กระเป๋าสตางค์
เป็นครั้งแรกที่ Apple เริ่มระบบการชำระเงินสำหรับการเล่นเกม iPhone 6 ติดตั้งระบบการชำระเงิน Apple Pay และ NFC ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่คุณสามารถนำโทรศัพท์แนบกับเซนเซอร์เพื่อการชำระค่าสินค้าและบริการ ซึ่งบัตรเครดิตที่สามารถใช้ระบบนี้ได้แก่ Visa,Mastercard, และ American Express ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่ในเครื่อง นอกจากนี้ Disney,Chipotle และ Seamless ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมระบบนี้แล้วและอีกหลายบริษัทที่สนใจในระบบนี้
ด้านระบบความปลอดภัยของข้อมูล ข้อมูลของบัตรเครดิตจะมีการเข้ารหัส และการชำระเงินในแต่ละครั้งจะมีรหัสที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากคุณทำโทรศัพท์หาย คุณสามารถยกเลิกการชำระเงินโดยที่ติดต่อไปยังผู้ออกบัตรให้ด้วยตัวเอง Apple เน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกหรือตัว Apple เองก็ไม่สามารถรู้ว่าคุณซื้ออะไร ที่ไหน หรือ เป็นจำนวนเงินเท่าไร
ระบบ Apple Pay จะเริ่มใช้งานได้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมนี้
•ระบบกล้องของ iPhone จะเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดในระบบกล้องของโทรศัพท์
Apple กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ระบบ iSight ใน iPhone 6 มี 8 เมกะพิเซลและ ด้วย เซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็ก 1.5 และรูรับแสงที่ ƒ/2.2 ทำให้ภาพที่ได้ดีกว่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่เรียกว่า Focus Pixels ที่จะช่วยให้กล้องของ iPhone โฟกัสได้เร็วกว่าและดีกว่า นั่นหมายถึง วีดีโอและภาพยนตร์ แบบ slow motion ที่คมชัดมากขึ้น คุณสามารถถ่ายภาพตัวเองด้วยระบบ "burst selfies" จะทำให้ได้ภาพมากถึง 10 ภาพต่อวินาที
แบตเตอรี่ของ iPhone มีอายุการใช้งานยาวนานขุึ้น
แบตเตอรี่ของ iPhone 6 สามารถอยู่ได้นานกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone 5 นั่น คือ มากกว่า 10 ชั่วโมงสำหรับการดูหนังฟังเพลง มากกว่า 4 ชั่วโมงในการสนทนาแบบ 3 G หรือแสตนบายรอรับสายได้10 วัน
สำหรับ iPhone 6 Plus มีระยะเวลาของแบตเตอรี่ที่ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ ของ iPhone นั่นคือ ดูหนังฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 80 ชั่วโมง และสนทนาแบบ 3 G ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง แสตนบายรอรับสายได้ถึง 16 วัน
มีระบบ บารอมิเตอร์ เพื่อวัดความกดอากาศ
iPhone 6 มีเซนเซอร์วัดความกดอากาศเพื่อแจ้งความสูงของสถานที่ที่คนอยู่ ซึ่งจะช่วยบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย เช่นการวิ่งขึ้นเขาเป็นระยะทาง 1 ไมล์จะปรับเป็นระยะทางที่มากกว่า 1 ไมล์บนพื้นราบ ข้อมูลด้านการออกกำลังจะถูกเก็บ นำมาใช้งานได้ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ใน แอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Health app จะเป็นศูนย์กลางการเก็บข้อมูลที่ส่งต่อไปยังส่วนของบุคคลที่สามที่จะตรวจสอบการเคลื่อนไหว
Wi-Fi iPhone 6 รวดเร็วกว่า
ด้วยประสิทธิภาพของระบบ 802.11ac Wi-Fi ( ระบบมาตรฐานของWi-Fi) ทำให้การโหลดข้อมูลเร็วกว่า 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 5s นอกจากนี้ iPhone ยังสามารถใช้กับระบบ LTE ที่มีคลื่นความถี่สูงกว่า ทำให้การโรมมิ่งข้อมูลมีประสิทธิภาพดีขึ้น
มีการปรับปรุงมุมมองแบบแนวนอนให้ดียิ่งขึ้น
มีการปรับปรุงมุมมองแบบแนวนอน ใน iPhone เพื่อให้ใช้งานได้กับ Mail ,Weather หรือแม้กระทั่ง Home screen หน้าต่างที่สองจะปรากฏแบบ landscape เฉพาะ บาง app เท่านั้น อาทิ Mail คีย์บอร์ดบนหน้าต่างในแนวนอนได้ปรับให้มีการใช้งานที่พิมพ์ง่ายขึ้น ตัวอักษรเพิ่มเติมวางไว้ด้านข้างของคีย์บอร์ดแบบปกติ ดังนั้น ผู้ใช้ไม่ต้องกด tap เพื่อใช้งานตัวอักษรเหล่านี้
•ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายมากขึ้น สะดวกแม้จะใช้ iPhone 6 ด้วยมือข้างเดียว
การกดปุ่ม Home 2 ครั้งจะทำให้ข้อความทางด้านบนของจอเลื่อนลงมาด้านล่าง ดังนั้นหากคุณมีช่วงนิ้วที่สั้นหรือคนที่มีมือเล็ก ๆ สามารถใช้ iPhone ได้ด้วยมือข้างเดียว การกดปุ่ม Home 2 ครั้งก็สามารถกลับเข้าสู่การใช้งานปกติ
ราคา
ราคาของ iPhone 6 รุ่น 16 GB,64GB และ 128 GB คือ $199, $299 และ $399 ตามลำดับ สำหรับ iPhone 6 Plus รุ่น 16 GB,64GB และ 128 GB คือ $299, $399 และ $499 ตามลำดับ อยู่ในเงื่อนไขสัญญา 2 ปี ทั้งสองรุ่น มีสีให้เลือกคือ สีทอง สีเงิน และสีเทาเงิน เป็นราคาสำหรับในต่างประเทศ ส่วนในไทย นั้นจะตรวจสอบราคากันอีกครั้งเมื่อ มีประกาศวางจำหน่าย
เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายน เปิด จอง วันที่ 12 กันยายน นี้
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมันนี ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงค์โปร์และญี่ปุ่น ในวันที่ 19 กันยายนนี้ การรับจองจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน หากคุณรอไม่ไหว สามารถดาวน์โหลด iOS 8 ระบบปฏิบัติการใหม่ของ iPhone 6 มาใช้ได้ฟรีในวันที่ 17 กันยายนนี้ และในส่วน iOS 8 ระบบปฏิบัติการใหม่ของ iPhone 6 สามารถดาวน์โหลด มาใช้ได้ฟรีในวันที่ 17 กันยายนนี้ ลองมาใช้กันไปพลางๆ ระหว่างรอขายที่เมืองไทย ได้เลย
