ตลอดปี 2560 นี้ได้เห็นความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการขับเคลื่อนองค์กรตามแนวทางของความยั่งยืนอย่างเด่นชัดมาก โดยเฉพาะเมื่อผู้นำรุ่นที่สาม ศุภชัย เจียรวนนท์ ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ ในฐานะประธานคณะผู้บริหารเครือฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง ไม่ว่าไปพูดเวทีไหน จะเน้นให้เห็นว่า เครือฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนำเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเครือฯ ไปรวมอยู่ในเป้าหมายขององค์กร ฉายแววความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในการดำเนินธุรกิจของโลกยุคใหม่ ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไปพร้อม ๆ กัน
ล่าสุดในงาน “CP Sustainability: Shaping the Future” คุณศุภชัยได้ตอกย้ำอย่างหนักแน่นว่า เครือซีพีมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลของความยั่งยืน ทั้ง 3 มิติ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ด้วยการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชุมชนและสังคมทุกแห่งที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างอาหารคน อาหารสมอง สร้างโอกาสในการเข้าถึงคุณค่า เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
คุณศุภชัยขยายความว่า ความยั่งยืนต่างจาก CSR ที่เป็นการเข้าไปช่วยเหลือระยะสั้น แต่ความยั่งยืน เมื่อช่วยเขาแล้ว ต้องสามารถปล่อยมือได้ เพื่อให้ชุมชนสามารถเดินหน้าต่อไปเองได้จากรุ่นสู่รุ่น (Sustainable Business Model) เหมือนกับการสอนให้เขาจับปลาเป็น ไม่ใช่เพียงแค่ยื่นปลาให้เขา โดยมีนวัตกรรมเป็นส่วนสำคัญ เพื่อบริหารต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (Innovation) ความยั่งยืนต้องวัดผลได้ (Social Impact) และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน มีความโปร่งใส และมีเป้าหมายร่วมในการแก้ปัญหาของส่วนรวมหรือสังคม (Inclusiveness)
“จริง ๆ แล้ว เรื่องความยั่งยืนเป็นเป้าหมายที่ฝังลึกอยู่ในเครือเจริญโภคภัณฑ์มานานแล้ว โดยท่านประธาน (นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด) ได้ให้แนวทางไว้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ในหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ของการดำเนินธุรกิจของเครือฯ ที่ให้มองประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงมองประโยชน์ของประชาชนในทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน สุดท้ายจึงจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร”
เห็นความมุ่งมั่นของซีพีเช่นนี้แล้ว ไม่แปลกใจเลย ที่ปีนี้ 3 บริษัทหลักของเครือฯ คือ CPF, CPALL และ TRUE ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกด้านความยั่งยืนจาก 3 สถาบัน โดยได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI หรือ กลุ่มดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ Dow Jones Sustainability Indices ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความยั่งยืนระดับโลก
นอกจากนี้สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ World Business Council on Sustainable Development (WBCSD) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจที่ยั่งยืน ได้รายงานผลคะแนนความยั่งยืนของบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกโดยพบว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้คะแนนถึง 72.2% อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกที่มีคะแนนอยู่ระหว่าง 78-82%
รวมถึงการที่ CPF และ TRUE ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความความยั่งยืน FTSE4Good Emerging Index จัดอันดับโดยฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell)

ล่าสุดเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาโครงการ CGR 2560 ซึ่งจัดโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย IOD ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า CPF และ TRUE ได้คะแนน 5 ดาว ส่วน MAKRO ได้คะแนน 4 ดาว
ในปีนี้เครือซีพียังได้จัดทำรายงานความยั่งยืนขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งในรายงานได้ประกาศเป้าหมายและตัวชี้วัดการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2563 (CP Group Sustainability Goals 2020) เพื่อให้ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั่วโลกดำเนินการเพื่อบรรลุ 12 เป้าหมายแห่งความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs โดยเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนของเครือซีพีจะเป็นแรงสำคัญในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ทั้งต่อการดำเนินธุรกิจของตนเอง ประเทศไทย และสังคมโลก
“ปี 2020 เรามีเป้าหมายจะทำให้เครือฯ อยู่ในระดับ World Class หรือระดับสากล นอกเหนือจาก 3 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกแล้ว เรายังมีบริษัทร่วมลงทุนในต่างประเทศอีกราว 20 ประเทศ เริ่มที่ประเทศไทยแล้ว ปีต่อไปจะไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมาย 10 ปีข้างหน้า เราจะได้รับคัดเลือกเป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนอยู่ในระดับ Top 20 หรือ Top 30 ของโลก”
นอกจากนั้น บรรยากาศในงานค่อนข้างคึกคัก เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน โดยผู้บริหารคนอื่น ๆ ของเครือฯ ได้ขานรับเป็นเสียงเดียวกันว่า ซีพีจะเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องทำให้ดีกว่าเก่า
คุณนพปฎล เดชอุดม รองประธานสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ บอกสั้น ๆ แต่ได้ใจความหนักแน่นว่า “ต่อไปเราต้องทำให้ผ่าน ซึ่งผ่านก็คือ ดีขึ้นกว่าปีนี้”
คุณสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ขอบคุณการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ “ทุกคนให้ความร่วมมือกันอย่างจริงจัง และเรายังมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนสู่สังคมไปด้วยกันต่อไป”
“การสร้างความยั่งยืน ต้องฝังให้อยู่ใน DNA ของบุคลากร ต้องนำไปผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร” คุณอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ตบท้าย
นับเป็นมิติใหม่ที่งดงามสำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์กับเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ ที่จะขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไป โดยคำนึงถึงปัจจัยครบทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลดีเป็นลูกโซ่ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศด้วย
----