ปัจจุบัน
โทรศัพท์มือถือ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากกว่าการโทรออกรับสายเฉกเช่นในอดีต เพราะเดี๋ยวนี้เราใช้โทรศัพท์ดูหนัง
ฟังเพลง เล่นเกม เช็คข่าวสาร และใช้ทำ
งาน ใช้แทนบัตรเครดิต ซื้อขายสินค้าออนไลน์และอีกสารพัด ดังนั้นการจะซื้อ
มือถือซักเครื่อง ถ้าอยากได้รับประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ คือต้อง
เช็คสเปคมือถือ ให้เป็น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งบางทีของแพงก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เสมอไป ดังนั้นวันนี้เราจึงเอา “วิธี
เช็คสเปคมือถือ ” เอามาฝาก ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ
วิธี
เช็คสเปคมือถือ 1.ดูที่ “OS”(Operating System) จุดแรกคือพื้นฐานที่สำคัญในการ
เช็คสเปคมือถือ นั่นก็คือ “ระบบปฏิบัติการณ์” ที่ในตลาดตอนนี้มีด้วยกัน 4 ระบบหลัก ๆ ได้แก่ Windows Phone และ Blacbery OS แต่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ ios และ,Android
2.ดูที่ “ไซส์จอ ในปัจจุบัน โทรศัพท์สมาร์ทโฟน มีด้วยกันหลายขนาด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ไซส์ทางกายภาพ ดังนี้
โทรศัพท์ ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 3.5 – 5 นิ้ว นับจากมุมทแยง -แฟบเล็ท (Phablet) -โทรศัพท์ ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 5.0 – 7.0 นิ้ว นับจากมุมแยงมุม-แท็บเล็ต (Tablet) - อุปกรณ์ “แท็บเล็ต
คอมพิวเตอร์” ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 7 นิ้ว ขึ้นไป นับจากมุมทแยง
3.ไซส์ดิจิตอล” หรือ ความคมชัดของหน้าจอ
เช็คสเปคมือถือ อันนี้ก็สำคัญ ยิ่งตัวเลขเยอะ ยิ่งคมชัด แน่นอนว่าราคาก็ยิ่งแพงไปด้วย นอกจากไซส์แล้ว ยังมีเรื่องของการแสดงผล การให้สีสันต่าง ๆ ที่ควรรู้ไว้ โดยปัจจุบัน มี 3 เทคโนโลยีที่ใช้งานกันอยู่ได้แก่ LCD TFT เป็นจอที่พบได้ใน
โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าง ๆ ในปัจจุบัน
IPS เป็นหน้าจอที่แสดงสีสันสดใส ด้วยองศาในการมองที่กว้างมากกว่า LCD TFT
Amolet เป็นประเภทจอที่ให้สีสันคมชัดที่สุด มีการตอบสนองที่ฉับไว บวกองศาการมองที่กว้าง แถมประหยัดพลังงานกว่าสองแบบแรก ข้อเสียหลัก ๆ เลยคือ สีมีความจัดจ้านคมชัดจน “เพี้ยน” จึงไม่เหมาะกับการถ่ายรูปที่เน้นจุดเด่น
4.ดูที่ “GPU” การ์ดจอ” เหมือนกับ PC ในบ้าน เพียงแต่อาจจะยังไม่เน้นหนักมากนัก ถ้าไม่ได้เอามาเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์จริงจัง เพราะการแสดงผลกราฟฟิกด้าน 3 มิติ นั้นจะมีความสวยงามมากน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้ GPU ยิ่ง GPU คุณภาพดี มีความแรงสูง การประมวลผลด้านงานภาพ ก็จะยิ่งดี ไหลลื่นกว่า การที่มือถือมี GPU ที่ดี จะเพิ่มความสามารถด้าน VR ได้เด่นชัดขึ้น โดยหลัก ๆ จะมี 3 ยี่ห้อก็คือ Qualcomm Adreno / NVIDIA GeForce Tegra และ PowerVR
5.ดูที่ “CPU” (Central Prosessing Unit) อันนี้ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ความแรงของเครื่อง เพราะการประมวลผล การเปิดแอพ การเล่นเกมก็จะมีเจ้า CPU เป็นตัวชี้วัดเช่นกัน ยิ่งมี หน่วยประมวลผล (Core) และ สัญญาณนาฬิกา (GHz – กิ๊กกะเฮิร์ซ) เป็นตัวชี้วัดรองลงมา
6.ดูที่ “ROM” และ”RAM” Rom - พื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Storage)ไฟล์ต่าง ๆ รวมไปถึงระบบปฏิบัติการณ์ ที่ติดตั้งภายในตัวเครื่อง ยิ่งเยอะ ยิ่งจัดเก็บได้มาก (แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็ต้องหา SD Card ความจุเยอะ ๆ มาใส่เอาเอง)
7.ดูที่ “กล้อง” กล้องถ่ายรูปในมือถือปัจจุบัน ก้าวหน้าไปมาก ด้วยแอพที่ช่วยทำให้ถ่ายรูปสวย ดูสนุก และไปได้ทุกที่ ดังนั้นถ้าใครชอบถ่ายรูป หรือต้องการถ่ายรูปรีวิวสินค้าออนไลน์ การที่กล้องมีค่า Pixel เยอะ ๆ ก็ย่อมดี
8.ดูที่ ความจุของแบตเตอรี่ ก็เป็นส่วนสำคัญ ควรจะดูที่ความจุของแบตถึง 5000 mAh ขึ้นไป
9.ดูที่ “การรับ 4G / 3G” และ “คลื่นความถี่ความเร็วอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นถือว่าเร็ว แรง และค่อนข้างครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว การแบ่งคลื่นความถี่” โดยคลื่นความถี่ที่รองรับก็จะมีผู้ให้บริการแตกต่างกันไป
แหละทั้งหมดนี้ก็ล้วนคือวิธีในการ
เช็คสเปคมือถือ ดี ๆ ที่เราได้นำมาฝากให้กับทุก ๆ คนได้ทราบอย่างทั่วกัน หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากนี้ น่าจะเป็นตัวช่วยในการซื้อโทรศัพท์มือถือให้คุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องรู้จุดประสงค์ว่าเราจะซื้อมาทำอะไรด้วย เพื่อที่จะช่วยให้สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น และคุ้มค่ากับการใช้งานได้อย่างดีที่สุด