มิตรภาพและความเข้าใจ ช่วยสร้างสันติภาพ มิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างผู้คนที่ต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม ช่วยให้เราอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ได้อย่างสงบสุขและยั่งยืน อย่างที่ โรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี (Phuket International Academy) มุ่งมั่นให้เป็นชุมชนการเรียนรู้ ด้วยพื้นฐานจากความเอื้ออาทรต่อกัน โดย มร.จูเลียน ไวท์ลีย์ กรรมการผู้บริหารโรงเรียนฯ เสริมมุมมองการสร้างเยาวชนคนดี “ถ้าเด็กมีความสุข เด็กจะมีพลัง มีแรงจูงใจ ใฝ่เรียนรู้ วางแผนด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า โลกอนาคตจะเป็นอย่างไร สิ่งที่โรงเรียนทำได้ คือการเตรียมความพร้อมเรื่องทักษะชีวิต ให้สามารถรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ และเราสามารถทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อให้โลกเราคงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป”
โรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี เปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลจนถึงเกรด 12 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกขององค์การสหสากลวิทยาลัยโลก (United World College หรือ UWC) ซึ่งถือกำเนิดขึ้นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นองค์กรเครือข่าย ที่จะให้การศึกษาเป็นพลังในการนำพาประเทศและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไปสู่สันติภาพและโลกอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยโรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมีจะเป็นสถาบันการศึกษา 1 ใน 16 แห่งทั่วโลก ที่ได้รับการคัดเลือก โดยจะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมปี 2016
ส่วนเยาวชนหนุ่มสาวของโรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี ต่างเผยถึงมุมมองที่เลือกเรียนนานาชาติ อาทิ
กอล์ฟ-กรกาญจนา สะเพียรชัย นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ ที่ล่าสุดคว้า 2 เหรียญเงินจากซีเกมส์ครั้งที่ 28 สิงคโปร์ ศึกษาอยู่เกรด 11 เผยว่า “ตัดสินใจย้ายมาเป็นนักเรียนประจำที่นี่ปีที่แล้ว เพราะเหมาะกับเรา ชอบที่โรงเรียนมี สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ทุกอย่างอยู่ในที่เดียวกัน แค่เดินไม่กี่ก้าว ไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทาง ตื่นขึ้นมาก็ฝึก 2 ชม.ก่อนเข้าห้องเรียน เลิกเรียนก็เสริมความแข็งแรงที่ฟิตเนส และฝึกว่ายน้ำต่ออีก 2 ชม.ก่อนทานอาหารมื้อค่ำ ชอบที่โรงเรียนสอนให้เรากล้าคิด กล้าตั้งคำถาม ได้เห็นโลกกว้าง ออกนอกกรอบได้ ชอบที่จะได้รับรู้ ฟังความคิดเห็นมุมมองจากเพื่อนต่างชาติ ทำให้เราได้รู้จักโลกได้มากขึ้น”
ซาเวียร์ เกทส์ (Zavier Gates) หนุ่มน้อยชาวออสซี่วัย 13 ปี เกรด 8 ที่ย้ายตามพ่อแม่ที่มาทำงานที่เมืองไทย เล่าให้ฟังว่า “วิชาโปรดของผมคือ คลาสฝึกพัฒนาจิตใจ ให้รู้จักตัวเอง และมีสติ ตอนแรกที่ได้ยินชื่อวิชานี้ ดูเป็นเรื่องซิลลี่และฟังดูตลกมาก แต่พอได้เรียน รู้สึกดีมาก คือมันมีเหตุมีผลในตัวเอง พอเราได้ฝึกให้ใจสงบ สมาธิเราดีขึ้น เกิดสติ มีปัญหาอะไร ก็แก้ไขได้ ชอบที่มาเรียนที่นี่ รู้สึกเหมือนกับอยู่ยูเอ็น เป็นสหประชาชาติมาก เพราะมีเพื่อนจากทุกๆ ส่วนของโลก มากกว่า 40 ประเทศ”
นี ทรัน (Nhi Tran) สาวน้อยชาวเวียดนามวัย 17 ปี เกรด 11 ที่ได้ทุนการศึกษา เผยว่า “โรงเรียนสอนให้พวกเราที่มาจากหลายประเทศ ได้รู้จักกัน ช่วยเหลือ พึ่งพากัน ปัญหาในช่วงที่มาใหม่ๆ ก็มีบ้าง เพราะต่างคนมาจากต่างวัฒนธรรม ประเพณี แต่พอเรารู้จักกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน หาทางออกที่จะอยู่ร่วมกันได้ เรียนรู้การให้ การรับ ทำให้เกิดมิตรภาพและเกิดความผูกพันขึ้น และยังเข้าใจในความต่างของเราได้อีกด้วย”
นันทิตา เศรษฐี สาวไทยวัย 18 ปี เรียนอยู่เกรด 12 เผยว่า “เรียนโรงเรียนนานาชาติมาตลอด มาอยู่ที่นี่เป็นปีที่ 2 ชอบที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ชอบเวลาที่อาจารย์ให้คิดเอง แบบให้โจทย์มาแล้วให้เราคิดว่าจะทำอะไร สิ่งที่เราเรียนรู้ที่นี่ ทำให้เรารู้จักตัวเอง รู้ว่าเราชอบที่จะสอน ภูมิใจเวลาที่เราได้ช่วยสอนเพื่อนที่เรียนไม่ทัน หรือเวลาที่เพื่อนมีคำถาม เราไม่แก่งแย่งชิงดี ว่าใครจะได้
คะแนนเก่งกว่าใคร แต่อยู่ด้วยกันด้วยความเอื้ออาทรและช่วยเหลือกันค่ะ ส่วนเป้าหมายของชีวิตก็อยากที่จะเป็นครู”
ถ้าเยาวชนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม เรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทร เข้าใจซึ่งกันและกัน จะเป็นพลังในการ นำโลกเราสู่สันติภาพและอนาคตที่ยั่งยืน