บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) แนะกระจายพอร์ตลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในภาวะดอกเบี้ยต่ำ และช่วยกระจายความเสี่ยงรับมือตลาดหุ้นผันผวน เปิดตัว “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล เรียลเอสเตท ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UGRE-UI)” กองทุนประเภท Feeder Fund ที่ลงทุนใน UBS (Lux) Real Estate Funds Selection – Global (GREFS) (I-96 EUR ACC) (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั่วโลก ทั้งอเมริกา แคนาดา ยุโรป ญี่ปุ่นและเอเชีย ชูอัตราผลตอบแทนของกองทุนหลักย้อนหลัง 5 ปี* (UBS Asset Management ณ 31 พ.ค.2562) อยู่ที่ 6.44% ต่อปี พร้อมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก 22-26 สิงหาคมนี้ นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มจะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขภาคการผลิตในประเทศต่างๆที่แสดงสัญญาณการชะลอตัวลง ที่ส่งผลให้ธนาคารกลางในหลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรปรับลดลงทั่วโลก รวมทั้งปัจจัยต่างๆ เช่น Brexit และการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่ยืดเยื้อและยกระดับสู่การปิดสนามบินนานาชาติฮ่องกง ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยอาจจะมีความไม่ชัดเจนและเกิดความผันผวนในระยะสั้น
บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด (“
UOBAM”) เล็งเห็นมุมมองการลงทุนโดยแนะให้กระจายพอร์ตการลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน พร้อมเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มีความสม่ำเสมอจากการกระจายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั่วโลก เนื่องจากในปัจจุบันการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงให้อัตราผลตอบแทนที่ดี มี Yield Spread (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน) สูงกว่าตราสารหนี้ และมีค่าความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการรับรู้รายได้จากค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว
โอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่มากทั่วโลกภายใต้การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจด้านอี-คอมเมิร์ชในปัจจุบัน ส่งผลดีต่อการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้า รวมถึงแนวโน้มการปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยในสเกลขนาดใหญ่ (Multi Family) ในหลายๆ ภูมิภาคกำลังเติบโตได้ดี ส่วนการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ (Senior House) เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ
ล่าสุด UOBAM เปิดตัว “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล เรียลเอสเตท ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UGRE-UI)” โดยมีกำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 22-26 สิงหาคม 2562 (เปิดขายครั้งเดียว) โดยกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี นับจากวันจดทะเบียนทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม (ทั้งนี้เป็นไปตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน) โดยเป็นกองทุนรวม Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน UBS (Lux) Real Estate Funds Selection – Global (GREFS) ( I-96 EUR ACC) (กองทุนหลัก) ซึ่งจัดตั้งมาแล้วกว่า 10 ปี โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 5,000 ล้านยูโร บริหารจัดการโดย UBS Fund Management (Luxembourg) S.A. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก กองทุนหลักดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก จึงสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี
ทั้งนี้ กองทุนหลักมุ่งเน้นการบริหารจัดการแบบ “Active Management” เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กลุ่มออฟฟิศให้เช่า (Office Building) ที่มีคุณภาพและอยู่ในทำเลที่ดี เช่น ในเขตเมืองหรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ ฯลฯ สามารถรายได้อย่างสม่ำเสมอและมีอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มโรง
งานอุตสาหกรรมซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อัตราผลตอบแทนสูงกว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เน้นโครงการที่มีคุณภาพและอยู่ในทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง รวมถึงกลุ่มที่อยู่อาศัยให้เช่า นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในบ้านพักผู้สูงอายุ อพาร์ทเมนต์ หอพักนักศึกษาในทำเลที่มีศักยภาพ โดย UBS Asset Management มีการกระจายการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์กว่า 44 กองทุนทั่วโลก มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 5,185 โครงการ และรายได้จากผู้เช่าที่มีคุณภาพกว่า 26,077 ราย จึงเป็นหนึ่งในกองทุนที่สามารถสร้างช่วยกระจายการลงทุนและให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน (ที่มา : UBS Asset Management, ณ 30 มิ.ย. 2562)
หมายเหตุ
*สำหรับผลการดำเนินงานของ กองทุนหลัก UBS (Lux) Real Estate Funds Selection – Global (GREFS) ( I-96 EUR ACC) (ณ 31 พ.ค. 2562) ให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 6.44% ต่อปี และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (30 มิ.ย. 2551) อยู่ที่ 5.00% นอกจากนี้มีค่าความผันผวนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ระดับ 1.91% (คำนวณ ณ วัน 28 ก.พ. 2562)
