- TAG Heuer เปิดฉากงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่นคลาสสิกอย่าง Monaco ณ งาน Monaco Formula 1 Grand Prix ซึ่งถือเป็นงานอีเวนท์ประวัติศาสตร์อันเป็นที่มาของชื่อนาฬิการุ่นนี้เมื่อปี 1969
- TAG Heuer เผยโฉม 1 ใน 5 นาฬิการุ่นใหม่สำหรับนักสะสม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Monaco รุ่นออริจินัล โดยนาฬิกาทั้ง 5 รุ่นจะเผยโฉมต่อเนื่องตลอดปี 2019 นี้
- TAG Heuer เปิดประตูต้อนรับแขกสู่งานอันทรงเกียรติและน่าตื่นเต้นเป็นอันดับต้น ๆ ในโมนาโก ซึ่งรวมถึงงานปาร์ตี้ในช่วงเย็นบนเรือ TAG Heuer Yacht นำโดย Patrick Dempsey และ Bella Hadid
ทุกสายตาทั่วโลกต่างจับจ้องไปที่ Rock of Monaco อันเป็นสถานที่จัดงาน Formula 1 Grand Prix สุดสัปดาห์นี้ รวมถึงนาฬิการุ่นโด่งดังของ TAG Heuer ที่กำลังเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ณ ดินแดนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ TAG Heuer จึงประกาศว่า ทางแบรนด์จะทยอยเปิดตัวนาฬิกาทั้ง 5 รุ่นใหม่ตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ในแต่ละทศวรรษตั้งแต่ปี 1969 ถึง 2019 อีกทั้งยังเป็นการออกแบบโดยอุทิศให้กับดีไซน์ที่งดงามเหนือกาลเวลา พร้อมนวัตกรรมที่แข็งแกร่งทนทาน และสไตล์ที่มีความร่วมสมัยมากกว่าเดิม
ดีไซน์ที่มีความโลดโผนและทรงเอกลักษณ์คือสิ่งที่ทำให้นาฬิการุ่น Monaco กลายเป็นที่จดจำของผู้คน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ไม่ว่าจะในมุมมองใด ส่งผลให้ Monaco กลายเป็นนาฬิกาที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนไม่ว่าจะในเรื่องของการออกแบบหรือเทคโนโลยี ทั้งนี้ TAG Heuer Monaco ไม่ได้เป็นแค่เพียงนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมรุ่นแรกที่สามารถกันน้ำได้ แต่ยังเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้กลไกออโตเมติกอีกด้วย
นับตั้งแต่การเปิดตัว นาฬิการุ่น Monaco และการแข่งขัน Monaco Grand Prix ซึ่ง TAG Heuer รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์นาฬิกาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2011 นั้น มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น โดยการแข่งขัน Grand Prix ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฤดูกาล Formula 1 นี้ เป็นที่มาของชื่อนาฬิกาคอลเลคชั่น TAG Heuer Monaco เมื่อปี 1969 ฉะนั้น จึงไม่มีสถานที่ใดที่จะเหมาะสมสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่นนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ด้วยการยึดพื้นที่ของโมนาโกตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายที่สุดของปี TAG Heuer ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น Monaco ฉบับลิมิเต็ดเอดิชันเรือนแรก ณ Key Largo Villa โดยมี Stephane Bianchi ซีอีโอของ LVMH Watchmaking Division และซีอีโอของ TAG Heuer ร่วมด้วย Frederic Arnault ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล มาเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวครั้งนี้ เช่นเดียวกับนักซิ่งดาวรุ่งอย่าง Max Verstappen จาก Martin Red Bull Racing Team รวมถึง Patrick Dempsey, Bella Hadid, Winnie Harlow, Kai Lenny และแขกท่านอื่น ๆ จากทั่วโลก
