งานแถลงข่าวจับมือของ EA Anywhere ของ บริษัทพลังงานมหานคร และ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) และ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2562 เพื่อผุดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไทย 1,000 สถานีภายในปีนี้ ไม่เพียงเป็นวาระทางธุรกิจที่น่าตื่นเต้น
สามประสานที่ไต้หวัน
งาน “Charging The Future Synergy by EA Anywhere” ยังบ่งบอกถึงเทรนด์ของสังคมไทยว่าเข้าสู่ยุคยานยนต์สมัยใหม่
กล่าวคือ ทุกกิจการคำนึงถึงการรักษาสภาพแวดล้อมมาเป็นอันดับต้น เอื้ออำนวยด้วยเทคโนโลยีการชาร์จมาถึงจุดลงตัวด้วยล้ำสมัย ไม่กินเวลานาน สะดวกสบายเมื่อจะหาสถานีที่กระจายอย่างทั่วถึง และปลอดภัยต่อพาหนะที่ขับขี่
สามประสานที่ไต้หวัน
สมโภชน์ อาหุนัย – อมร ทรัพย์ทวีกุล คู่หูดูโอผู้บริหารอีเอ
อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ อีเอ (EA) บริษัท
แม่ของพลังงานมหานคร กล่าวว่า การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่การให้บริการและการดำเนินธุรกิจของพันธมิตรในครั้งนี้ทั่วประเทศ เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จึงเชื่อมั่นว่า เป้าหมายการเปิดให้บริการทั้งสิ้น 1,000 สถานี จะบรรลุได้ภายในปีนี้
ภายใต้เครื่องหมายการค้า EA Anywhere และโมบายล์ แอพพลิเคชั่น รองรับการใช้งาน
“เรามีความพร้อมสูงที่สุดด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งสี่รายของเรา นำสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทางด้วยยานยนต์สมัยใหม่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น” นายอมรกล่าว พร้อมเผยว่า บริษัทเริ่มต้นสร้าง EA Anywhere มาตั้งแต่ปี 2560 จากแนวคิดที่จะนำสังคมไทยเข้าสู่ยุคแห่งการเดินทางด้วยยานยนต์สมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มีความปลอดภัย สะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สามประสานที่ไต้หวัน
งานแถลงข่าว 5 พันธมิตรใหญ่จับมือผุดสถานีชาร์จไฟฟ้า
สอดคล้องกับการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า PHEV และ BEV เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในทุกๆ แห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
สามประสานที่ไต้หวัน
“การมีสถานีชาร์จที่เพียงพอและมีคุณภาพ ทันสมัย เป็นเครือข่าย จึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องมี ผู้ใช้รถจึงมั่นใจและกล้าที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น เราจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนที่มีวิสัยทัศน์และแนวคิดคล้ายๆ กัน มาสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ทันสมัย ติดตั้งในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้เข้ารับบริการได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างครบวงจร อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ศูนย์บริการด้านยานยนต์ ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์การค้า และร้านอาหารต่างๆ เป็นต้น” รองซีอีโออีเอกล่าว
การผงาดขึ้นมาของอีเอ จนยืนแถวเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งสี่ในงานนี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อมองว่าอีเอเพิ่งแจ้งเกิดเมื่อปี 2549 ในนามบริษัท ซันเทคปาล์มออยล์ จำกัด จากนั้นอีกสองปี แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อขยายธุรกิจใหญ่โตมาอย่างต่อเนื่อง
สามประสานที่ไต้หวัน
สถานีชาร์จอีเอ เอนีแวร์ จะติดตั้ง 1,000 จุดทั่วประเทศ
ปัจจุบันอีเอมีธุรกิจหลักๆ 5 ธุรกิจ 1.น้ำมันไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์และผลิตภัณฑ์พลอยได้ 2.กระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มุ่งเน้นพลังงานจากแสงอาทิตย์และลม
3.แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า 4.สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับ ยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ EA Anywhere
5.ยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ Mine Mobility และ เรือไฟฟ้า
“บริษัทอีเอของเราที่ย่อมาจากคำว่า Energy Absolute แทนที่จะเป็น Absolute Energy หรือชื่อบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เพราะเป็นเจตนาและความตั้งใจที่จะสื่อถึงความฝันของบริษัทว่า เราต้องการเป็นความบริสุทธิ์ที่มีพลัง” สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด บรรยายถึงที่มาที่ไปโดยสรุปสั้นๆ ระหว่างพาคณะสื่อมวลชนดูกิจการของบริษัทและพันธมิตรช่วงปลายเดือนมิถุนายน ที่ไต้หวัน
ทำไมต้องเป็นที่ไต้หวัน ?
นั่นเพราะเป็นที่ที่อีเอพบรัก (ทางธุรกิจและเทคโนโลยี) กับบริษัทและองค์กรพันธมิตรที่ร่วมศึกษาวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด
หนึ่งคือ บริษัท AMITA Technologies Inc. ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม
และอีกหนึ่งคือ ITRI สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม