พฤติกรรมการใช้ชีวิตผ่านเครื่องข่ายอินเตอร์เน็ตของคนไทย
ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและจากนี้กระแส 4 G จะเข้ามา
เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นปริมาณการใช้ให้เพิ่มขึ้นเป็น
ก้าวกระโดด ช่องทางออนไลน์จึงเป็นโอกาสในการทำตลาด
ที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้แบบ
ตัวต่อตัว โดยมีเว็บไซต์, เฟสบุ๊ค/แฟนเพจ, ไลน์ เป็นช่อง
ทางหลักในการทำตลาด
ซึ่งโดยภาพรวมของแต่ละแบรนด์เลือกที่จะใช้รูปแบบการ
ตลาดที่เชื่อมโยงไปกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมา
กำหนดรูปแบบการตลาดออนไลน์ เช่น พฤติกรรม
“แชะแล้วแชร์” หรือตอบคำถามชิงรางวัลผ่านหน้าแฟนเพจ
รวมถึงการจัดโปรโมชั่นด้านราคาเฉพาะการสั่งซื้อผ่าน
ช่องทางออนไลน์ เป็นต้น
ที่ผ่านมาช่องทางออนไลน์สามารถผลักดันยอดขายให้เพิ่ม
ขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ กรณีแมคโดนัลด์ที่มีสัดส่วน
ยอดขายในช่องทางดีลิเวอรี่เพิ่มขึ้นกว่า 20% ซึ่งเป็นผล
มาจากการสั่งผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น และการซื้อ
ในช่องทางนี้มียอดใช้จ่ายต่อบิลสูงกว่าหน้าร้านกว่า 2.5-3
เท่าตัว
ส่งผลให้แมคโดนัลด์ตัดสินใจเร่งขยายช่องทาง Social Media
Digital เพื่อรุกตลาดออนไลน์ให้หนักขึ้น โดยจะเพิ่ม ช่องทาง
โมบายแอพพลิเคชั่นเข้ามาให้บริการสั่งซื้อสินค้าทาง
โทรศัพท์ จากที่มีการสั่งซื้อทางเว็บไซต์ เพราะเป็นโอกาส
ในการเพิ่มฐานลูกค้า ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย
โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกับ
เทคโนโลยีและการสื่อสารรูปแบบใหม่ตลอดเวลา ส่วนการ
สื่อสารด้านการตลาดกับผู้บริโภคจะเน้นสื่อสังคมออนไลน์
อย่างเฟซบุ๊ค
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาแมคโดนัลด์เปิดตัวแอปพลิเคชั่น
McDelivery สำหรับสั่งดีลิเวอรี่โดยเฉพาะ ซึ่งทำให้
แมคโดนัลด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ซ้อนทับกับกลุ่ม
ลูกค้าเดิมที่สั่งดีลิเวอรี่ผ่านคอลเซ็นเตอร์ และยังน่าจะเป็น
โอกาสเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมการสื่อสารในรูปแบบ
ไร้เสียงมากขึ้น
ส่วนเคเอฟซีเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการ
ตลาดผ่านเครือข่ายออนไลน์ เพราะมีผลต่อการขยายตัว
ของรายได้ในช่องทางดีลิเวอรี่ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนรายได้กว่า
9% มีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 36% จากรายได้รวม
โดยมีแผนที่จะขยายสาขาบริการดีลิเวอรี่เพิ่มเป็น 254 สาขา
จากปัจจุบันที่มี 231 สาขา เพื่อให้สอดรับกับการให้น้ำหนัก
กับการสั่งอาหารผ่านออนไลน์มากขึ้น
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเคเอฟซีได้ทำการทดลองให้บริการ
"โมบาย เทค อะเวย์ ออเดอริ่ง" ที่ลูกค้าสามารถสั่งอาหาร
ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ก่อนเข้าไปรับอาหารที่สาขาเพื่อ
ตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว
ไลน์แอปพลิเคชั่น เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เคเอฟซีนำมาขับ
เคลื่อนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการพัฒนาแสตมป์
คาแรคเตอร์ของผู้พันแซนเดอร์ถึง 12 แบบ ให้ดาวน์โหลด
และทำกิจกรรมร่วมกับแบรน์ ด้วยการตกแต่งภาพถ่าย
ในคาแรคเตอร์ของผู้พันแซนเดอร์ โดยสามารถนำภาพ
ถ่ายมาตกแต่ง หรือทำการ์ดอวยพรฉลองเทศกาล
วาเลนไทน์แล้วส่งไปยังสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ
ขณะที่ปีที่ผ่านมาเคเอฟซีเลือกที่ใช้สื่อออนไลน์เข้ามาการรับ
รู้เมนู “เดอะ บอกซ์ เอ็กซ์ตรีม (The Box X-TREME)” ซึ่งเป็น
เมนูชั่วคราวสำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ชายโดยเฉพาะ ซึ่ง
กำหนดแนวคิดการตลาดว่า “ผู้ชายที่น่าจดจำ” ที่สื่อสารถึง
เรื่องราวของผู้ชายแต่ละคน ที่ทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ โดย
แคมเปญนี้เคเอฟซีมีการขับเคลื่อนในช่องทางออกนไลน์
ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์
ด้วยการสร้าง “HiSStory Certificate” หรือใบประกาศนียบัตร
ที่แสดงตัวตนของผู้ชายแต่ละคนอย่างเช่น ผู้ชายที่ง้อเก่งที่
สุดในศตวรรษ, ผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในจักรวาล, ผู้ชายที่เนี้ยบ
ที่สุดในดงผู้ดี, ผู้ชายที่รักครอบครัวที่สุดในยุคนี้,และอื่นๆ ซึ่ง
ใบประกาศนียบัตรเหล่านี้เคเอฟซีทำขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคร่วม
สนุก อย่างในทวิตเตอร์เป็นการร่วมสนุกโดยการ
Retweet/Reply หรือ Mention เคเอฟซี จากนั้นก็จะทำการ
มอบประกาศนียบัตรให้
ขณะที่เบอร์เกอร์คิงประเดิมการรุกตลาดออนไลน์ช่วงปลาย
ปีที่ผ่านมาด้วยการจัดแคมเปญชิงโชค “ลุ้นรับไปเลยคูปอง
Whopper Jr และ Angus XT เบอร์เกอร์เนื้อพรีเมี่ยม” ด้วย
การเขียนแชร์ลงในกล่องคอมเม้นท์ผ่านแฟนเพจ Burger
King Thailand และผู้ที่ like & share ภาพกิจกรรมเท่านั้น
บอกเพื่อนๆ จะได้คูปองฟรีอย่างละใบ50 รางวัล รางวัลละ
2 ใบ
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่
http://www.ebooks.in.th/ebook/40468/magketing_vol15/