แนะนำ 3 ช่องทาง การลงทุน ฉบับคนรุ่นใหม่ รู้ก่อนรวยก่อน สมัยนี้ต้องยอมรับว่าการมีรายได้ทางเดียวนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเพิ่งเริ่มทำ
งานสร้างฐานะ เพราะทั้งของกิน ของใช้ และบริการขยับราคาสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ของพนักงานประจำที่ค่อนข้างคงที่ต่อเดือน ในขณะเดียวกันเจ้าของธุรกิจเองก็ต้องจำใจยอมรับกับยอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจนำเงินเก็บมาลงทุนเพื่อเพิ่มกำไรมากขึ้น แทนที่จะปล่อยให้นอนนิ่งในบัญชีออมทรัพย์ ทั้งนี้ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินมากขึ้น เพราะสามารถนำไปใช้เพื่อขอ สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อรถยนต์ แต่ถึงอย่างนั้นปัจจุบันนั้นมีช่องทางลงทุนให้เลือกมากมายหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น การแลกเงินไว้เพื่อรอให้อัตรา
currency exchange ปรับตัวสูงขึ้น หุ้น หรือ
กองทุน เป็นต้น ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 3 ช่องทาง การลงทุน ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่มาฝาก แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
1.การฝากประจำกับธนาคาร
นับได้ว่าเป็นการลงทุนของพื้นฐานของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเก็บเงิน เนื่องจากการลงทุนวิธีนี้เทียบไม่มีความเสี่ยง อีกทั้งผู้ลงทุนยังไม่จำเป็นต้องมีความรู้และศึกษาด้านการลงทุนอีกด้วย เพราะขั้นตอนการฝากประจำนั้นเหมือนกับการฝากออมทรัพย์ทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่ต้องฝากเงินเป็นประจำทุกเดือนตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดและไม่สามารถถอนเงินสดออกมาได้ สำหรับผลตอบแทนนั้นจะอยู่ในรูปของ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เช่น บัญชีเงินฝากโบนัสหรือบัญชีเงินฝากระยะยาว 24 เดือนของธนาคารไทยพาณิชย์จะให้ดอกเบี้ยประมาณ 2.5-2.75%
2.การซื้อ ประกันชีวิต
อีกหนึ่งการลงทุนที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบความเสี่ยง ต้องการเก็บเงินก้อนใหญ่เมื่อครบกำหนดสัญญา และผลประโยชน์ด้านอื่นรวมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การลดหย่อนภาษี ความคุ้มครองสุขภาพ ความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต แต่ข้อเสียการลงทุนกับการประกันชีวิตผู้ลงทุนอาจต้องใช้เงินลงทุนต่อปีจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อปีขึ้นไป โดยต้องชำระในอัตราที่เท่ากันต่อเนื่องและรอจนกว่าจะครบกำหนดเวลา จึงจะได้รับเงินก้อนตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร เพราะฉะนั้นการลงทุนด้วยการซื้อ ประกันชีวิต จึงเหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ต่อเดือนสูงและมีวินัยทางการเงินในระดับดีเยี่ยม
3.เลือกลงทุนกับ
กองทุนรวม
การลงทุนที่น่าสนใจแบบสุดท้ายที่กำลังได้รับความนิยมมากตอนนี้ เพราะนักลงทุนสามารถซื้อขายและศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลของกองทุนรวมต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าการลงทุนนี้จะมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุน 2 แบบแรก แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีผู้จัดการกองทุนคอยทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์แทนนักลงทุน ทำให้เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาอย่างเจ้าของธุรกิจและพนักงานประจำ
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 3 ช่องทาง การลงทุน ที่เรานำมาฝาก อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินในเลือกว่าจะลงทุนแบบไหนนั้น ควรศึกษาข้อมูล ความเสี่ยง ผลตอบแทน และความพร้อมทางการเงินของตัวเองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว