ฮัลโหลลลล ทักทายสาวๆ กันแบบสดใส เพราะว่าวันนี้ได้ออกไปช็อปปิ้ง จัดหนักจัดเต็มกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกันเลยทีเดียว พออารมณ์ดีๆ แบบนี้ เราเลยนึกสนุก อยากทดลองเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ทำรีวิวกับเขาดูบ้าง อิอิ
เราเป็นคนนึงที่แต่งหน้าหนักมากค่ะ แบบคลั่งจริงอะไรจริง ออกข้างนอกทีหน้าต้องแน่นๆ ไว้ก่อน ปล่อยโทรมไม่ได้เลย แต่พอเสร็จภารกิจแล้วเราก็ต้องกลับมาลบเครื่องสำอาง ทำความสะอาดผิวกันหน่อย ซึ่งนอกจากโฟมล้างหน้าแล้ว เราก็ต้องใช้คลีนซิ่งด้วย เราก็จะมีคลีนซิ่งตัวโปรด ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไอเทมในดวงใจของทุกคนเหมือนกัน
สำหรับคลีนซิ่งลบเครื่องสำอางที่เราจะพูดถึงวันนี้มี 2 ตัว ที่เราใช้แล้วรู้สึกว่าเราเลิฟทั้งคู่มาก นั่นก็คือ Nivea Micellar Water กับ Bioderma Cleansing Water เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำเหมือนกัน แต่ราคาต่างกันมาก แต่เดี๋ยวเราจะมาดูกันชัดๆ เลยว่า คลีนซิ่งสองตัวนี้มีมีความความเหมือนและต่างกันยังไงบ้าง
1 เปรียบเทียบดูดซึมของคลีนซิ่ง เรามาทดลองดูพลังการดูดซับของคลีนซิ่งสองตัวนี้กันหน่อยดีกว่า โดยเราจะเขียนเครื่องสำอางที่เราใช้เป็นประจำอย่าง รองพื้น อายไลเนอร์ และลิปสติก ไว้บนแขน จากนั้นเราจะนำคลีนซิ่งเทลงบนสำลี แล้ววางสำลีทับลงบนแขนที่เราเขียนเครื่องสำอางลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 วินาที
ผลที่ได้คืออออ !!! พลังการดูดซับเครื่องสำอางของทั้งคู่ สามารถซึมซับได้ดีพอๆ กันเลย ตอนนี้ทุกคนอาจจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันซักเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวเราจะลองใช้คลีนซิ่งทั้งสองตัวเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้ากันดูค่ะ
2. ส่วนประกอบและคุณสมบัติของ Nivea Micellar Water กับ Bioderma Cleansing Water ก่อนจะไปลองทำความสะอาดผิวหน้ากัน เรามาดูส่วนผสมของ Nivea Micellar Water กับ Bioderma Cleansing Water เพื่อทำความรู้จักพวกนางหน่อยดีกว่า
- Nivea Micellar Water ข้างขวดบอกว่าเป็นคลีนซิ่งที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้างให้หลุดออก เติมอ็อกซิเจนให้กับผิว มีอาหารผิวจากธรรมชาติ และCarnitine ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว มี Acerla Cherry ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ห่างไกลสิว และอ่อนโยนต่อผิวเหมือนใช้น้ำเปล่า
- Bioderma Cleansing Water ส่วนตัวนี้ ข้างขวดเป็นภาษาอังกฤษ เลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่มนิดนึง เขาบอกว่าตัวนี้อ่อนโยนต่อผิวเหมือนกันค่ะ เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกง่าย แบบไม่ต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำด้วยนวัตกรรม Micelle มี Laminiaria และ Enoxolone ช่วยยับยั้งการอักเสบและระคายเคือง
3.เปรียบเทียบการใช้สำลีในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง เรารู้จักคลีนซิ่งทั้ง 2 ตัวไปแล้ว ข้อนี้เราจะมาเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งสองตัวนี้กันจริงๆ ละ แล้วมาดูกันว่ากว่าหน้าเราจะสะอาดใสปิ๊งนั้น เราจะใช้สำลีหมดไปซักกี่แผ่น โดยฝั่งขวาเราจะทำความสะอาดผิวหน้าด้วย Nivea Micellar Water และใบหน้าด้านซ้ายเราจะเช็ดเครื่องสำอางด้วย Bioderma Cleansing Water ค่ะ