ตลอดงานสุดพิเศษระยะเวลา 3 วัน แขกผู้ร่วมงานต่างมีโอกาสเข้าร่วมอีเว้นท์ที่ทรงเกียรติและน่าตื่นเต้นเป็นอันดับต้น ๆ ในโมนาโก ตั้งแต่ทัวร์พิพิธภัณฑ์ Monaco Top Cars Collection แบบส่วนตัว รวมถึงการย้อนดูประวัติของนาฬิกา Monaco จนถึงการตอบคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของ Grand Prix อย่างละเอียดกับ Christian Horner หัวหน้าทีม Aston Martin Red Bull Racing Team แขกผู้ร่วมงานยังได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้สุดพิเศษที่จัดบนเรือยอร์ช TAG Heuer Yacht เมื่อคืนวันเสาร์ พร้อมการแสดงสุดพิเศษจากดีเจชื่อดังชาวฝรั่งเศสอย่าง Bob Sinclair รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษอย่าง Patrick Dempsey, Bella Hadid, Winnie Harlow, Jourdan Dunn, Kai Lenny และ Jean-?ric Vergne อีเว้นท์ดังกล่าวปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยสิทธิ์ VIP เพื่อเข้าร่วมงาน Formula 1 Grand Prix ซึ่งมี TAG Heuer เป็นสปอนเซอร์นาฬิกาอย่างเป็นทางการ
ย้อนประวัติศาสตร์ 50 ปีของ TAG Heuer Monaco และ Calibre 11
เมื่อครั้งที่ Heuer Monaco (ณ เวลานั้น TAG ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัท) ได้เปิดตัวที่งานแถลงข่าวในนิวยอร์กและเจนีวาพร้อมกันเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1969 นักข่าวและผู้คลั่งไคล้นาฬิกาจากทั่วโลกต่างรู้สึกทึ่ง เพราะทุก ๆ ส่วนของนาฬิกานั้นดูแปลกตาไปจากนาฬิกาอื่น ๆ อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ทั้งในแง่ของการออกแบบและเทคโนโลยี การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของ Monaco ทำให้ตัวนาฬิกาเป็นที่จดจำในทันที ด้วยเคสกันน้ำทรงสี่เหลี่ยมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
สิ่งนี้คือส่วนเติมเต็มที่สมบูรณ์แบบแก่เทคโนโลยีสุดล้ำที่นำเสนอโดยผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์รายนี้ในขณะนั้น โดย Heuer ได้พัฒนาและวางจำหน่ายกลไก Calibre 11 ซึ่งเป็นกลไกนาฬิกาออโตเมติกรุ่นแรกของโลก
Jack Heuer ซีอีโอของ Heuer ในเวลานั้น เชื่อว่านวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้จำเป็นต้องมีการออกแบบที่จะดึงดูดความสนใจ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Monaco ทำได้อย่างสมบูรณ์
เพียงหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว Monaco ได้ไปอยู่บนข้อมือของ Jo Siffert แบรนด์แอมบาสเดอร์และนักขับรถแข่ง และในปี 1971 ได้ไปปรากฏอยู่ในหนังเรื่อง Le Mans โดยมี Steve McQueen เป็นผู้สวมใส่
ดาวเด่นที่มีปฏิทรรศน์
ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิการุ่น Monaco มีความเชื่อมโยงอย่างเหนียวแน่นกับการผลิตนาฬิกาชั้นสูง จนนำมาซึ่งกลไก การออกแบบ และวัสดุใหม่ ๆ ตามมา เมื่อเวลาผ่านไป นาฬิการุ่น Monaco ยังมีจิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติที่สร้างทั้งชื่อเสียงและชื่อเสีย โดยเรื่องราวที่สมบูรณ์เบื้องหลังนาฬิการะดับตำนานนี้ได้รับการเล่าขานในหนังสือ Paradoxical Superstar เล่มใหม่ ซึ่งรวบรวมข้อความที่ตัดตอนและภาพร่างของการออกแบบและการเคลื่อนไหว ทั้งยังมี Nicholas Foulkes นักเขียนและนักข่าวชาวอังกฤษ Gisbert Brunner ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา และ Michael Clerizo นักเขียนชาวอเมริกัน ร่วมกันสรรสร้างแต่ละบทที่รวบรวมมรดกและนวัตกรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นนาฬิการุ่น Monaco โดยมีเจ้าชายอาลแบร์ที่ 2 องค์อธิปัตย์แห่งโมนาโกเป็นผู้เขียนคำนำของหนังสือเล่มนี้ เพื่อตอกย้ำความผูกพันของนาฬิการุ่น Monaco กับดินแดนที่เป็นเจ้าของชื่อนาฬิการุ่นนี้
#DontCrackUnderPressure เป็นมากกว่าเพียงคำเคลม แต่เป็นถึงความสุขุมหนักแน่น รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tagheuer.com
อินสตาแกรม: @tagheuer, ทวิตเตอร์: @TAGHeuer, เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/TAGHeuer
ดาวน์โหลด
ดาวน์โหลดสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งหมดได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ https://presscorner.tagheuer.com/directlogin
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.image.net/TAGHeuerMonaco50th