6 เอกชนไทย-ต่างชาติ
ลุ้นเค้กแสนล้าน
สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินขนาดใหญ่มีผู้โดยสารทั้งคนไทยและต่างประเทศเข้าออก 62.81 ล้านคนต่อปี ( ข้อมูลปีงบประมาณ 2561) มียอดซื้อขายสินค้าและบริการปีละเกือบแสนล้านบาท ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่ภาคเอกชนจับจ้องด้วยสายตาที่แวววาวและเชื่อว่า จะเป็นการประลองกำลังครั้งที่สองของเอกชนทั้ง 6 รายเดิมที่เคยประมูลที่สนามบินอู่ตะเภา อย่างกลุ่ม King Power กลุ่มเซ็นทรัล- DFS สิงคโปร์ กลุ่มล็อตเต้ เกาหลีใต้ กลุ่มบางกอกแอร์เวย์ กลุ่มไมเนอร์-SSP และ กลุ่มเดอะมอลล์
เชื่อได้ว่า ประมูลรอบนี้จะเป็นการแข่งขันดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน
เพราะ เจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง คิง เพาเวอร์ ในฐานะแชมป์เก่าจะเดินเข้าสู่เวทีประมูลเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์เ ประกอบกับ ผลงานล่าสุดสดๆร้อนๆ กลุ่มคิง เพาเวอร์ ชนะการประมูลบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากรท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงและยังได้รับอนุญาตให้บริหาร 5 กลุ่ม สินค้าลักชัวรี่ คือ ธุรกิจนาฬิกาและจิวเวลรี่ ภายใต้ 5 แบรนด์ คือ Cartier, IWC, Schalfthausen, Piaget, Panerai และ Jaeger-LeCoultre และการประมูลที่สนามบินอู่ตะเภา
ฉะนั้นกลุ่มคิง เพาเวอร์ ถือได้ว่า เป็นกลุ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีของคนไทยที่มีทั้งด้านความรู้ เทคโนโลยี การบริหารจัดการอีกทั้งได้รับความไว้วางใจจากต่างประเทศเต็มเปี่ยม จึงมีความพร้อมในการประมูลทุกรูปแบบ

กลุ่มเซ็นทรัลของตระกูลจิราธิวัฒน์ และ DFS สิงคโปร์ กลุ่มนี้ไม่อาจมองข้ามได้เลย ตระกูลจิราธิวัฒน์เก่งเรื่องค้าปลีกยิ่งจับมือกับ DFS ผู้บริหารดิวตี้ฟรีรายใหญ่ของสิงคโปร์ อีกทั้งเพิ่งชนะประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่อู่ตะเภามาด้วย ยิ่งสร้างความฮึกเหิมให้กับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างมาก มั่นใจถึงกับประกาศว่า “ลมเปลี่ยนทิศ” แล้ว โดยเดินเกมส์ผ่านนายกสมาคมค้าปลีก นายวรวุฒิ อุ่นใจ ซึ่งใช้กลยุทธ์ให้สมาคมเป็นคนพูดแทนและพยายามหาช่องทางความได้เปรียบในทุกๆทาง
กลุ่มล็อตเต้ ประเทศไทย ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ล็อตเต้เกาหลี กลุ่มนี้พลาดท่าจากสนามบินอู่ตะเภามาแล้ว และปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินร้านค้าปลอดภาษีในเมือง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะไม่มีจุดรับส่งสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ
กลุ่มล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ไทยแลนด์ ประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่คือ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (สิงคโปร์) พีทีอี ลิมิเต็ด ถือหุ้นจำนวน 49% กลุ่มแอลแอนด์เอส (สิงคโปร์) ถือหุ้น 30% และกลุ่ม โชว์ แอสเซท แมเนจเม้นท์ ถือหุ้น 21%
ขณะที่ โชว์ดีซี นั้นมีผู้ถือหุ้น 3 กลุ่ม คือ พีพีเอ็ม โกลบอล ลิมิเต็ด (มาเลเซีย) ถือหุ้น 48.14% กลุ่ม เออีซี แคปปิตอลถือหุ้น 42.21% และแพ่งเพียร เหล่ากำเนิด ถือหุ้น 9.65% ซึ่งดูแล้วเหมือนไม่มีอะไร!
แต่อย่าลืมว่า ในล็อตเต้ มีกลุ่มโชว์ แอสเซท แมเนจเม้นท์ถือหุ้นอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มโชว์ แอสเซทนั้นมีกลุ่ม เออีซี แคปปิตอลถือหุ้นใหญ่อยู่ 99.98% และขณะที่ในส่วนของหุ้นเออีซี แคปปิตอลนั้นมีกลุ่มภูตรา คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นอยู่ 20% และในกลุ่มภูตราก็มีผู้ถือหุ้นอยู่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ถือหุ้น 35% ลาดหญ้า อูริยา ถือหุ้น 22.5% รวิฐา พงศ์นุชิต ถือหุ้นอยู่ 22.5% และประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ ถือหุ้น 20%

ดังนั้นในศึกการประมูลดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ กลุ่มล็อตเต้พลาดไม่ได้หลังจากเสียทีให้กลุ่มคิง เพาเวอร์ในการประมูลที่สนามบินอู่ตะเภามาแล้ว โดยเฉพาะ รวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมร้านค้าปลอดอากร และหุ้นส่วนของล็อตเต้ เดินเกมร่วมกับสมาคมร้านค้าปลีกเพื่อผลักดันให้ทางการเปิดสัมปทานตามแนวทางที่กลุ่มต้องการ เพราะหากกลุ่มล็อตเต้พลาดอีกครั้งจะเสียฟอร์มเสียศักดิ์ศรียักษ์ใหญ่จากเกาหลีอย่างมาก
ส่วนกลุ่มของนายแพทย์ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือกลุ่ม บริษัท บางกอกแอร์เวย์ส โฮลดิ้ง จำกัด ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า ร่วมทุนกับใครแต่ต้องไม่ลืมว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทฐานะการเงินเข้มแข็ง ก่อตั้งเมื่อ 27 ตุลาคม 2530 ปัจจุบันบริษัทนี้ถือหุ้นในกิจการในเครือของหมอเสริฐอยู่หลายแห่ง อีกทั้งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บางกอกแอร์เวย์ บูติคแอร์ไลน์
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองคือ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ได้เข้าไปซื้อหุ้น 100% บริษัท มอร์แดนฟรี จำกัด ผู้ซึ่งดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรีหลายแห่งประกอบด้วย สนามบินนานาชาติสมุย สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (อาคาร1) สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินหลวงพระบาง สปป.ลาว แต่ทั้งหมดเป็นสนามบินขนาดเล็ก ดังนั้นจึงไม่แปลกเมื่อกลุ่มนี้สนใจกระโดดเข้าสู่พื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น
กล่าวโดยสรุป เกมประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิจนถึงปัจจุบันนี้ มีบริษัทคนไทย 2 ราย และบริษัทร่วมทุนต่างประเทศอีก 2 รายที่เปิดตัวจะเข้าร่วมชิงชัย และช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 นี้ การประมูลดิวตี้ฟรี ฯ เป็น 1 ใน 3 ของมันนี่เกมระดับอภิโปรเจคที่จะต้องจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นเกมการต่อสู้ที่กอปรด้วยปฏิภาณไหวพริบ กลยุทธ์ลูกเล่นเหลี่ยมคูที่น่าสนใจน่าติดตามจนไม่อาจจะละสายตาได้
ข่าวจาก https://www.matichonweekly.com/eco-bus/article_160297