เริ่มต้นที่ Nivea Micellar Water กันก่อนเลย ตอนเทนีเวียลงบนสำลี ชัดเลยว่านางไม่มีกลิ่นของน้ำหอม คนที่ผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีน้ำหอมผสมทำให้ผิวเราระคายเคือง เราเช็ดทำความสะอาดใบหน้าฝั่งขวา ด้วยสำลี 3 แผ่นเท่านั้น! อ่านไม่ผิดค่ะ เราใช้สำลีแค่ 3 แผ่น อายแชโดว์ ลิปสติกที่ว่าติดทนก็หายไปหมด เหลือแต่ผิวหน้าสดๆ เลยจ้า
มาถึงผิวหน้าฝั่งซ้ายกันบ้าง เราก็ใช้วิธีเดียวกันค่ะ เท Bioderma Cleansing Water ลงบนสำลีแล้วเช็ดทำความสะอาดตามปกติ เอ้อ.... ดีงามสมราคานะไม่มีกลิ่นน้ำหอมและเราใช้สำลีแค่ 4 แผ่นในการเช็ดผิวหน้าให้สะอาด ไม่มีเครื่องสำอางได้ในเวลาแค่แปปเดียว
และนี่คือหน้าสดของเรา ที่เช็ดเครื่องสำอางออกด้วยคลีนซิ่ง 2 แบรนด์ คืออายอะ 5555 มันสะอาดจนนึกว่าล้างหน้าแล้วทั้งคู่เลย เป็นคลีนซิ่งที่ใช้แล้วไม่เปลืองสำลี ที่สำคัญลิปสติกเรา ปกติลบออกยากมากกกกก... ปกติใช้ตัวอื่นนี่ถูจนปากจะแตกละ แต่คลีนซิ่งทั้ง 2 ตัวนี้จัดการให้เราได้ ไม่เปลืองแรงถูเลย
4. ความคุ้มค่าปริมาณราคาต่อ ml.เห็นคุณภาพในการทำความสะอาดของ Nivea Micellar Water กับ Bioderma Cleansing Water กันแล้ว ทีนี้เราจะมาลองคิดกันเล่นๆ เปรียบเทียบความคุ้มค่ากันหน่อย สำหรับ Nivea Micellar Water ที่เรามีคือขวด 200 ml. ราคา 189 บาทค่ะ ตก ml. ละ 1 บาท ส่วน Bioderma Cleansing Water ขวด 250 ml. ราคา 850 บาท หรือ ml. ละ 3 บาทกว่าๆ ฮั่นแน่... เริ่มเห็นความแตกต่างแล้วอะดิ
มาถึงจุดนี้แล้วเราอยากจะบอกว่าของถูกและดีมันมีอยู่จริงบนโลกค่ะ แต่ทั้งสองตัวนี้ก็มีจุดที่เราชอบและไม่ชอบแตกต่างกันไป
- Nivea Micellar Water เราชอบนางตรงที่นางไม่แพง แต่คุณภาพใช้ได้นะสามารถใช้เช็ดทำความสะอาดได้ดีไม่แพ้คลีนซิ่งตัวท็อปเลยอะ แล้วใช้สำลีน้อยไม่เปลืองดีค่ะ ความมันสิ่งสกปรกต่างๆ หลุดออกหมด ส่วนแพ็คเกจแบบแบนพกพาง่าย แต่ติดอยู่ที่ฝาขวดที่จะเปิดยากๆ หน่อยสำหรับสาวที่ไว้เล็บยาว ความอ่อนโยนต่อผิวหน้าตอนแรกที่ใช้ผิวแอบแดงนิดนึงแต่ไม่แสบนะ ก็แอบกลัวแพ้เหมือนกันแต่รอสักพักก็หายแดง อาจจะเป็นเพราะเราถูหน้าแรงเอง โดยรวมแล้วด้วยราคาประมาณนี้นีเวียถือว่าไม่ทำให้ผิดหวัง เอาไป 9
คะแนนจ้า
- Bioderma Cleansing Water คลีนซิ่งแบบน้ำแบรนด์ ดัง คือเรื่องคุณภาพก็มาดีเหมือนกัน สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดี ไม่ทิ้งสิ่งสกปรก เรื่องความมันบนใบหน้าก็จัดการได้ ใช้แล้วเย็นๆ เหมือนใช้น้ำเปล่าเช็ดหน้า แต่เราไม่ชอบขวดนางอะ เพราะพกพายากเวลาเดินทางจะเอาใส่กระเป๋าทีก็เปลืองพื้นที่ไปเยอะเลย อ่อ... แล้วก็หลังจากเทียบราคาแล้วนางมาราคาแรงไปนิดนึง... เราเลยตัดขอคะแนนแพ็คเกจกับราคาเหลือ 8 คะแนนละกัน
เปรียบเทียบราคากับคุณภาพให้เห็นแบบชัดๆ แล้ว คราวนี้ก็เหลือแค่สาวๆ ลองไปหาซื้อมาใช้กันดูนะคะ การรีวิวครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าบางทีของดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องราคาแรงเสมอไป ถ้าอยากประหยัดงบเก็บค่าขนมไว้ช็อปปิ้ง ก็ลองใช้ Nivea กันดู แต่ถ้าชอบแบบ Bioderma ก็จัดไป ไม่เสียหายจ้า
วันนี้ก็พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ไว้คราวหน้าเรามีฟีลลิ่งอยากรีวิวข้าวของเครื่องใช้ของเราเมื่อไหร่ จะมาพลีชีพรีวิวให้ดูกันอีกเรื่อยๆ ละกัน วันนี้ขอตัวไปนอนพัก ชื่นชมกับของที่ช็อปปิ้งมาก่อนนะคะ บ๊ายบายค่า
